ร้านดัง แม่โจ้ ว่าไม่ได้เลยทีเดียวกับเส้นทางรอบมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่มีร้านอร่อยหลากหลายมากมายรูปแบบให้เลือก ตั้งแต่คาเฟ่แสนเก๋ ไปจนถึงร้านส้มตำบ้านๆ ร้านข้างทางสุดเด็ดเผ็ดแซ่บ เข้าถึงบรรยากาศความเป็นแม่โจ้สุดๆ ซึ่งหลังจากสอบถามบรรดาชาวบ้านและนักศึกษาละแวกนั้น ร้านเหล่านี้จัดว่าดี จัดว่าใช่ จัดว่าโดนใจคนละแวก ม.แม่โจ้ยิ่งนัก (**หมายเหตุ ลำดับที่ใส่เพื่อความสะดวกในการนับ ไม่ใช่การจัดอันดับแต่อย่างใด**)
1. ก๋วยเตี๋ยวเรือครูใหญ่
พิกัด ถนนเส้นหลักเชียงใหม่-พร้าว ห่างจากหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ประมาณ 800 เมตร
เวลาเปิด-ปิด 08.00-15.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 081-6724146
ก๋วยเตี๋ยวเรือที่เปิดมานานกว่า 10 ปี เพิ่งย้ายจากร้านเดิมมาร้านใหม่ได้ประมาณ 2-3 เดือน (ห่างจากร้านเดิมประมาณ 800 เมตร) เป็นร้านประจำของบรรดาคนทำงานและนักศึกษาละแวกนั้น
คุณพ่อเจ้าของร้านเป็นคนอยุธยา ปรุงรสชาติออกมากลมกล่อมจัดจ้าน แต่ไม่ฉุนเครื่องเทศ แถมจัดเต็มให้เครื่องมาเพียบ มีให้เลือกทั้งลูกชิ้นหมู หมูหมัก ตับ ไส้ แต่ที่ขายดีคือก๋วยเตี๋ยวเรือหมูตุ๋น ที่ตุ๋นหมูนาน 3 ชั่วโมงจนนุ่มลิ้น นอกจากนี้มีเมนูอื่นๆ ให้เลือกเพียบ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือคากิ ลวกจิ้ม ข้าวหมูตุ๋น ข้าวคากิ ฯลฯ
ทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จสั่งขนมถ้วยมาล้างปากต่อ ฟินสุดๆ ทางร้านบอกว่าร้านนี้มีสาขานี้สาขาเดียว ไม่มีสาขาอื่น ใครเห็นชื่อคล้ายกันก็อย่าเข้าใจผิด
2. สเต็กหลังโดม
พิกัด หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตรงข้ามมินิมาร์ทอินทนิน
เวลาเปิด-ปิด 11.00-21.00 น. หยุดทุกวันที่ 1 และ 16
โทรศัพท์ 086-3327850
Facebook สเต็กหลังโดม
ร้านสเต็กฝีมือนักศึกษา ม.แม่โจ้ ที่เปิดให้บริการได้ไม่นาน แต่การันตีเรื่องรสชาติได้แน่นอน พิสูจน์จากลูกค้าประจำที่เป็นอาจารย์และนักศึกษารุ่นพี่ เมนูมีให้เลือกเพียบทั้งสเต็ก เบอร์เกอร์ สปาเก็ตตี้ สลัด ข้าว และของทานเล่น
เมนูเด่นต้องยกให้กับสเต็ก วิธีสั่งเริ่มจากเลือกเนื้อสัตว์ก่อน ทั้งไก่ ไก่อบชีส ปลา หมู เนื้อ ราคาเริ่มต้นที่ 49 บาท จากนั้นก็เลือกซอส ซึ่งทางร้านปรุงขึ้นมาเอง อาทิ ซอสพริกไทยดำ ครีมซอส น้ำจิ้มแจ่ว บาร์บีคิว เทอริยากิ แล้วเลือกของทานคู่กัน อย่างเฟรนช์ฟราย มันบด สลัดผัก สปาเก็ตตี้ และขนมปังกระเทียม ซึ่งซอสและของทานคู่กันสามารถเลือกได้ 2 อย่าง แนะนำซอสบาร์บีคิว เด็ดมากๆ ส่วนของทานคู่กันมันบดกับสลัดผักไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
วัตถุดิบที่ใช้มาจากตลาดท้องถิ่น ส่วนผักมาจากฟาร์มไฮโดรโปนิกส์ รับประกันความสดใหม่ และอีกเมนูที่พลาดไม่ได้คือมันบดอบชีส เมนูขายดีที่มาแล้วต้องสั่ง ไม่อย่างนั้นจะเสียใจ
3. Cafe Woodhouse
พิกัด หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทางไปฟาร์ม 900 ไร่ หรือวัดดอยแท่นพระ
เวลาเปิด-ปิด 09.00-17.30 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 090-3179646
Facebook Cafe’ Woodhouse – คาเฟ่บ้านไม้
มนต์เสน่ห์ของแม่โจ้ที่ใครๆ จะต้องหลงรัก กับคาเฟ่ที่จำลองความเป็นบ้านไทยโบราณสไตล์ล้านนาประยุกต์ ท่ามกลางบรรยากาศฟาร์มที่แสนจะร่มรื่น โดยตัวบ้านใช้ไม้เก่าจากบ้านหลังเดิมมาสร้างใหม่ ตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้าน ได้อารมณ์ผ่อนคลายไม่หยอก โซนด้านนอกนั่งชมวิวท้องทุ่งเพลินๆ รับลมเย็นๆ ชิลล์สุดๆ
คาเฟ่แห่งนี้ถือเป็นร้านแรกๆ ในโซนนี้ เปิดบริการมา 2 ปีแล้ว มีเมนูให้เลือกทั้งชา กาแฟ เครื่องดื่มเย็นๆ สดชื่น อย่างน้ำผลไม้ปั่นแยกกาก สมูตตี้ อิตาเลี่ยนโซดา ทั้งเค้กและขนมต่างๆ อาทิ ชีสสโคน ช็อกโกแลตลาวา ทิรามิสุ ซึ่งเป็นเมนูที่ทางร้านทำเอง รวมทั้งแยมสตรอเบอร์รี่ ที่ใช้สตรอเบอร์รี่จากฟาร์มของตัวเองมาผลิตแบบโฮมเมด ไม่ใส่สารกันเสีย หากใครชอบก็สามารถขอติดต่อซื้อกลับไปได้
ช่วงวันธรรมดาลูกค้าที่เป็นอาจารย์และนักศึกษาจะหนาตาช่วงบ่าย 3-4 โมง แต่ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นแก๊งครอบครัวและแก๊งสิงห์นักปั่นที่จัดทริปปั่นจักรยานตามเส้นทางจากฟาร์มไปยังวัดดอยแท่นพระ ใครที่ผ่านมาแถวแม่โจ้แล้วมองหาคาเฟ่ไว้พักหย่อนใจให้คลายเครียด แนะนำที่นี่เลย
4. บ้านกาแฟ Maison du Cafe
พิกัด ซอยวัดทุ่งปากเก็ด หนองหาร
เวลาเปิด-ปิด 07.30-19.30 น. หยุดวันจันทร์
โทรศัพท์ 091-0791314
Facebook Maison Du Cafe
บ้านหลังใหญ่พื้นที่กว้างขวาง ข้างๆ เป็นวิวทุ่งนา พาให้ชวนนั่งเพลินยิ่งนัก กว่า 4 ปีที่บ้านหลังนี้เปิดบริการ โดยมีทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม ของทานเล่น เค้ก อาหารจานเดียว จนกระทั่งเบียร์ เรียกว่าใครอยากพักผ่อนไปกับอาหารแบบไหน มีให้พร้อมสรรพไม่ต้องไปไหนไกล
นอกจากอาหารจะหลากหลายแล้ว โซนที่นั่งก็ยังมีให้เลือกตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโซนภายในบ้านเปิดแอร์เย็นสบาย ที่แบ่งเป็นโซนนั่งสบายตรงโซฟาตัวใหญ่ โซนด้านในสำหรับนั่งพื้นอ่านหนังสือ ส่วนโซนเอ้าท์ดอร์มีทั้งโซนหน้าร้านที่หันไปทางสวนสีเขียว และโซนยอดนิยมคือโซนที่หันหน้าไปทางทุ่งนา ที่มีนั่งโต๊ะตัวใหญ่และเก้าอี้หวายรังนกให้นั่งชมวิวสบายๆ
ลูกค้าที่มาที่นี่นอกจากจะมีทั้งกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานย่านแม่โจ้แล้ว ยังมีนักศึกษาจากสถาบันอื่นอย่างมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยพายัพแวะมาเป็นประจำอีกด้วย ยิ่งช่วงใกล้สอบจะขนกันมานั่งอ่านหนังสือกันเต็มร้าน
5. Lucky Bunny
พิกัด หมู่บ้านนนนิภา ซอยทุ่งหมื่นน้อย ตรงข้ามมหาวิทยาลัยแม่โจ้
เวลาเปิด-ปิด 11.00-18.00 น. หยุดทุกวันพฤหัส
โทรศัพท์ 085-1955465
Facebook Lucky Bunny Cafe’ Restaurant
คนรักสัตว์ทั้งหลายต้องไปพลาดกับคาเฟ่กระต่ายแห่งนี้ ที่รวมกระต่ายกว่า 36 ตัว เป็นสายพันธุ์นอกแท้ถึง 9 สายพันธุ์ คิดค่าบริการคนละ 150 บาท ภายในร้านมีโซนคาเฟ่ที่บริการอาหารคุณภาพระดับดีเยี่ยม ทั้งกุ้งชุบขนมปังทอด ที่ใช้กุ้งคุณภาพส่งออกญี่ปุ่น ลูกชิ้นกุ้งที่ไม่มีแป้งผสม ทอดมันกุ้งผสมปลา ซึ่งล้วนใช้กุ้งเนื้อขาวทั้งหมด ส่วนของหวานแนะนำวาฟเฟิ้ลช็อกโกแลตกล้วย เสิร์ฟคู่กับไอศกรีม และพุดดิ้งมะพร้าวอ่อน สำหรับกาแฟใช้เมล็ดกาแฟออแกนิกส์ และยังมีเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจด้วย
นอกจากโซนคาเฟ่แล้ว ยังมีโซนสำหรับดูโชว์กระต่าย ซึ่งเป็นการแสดงความสามารถของกระต่ายนาน 1 ชั่วโมง ทั้งยกน้ำหนัก เดิน 2 ขา เตะลูกบอล ฯลฯ ใครจะแวะมาต้องโทร.จองล่วงหน้า เพราะทางร้านจะแบ่งโชว์เป็น 3 รอบคือ 11 โมง บ่าย 2 และ 4 โมงเย็น ส่วนคนที่อยากนำกระต่ายตัวเองมาเล่นด้วย เสียค่าบริการ 100 บาท และต้องตรวจสุขภาพกระต่ายให้เรียบร้อยก่อน
สำหรับคนที่ต้องการหาอะไรอร่อยๆ ทานในบรรยากาศคาเฟ่แสนหวานน่ารัก หรืออยากมาพักเล่นกับกระต่ายยามว่าง น่าจะถูกใจที่นี่แน่ๆ นอกจากนี้ยังมีกระต่ายจำหน่าย พร้อมให้ความรู้เรื่องวิธีการเลี้ยงกระต่ายอย่างถูกต้องอีกด้วย
6. ส้มตำซาร่า
พิกัด หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก่อนถึงคณะสัตวศาสตร์
เวลาเปิด-ปิด 10.00-24.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 097-9903044
ถ้าถามถึงร้านส้มตำขวัญใจนักศึกษา ม.แม่โจ้ หลายคนยกให้ส้มตำซาร่า ร้านส้มตำบ้านๆ แต่ละลานด้วยเมนูเด็ดถึงใจให้เลือกเพียบ ทั้งส้มตำปูปลาร้า ตำป่า ตำมั่ว ตำหอยดอง ตำผลไม้ ตำข้าวโพด บางครั้งเจ๊ซาร่า แม่ค้าคนเก่งประจำร้านก็ดัดแปลงเอาวัตถุดิบตามฤดูกาลมาปรุงเป็นส้มตำจานใหม่ เช่น ตำมะขามอ่อนน้ำปู๋ โดยเน้นรสชาติแซ่บครบรส สั่งความเผ็ดได้ เจ๊ซาร่าจัดให้ ถามไถ่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาแวะซื้อประจำ ต่างบอกว่าเพราะส้มตำรสชาติถูกปาก ราคาไม่แพง และแม่ค้าอัธยาศัยดี
นอกจากส้มตำแล้ว ที่ร้านยังมีปิ้งย่างจำหน่ายด้วย แถมราคาถูกอีกต่างหาก ไส้ย่างและหมูปิ้ง ไม้ละ 5 บาท เครื่องในไก่ไม้ละ 10 บาท ปลาดุกตัวละ 30 บาท และที่เก๋ไปกว่านั้นคือไส้อั่วทำเอง 10 บาท ซึ่งไส้อั่วที่ว่าคือไส้อั่วแม่อำพร ซึ่งเป็นคุณแม่แท้ๆ ของเจ๊ซาร่านั่นเอง ใครอยากทานอาหารอีสานก็มีให้สั่งได้เช่นกัน
ช่วงค่ำเจ๊ซาร่าจะเปลี่ยนบรรยากาศจากร้านส้มตำเป็นร้านเหล้าตอง แต่ยังคงเมนูความแซ่บไว้ครบถ้วน ส่วนช่วงบ่ายจำหน่ายอาหารตามสั่งเพิ่มเติมให้ด้วย ทานส้มตำแซ่บๆ พร้อมกับฟังเพลงกำเมืองไป ได้บรรยากาศสุดๆ
7. แม่โจ้ป๊อปคอร์น
พิกัด ถนนหลิ่งมื่น
เวลาเปิด-ปิด 08.00-18.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 089-4555300
ป๊อปคอร์นกรอบกรุบทานเพลิน สูตรของครอบครัวที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ด้วยสไตล์ไม่เหมือนใคร ซึ่งหลังจากทำมา 5 เดือนก็เริ่มติดตลาด โดยตอนนี้มีการคิดค้นสูตรและรสชาติใหม่ออกจำหน่ายทั้งหมด 6 ได้แก่ รสหวาน รสชีส รสบาร์บีคิว รสสาหร่าย รสช็อกโกแลต และรสปลาหมึกย่าง ตั้งขายหน้าร้านและรับออเดอร์ตามสั่ง บรรจุถุงอย่างดี ราคาถุงละ 25 บาท
ของทานเล่นซึ่งเป็นธุรกิจในครอบครัวนี้เป็นที่โปรดปรานบรรดาอาจารย์และนักศึกษาที่นี่ ส่วนมากจะแวะผ่านมาซื้อหน้าร้าน เอาไปทานเล่นระหว่างทำกิจกรรมบ้าง เป็นของฝากบ้าง หากใครต้องการสั่งจำนวนมาก ก็สามารถโทร. มาคุยก่อนล่วงหน้าได้ แวะผ่านมาแถวนี้ก็อย่าลืมหิ้วติดไม้ติดมือกลับไปคนละถุงสองถุงล่ะ
8. อ้อยนมสด
พิกัด ถนนหลิงมื่น
เวลาเปิด-ปิด 13.00-23.30 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 081-8103889
ถ้าพูดถึงร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ต้องมีร้านนมยอดนิยมเป็นแน่แท้ ซึ่งร้านนมแห่งนี้จริงๆ แล้วเปิดบริการมานานกว่า 20 ปี เจ้าของเดียวกับอ้อยนมสดแถวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนจะประกาศเซ้งร้านให้คนอื่นมาดูแลกิจการต่อ โดยเจ้าของใหม่ได้เข้ามาบริการงานได้เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว (ส่วนสาขา มช. เปลี่ยนชื่อเป็นอ้นนมสดตามเจ้าของใหม่อีกคน)
คอนเซ็ปต์ของร้านนมแห่งนี้คือร้านนมที่เข้าถึงนักศึกษาและชาวบ้านทั่วไป ไม่เน้นอะไรที่หวือหวาและราคาแพง แต่เน้นไปที่คุณภาพและความอร่อยแทน อย่างนมที่ใช้เป็นของสหกรณ์โคนมแม่โจ้ ที่ได้คุณภาพและมาตรฐานโดยตรง ส่วนเมนูขนมปังมีทั้งขนมปังนึ่ง ขนมปังปิ้ง และขนมปังเย็น จานเด่นของร้านคือขนมปังนึ่งที่เสิร์ฟพร้อมสังขยา 3 รส ทั้งวานิลลา ใบเตย และช็อกโกแลต
นักศึกษาแม่โจ้ส่วนมากจะเริ่มมาสังสรรค์ดื่มนมกันช่วง 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ส่วนชาวบ้านมักจะซื้อไปทานที่บ้านกับครอบครัวมากกว่า ถ้าเป็นช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ คนเยอะตลอดทั้งวัน
9. ซุปกระดูกแม่โจ้
พิกัด อยู่ระหว่างฝั่งบางเขนกับถนนหลิงมื่น ตรงข้ามกับโรงแรมนานาชาติ ม.แม่โจ้
เวลาเปิด-ปิด 16.00-02.00 น. หยุดวันพุธ
โทรศัพท์ 083-0504121
Facebook ซุปกระดูก แม่โจ้
ซุปกระดูก ร้านดัง แม่โจ้ ที่เปิดบริการมานานกว่า 4 ปี ก่อนจะขยายความอร่อยไปยังสาขา 2 กาดมาลิน หน้ามช. และสาขา 3 สันติธรรม ซึ่งแต่ละสาขาก็มีเอกลักษณ์และเมนูแตกต่างกันไป แต่รสชาตินั้นเหมือนกันเพราะสูตรและคนปรุงนั้นมาจากคนเดียว คือคุณเบลล์-หนึ่งฤทัย แสนอาสน์ โดยสาขาแรกนี้จัดมาแบบครบเครื่องสุดๆ อย่างเมนูบะหมี่สเต็กหมูแดง ที่ใช้สันคอหมู ราดน้ำหมูแดง เสิร์ฟพร้อมไข่ออนเซ็น น่าทานสุดๆ และซุปกระดูกคอมโบ้ ที่ขนมาทั้งลูกชิ้น หมูแดง หมูกรอบ ไข่ต้ม เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว
จุดเด่นของซุปกระดูกสาขาแรกนี้อยู่ที่ลูกค้าสามารถเลือกออกแบบจานอร่อยของตัวเองได้ จะสั่งซุปกระดูกกับเส้น หรือซุปกระดูกเพิ่มท็อปปิ้ง ทานกับข้าวเปล่า ได้ตามแต่ใจต้องการเลย และยังสามารถเลือกน้ำซุปว่าจะเป็นน้ำใสหรือน้ำต้มยำอีกต่างหาก มาบ่อยๆ ไม่มีเบื่อแน่นอน
ใครมาที่ร้านแนะนำให้ไปหยิบไม้คิวที่เป็นใบพายไว้ก่อน เอาเลขอะไรก็ได้ จากนั้นจึงเขียนสั่งเมนูและหมายเลขบนใบพายที่ตัวเองถือไว้ ปกติลูกค้าจะหนาตาช่วงเย็นจนถึงค่ำ คือตั้งแต่ 16.00-22.00 น. แล้วมาอีกทีคือหลังเที่ยงคืน เป็นกลุ่มที่มาแวะทานหลังเที่ยวเสร็จ ส่วนศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เป็นกลุ่มครอบครัว และหากวันใดมหาวิทยาลัยแม่โจ้มีกิจกรรม ทางร้านจะขยายเวลาปิด เพื่อให้นักศึกษาได้แวะมาทานกันก่อนนอน
10. หมึกดำ
พิกัด หน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เลย 7-11 บริเวณใกล้กับสะพานลอย
เวลาเปิด-ปิด 18.30-23.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 086-8256010
ร้านปิ้งย่างหน้ามหาวิทยาลัยที่จำหน่ายซีฟู้ดคุณภาพเยี่ยม ทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่และปลาหมึกกล้วย แถมด้วยเห็ดฟางเสียบไม้ โดยคุณลุงดำ เจ้าของร้าน เป็นคนไปเลือกวัตถุดิบกับมือจากตลาด คัดคุณภาพสุดๆ จากนั้นพอลูกค้าสั่งจึงนำมาย่าง ทาด้วยซอสปรุงรส รอจนสุกประมาณ 5 นาที แล้วทานกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน ฟินสุดๆ
คุณลุงดำบอกว่าช่วงฤดูฝนจะมีเมนูเด็ดขายดีคือปลาหมึกไข่ ซึ่งเป็นอะไรที่คนนิยมกันมาก ราคาซีฟู้ดก็มีขึ้นลงไปตามราคาตลาด อย่างช่วงนี้หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวละ 25 บาท ปลาหมึกกล้วยตัวละ 20-25 บาท หนวดปลาหมึกกระดองไม้ละ 15 บาท เห็ดฟางไม้ละ 10 บาท ลูกค้าร้านนี้มีทั้งนักศึกษาและพนักงานย่านแม่โจ้ รวมทั้งลูกค้าที่มาจากในเมืองเพื่อมุ่งหน้ามาทานโดยเฉพาะ ทั้งจากสันกำแพง สันติธรรม และนักศึกษามช. โดยจะโทร. มาล่วงหน้าก่อน
ซีฟู้ดของคุณลุงดำเรียกได้ว่าไม่มีกลิ่นคาวเลย อีกทั้งใช้เตาถ่านปิ้งย่างและทาเนยประกอบ ทำให้หอมสุดๆ ที่ชอบอีกอย่างคือคุณลุงติดตั้งปล่องดูดควันไว้ด้วย คุณลุงบอกว่าไม่อยากให้ควันรบกวนคนอื่นๆ อีกทั้งยังสอนวิธีกินหอยให้อร่อย โดยเริ่มจากการใช้มือหยิบมือมาซดน้ำในหอยก่อน แล้วจึงค่อยทานเนื้อหอย ที่ร้านมีแตงกวาสดชื่นใจให้ทานแกล้มฟรี ใครจะไปซื้อเบียร์เย็นๆ จากร้านสะดวกซื้อมาจิบก็ได้ ด้านหลังคุณลุงจัดโต๊ะเล็กๆ ให้นั่ง แต่ถ้าจะให้ได้บรรยากาศต้องยืนกินเท่านั้น
ท่านใดมี ร้านดัง แม่โจ้ หรือร้านอร่อยๆ รอบ ม.แม่โจ้ เด็ดๆ แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ