เที่ยวเชียงใหม่ มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ “เชียงใหม่” ถือว่าเป็นจังหวัดท็อป ๆ ในไทย ที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาติชอบมาเที่ยว ด้วยความที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ชอปปิ้ง คาเฟ่ ที่ถ่ายรูป ชิค ๆ เพียบ!! แต่สำหรับใครที่มาบ่อยแล้ว ก็อาจจะคิดว่าเก็บที่เที่ยวในเชียงใหม่หมดแล้ว แต่ยังหรอกจ้ะ
เที่ยวเชียงใหม่ ในปี 2021
มีใหม่มาอีกเพียบหรือว่าใครที่ยังไม่เคยมาเชียงใหม่เอาไว้เป็นไอเดียเป็นแนวทางว่ามีที่ไหนใหม่น่าไปเช็คอินบ้าง นั้นเป็นสาเหตุที่เรามาอัปเดตกันวันนี้ บอกได้เลยว่าหลากหลายเหมาะกับทุกคน ที่สำคัญเที่ยวแล้วไม่เบื่อแน่นอน เพราะมีกิจกรรมให้ทำอย่างแน่นอน ทั้งบุกป่า ลงน้ำ ถ่ายรูป ผจญภัย บอกให้เลยพี่สาวว่าปัง! พร้อมรึยัง? ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
1. สวนส้มจินจู JINJU the orange farm

แลนด์มาร์คเที่ยวเชียงใหม่ ที่แรกสวนส้มจินจูก่อนที่จะไปหา inspiration เยอะมากเพราะคาดหวังว่าฉันต้องได้รูปสวยๆ กลับมา เปิดทั้งไอจี Facebook หามุมถ่ายรูปไว้รอ การเดินทางสำหรับใครที่เมารถก็เตรียมถุงไว้รอเลย หรือโดปยาสลบให้ตัวเองหลับไปเลย เพราะทางค่อนข้างคดเคี้ยว เลี้ยวลด ตอนแรกเปิด GPS ไป หวั่นใจมากว่าจะหลงมั้ย เพราะไม่มีป้ายอะไรเลย
แต่พอไปใกล้ๆ ถึง ก็มีป้ายแล้วไม่ต้องห่วง พอไปถึงใครที่ขับรถยนต์ไปก็ให้เอารถไปจอดที่ลานจอดรถด้านบนแล้วโทรหาพี่เค้า แล้วจะมีรถมารับอย่างทันท่วงที ใครที่ขับมอไซต์ ก็ขี่เข้าไปตรงทางเข้าสวนได้เลย


ค่าเข้าคนละ 50 บาท จะได้อุปกรณ์ในการเก็บส้มมา เลือกเก็บเองได้เลย แต่ต้นไหนที่มีป้ายว่า “No” ก็ห้ามเก็บนะจ้ะ
พลาดไม่ได้ คือมุมถ่ายรูปถ่ายรูปมากกว่า 2,500 มุม!! ไม่ได้เวอร์ไปใช่มั้ย แค่อยากจะบอกว่า ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แนะนำว่าให้ใส่ชุดสีขาวไปจะได้ตัดกับสีเขียว กับสีส้ม เราไปวันศุกร์คนถือว่าน้อย เพราะเราทักไปถามในเพจพี่เขาแนะนำให้มาวันธรรมดา


ส่วนใครที่ไม่ชอบถ่ายรูปไปนั่งเล่นในสวนส้มก็ได้ มีน้ำส้มคั้นสด ๆ แก้วละ 50 บาทเอง แต่อร่อยเกินเบอร์มาก ซื้อขนม นม เนย มานั่งปิกนิกกันในสวนส้มก็เก๋ไปอีกแบบ มองสวนส้มตัดกับวิวภูเขา ดีจริง ๆ ช่วงที่เราไปส้มพร้อมที่จะเก็บแล้ว ส้มเต็มต้นเลย

ใครที่อยากได้รูปสวย ๆ แนะนำที่สวนส้มจินจูเลย แต่ถ้าจะไปก็ให้เช็กกับทางสวนก่อนว่าช่วงนี้มีส้มมั้ย สวนเปิดหรือป่าว เพราะจะเปิดช่วงที่มีส้มเท่านั้น ตั้งแต่เดือนธันวา-กุมภา แต่อาจจะยืด ๆ ไปจนถึงเดือนมีนา ใครที่อยากจะมาก็อาจจะต้องมาให้ถูกช่วง แล้วก็วางแผนดี ๆ ด้วย
ใครอยากตามไป รายละเอียดตามด้านล่างเลย!
- พิกัด: สวนส้มจินจู JINJU the orange farm อำเภอแม่ริม
- เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.
- Facebook: JINJU the orange farm – สวนส้มจินจู
- โทร: 096-3025211
2. กาดบะป๊าว

เที่ยวเชียงใหม่ ที่ที่สองกาดบะป๊าว มีกาดอยู่ในสวนมะพร้าว? เอ๊ะ หรือมีพร้าวอยู่ในกาด ตอนแรกที่ได้ยินคืองงหนักมาก คิดภาพไม่ออกกันเลยทีเดียว ตอนแรกเพื่อนบอกว่าอยากไปเดินถ่ายรูปเล่นเฉย ๆ อยู่เชียงใหม่อ่ะ แต่ก็อยากได้รูปฟีลไปทะเล
เราไปตอนวันเสาร์ตอน 9 โมง ที่จริงเขาเปิดกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า เรียกได้ว่าเป็นตลาดเช้าก็ยังได้เลย เพราะของกินเยอะมาก ๆ เห็นคนที่แต่งชุดออกกำลังกายเยอะมาก เหมือนเค้าวิ่งออกกำลังกายเสร็จแล้วแวะตลาดหาของกินงี้
สิ่งที่เราชอบที่สุดของกาดนี้ คือ ความชิลของบรรยากาศ ของกิน และคน ทุกคนเหมือนออกมารีแล็กซ์ ใช้เวลาในวันหยุดกัน บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศอ่ะ เหมือนไม่ใช่ตลาดในเชียงใหม่เลย

มาเริ่มต้นที่บรรยากาศก่อนกันเลย คือมันก็เป็นสวนมะพร้าวปลูกเรียงกันเป็นแถว มีร่องน้ำตรงกลางเอาไว้รดน้ำ พอมีต้นมะพร้าวเยอะ ๆ ใบมันก็คลุมบังแดดได้หมดไม่ร้อนเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเลย นี่โดนมากับตัวคือก้านมะพร้าวแห้งที่มันจะตกใส่หัว เวลาเดิน หรือนั่งก็ให้สังเกตด้วยว่ามีต้นไหนที่มันจะตกหรือป่าว ที่นั่งเค้าก็มีเยอะน้า มีที่เป็นแบบเก้าอี้นั่ง แบบที่เป็นฟางให้นั่งก็มีกระจายตามจุดต่าง ๆ ให้อยากนั่งตรงไหนก็ตามสบายเลย

อย่างที่สองก็เลิศ! ไม่แพ้กัน คือเรื่องของกิน ของกินมีให้เลือกเยอะมาก มีอาหารครบทุกภาค เหนือใต้ ออก ตก ก็มีให้เลือกหมด พิซซง พิซซ่า ขนมปัง เค้ก ก็มีให้เลือกหมด ไปตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปไม่คิดว่าจะกินเยอะขนาดนี้ แต่มันห้ามใจบ่ได้จริง ๆ ใครอยากรู้ว่ามีร้านขนมไหนเด็ดเข้าไปอ่าน รวม 8 ร้านขนมใน กาดบะป๊าว กาดชิลๆ บรรยากาศดี ได้เลย!!

อีกอย่างที่แนะนำห้ามพลาด คือกาแฟดริป มันได้ฟีล วันที่เราไปเป็นวันที่ไฟดับ เครื่องบดกาแฟก็ใช้ไม่ได้ สักพักพ่อค้ายื่นเครื่องบดมือมาให้ “น้องบดกาแฟให้พี่หน่อย” นี่ก็ตอบไปอย่างทันควัน “ได้เลยจ้า” ร้านกาแฟดิปไม่ได้มีร้านเดียวนะ มีอีกหลายร้านเลย บางร้านก็ให้ดริปกันเอง บางร้านก็นั่งดริปให้ดู กาแฟถูกมากๆ เริ่มต้นแค่แก้วละ 30 บาท เท่านั้น!

ใครที่อยากมาชิลกับเพื่อน กับครอบครัว กับแฟน ก็มาได้หมด มาใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดกัน แถมยังได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย
ตามไปเช็คอิน รายละเอียดตามนี้เลยค่ะ
- พิกัด: กาดบะป๊าว ก่อนถึงแยกร่วมโชค เลี้ยวซ้ายก่อนถึงปั๊มน้ำมันคาเท็กซ์
- เวลาเปิด – ปิด: วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07:00 – 14:00 น.
- Facebook: กาดบะป๊าว เชียงใหม่
- โทร: 086-6776313
3. กังหันลม ห้วยตึงเฒ่า & TLAY drip and trip


ใครที่เคยมาห้วยตึงเฒ่าแล้วก็อาจจะคิดว่า ห้วยตึงเฒ่ามันมีมานานแล้วนะ ใช่ค่ะ! แต่ตอนนี้เขามีแลนด์มาร์กใหม่แล้วนั้นก็คือ “กังหันลม ห้วยตึงเฒ่า” เป็นกังหันลมที่สูงกว่า 23 เมตร มีบันไดที่ให้ขึ้นไปได้
พอขึ้นไปจะมองเห็นวิวของห้วยตึงเฒ่าได้ 360 องศากันเลยทีเดียว มีพร็อพถ่ายรูปให้ด้วยนะ เราเรียว่าเซตปิกนิกที่ไม่ได้ปิกนิก เอ้า! แต่ก็แกล้ง ๆ ถ่ายรูปได้อยู่ ถ่ายรูปข้างหน้าก็ได้ฟีลเหมือนไปสวิสอยู่นะ เพราะเห็นภูเขาข้างหลัง กับฝูงน้องแกะเล็ก ๆ อยู่ด้วย


หาง่ายมากตั้งอยู่ข้างหลังหุ่นแกะยักษ์ ที่ใช้ขนแกะจริงนะจ๊ะมาทำ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นขนแกะจริง พอไปคุยกับพี่ ๆ เจ้าหน้าที่แล้วพี่เค้าบอกว่าเป็นขนจริง ฉันแทบช็อค ถ่ายรูปกับน้องแกะก็ได้นะ ซื้อหญ้าให้น้องด้วยแล้วน้องจะวิ่งกรู เข้ามาหาเรา

ตรงลานคิงคองยักษ์ก็ยังเที่ยว ถ่ายรูปได้อยู่เหมือนเดิม ใครอยากนั่งทานข้าวตรงบริเวณอ่างเก็บน้ำก็ยังมีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่ ช่วงที่เราไปคือช่วงเช้า เช้าแบบเช้าเลย 10 โมงงี้ คนก็ยังไม่มีเลย อาจจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาด้วยมั้ง
ใครที่อยากได้รูปแบบไม่ติดคน ไม่ต้องเสียเวลาเอาเข้าแอพลบคนให้เหนื่อย ไปวันธรรมดาดีกว่าเยอะเลย อย่าลืมแวะไปนะ ถ้าทุกคนมีเวลา เลือกวันที่อากาศดี ๆ ด้วย

ที่ถัดมาก็อยู่ในห้วยตึงเฒ่าตอนแรกคุยกับพี่ที่ออฟฟิศว่าจะไปถ่ายรูปที่ห้วยตึงเฒ่า แล้วพี่ก็บอกว่า “ไปตามหาร้านนี้ด้วยนะ มันอยู่ในห้วยตึงเฒ่า (พร้อมกับส่งลิงก์มาให้)” พอเปิดเข้าไปในเพจของร้านเท่านั้นแหละทุกคนว้าวซ่ามาก มันคือร้านคาเฟ่เคลื่อนที่ แนวแคมป์ปิ้ง

ร้านชื่อว่า “TLAY drip and trip” อ่านว่าทะเล (ตอนแรกเราอ่านว่าเทรย์) คำว่ามาทะเลมาจากชื่อพี่เจ้าของร้านสองคน “พี่เมย์กับพี่เติ้ล” พี่เขาเป็นเพื่อนกัน
ระหว่างนั่งรอเครื่องดื่มเราก็คุยกับพี่เขาไปเรื่อยๆ คุยไปคุยมาพึ่งรู้ว่าร้านพึ่งเปิดได้สองอาทิตย์ เปิดแค่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่มาเปิดร้านเพราะว่าปกติวันหยุดพี่เค้าก็พากันไปแคมป์ปิ้งนั่งจิบกาแฟกันอยู่แล้วก็เลย มาเปิดร้าน


ที่เห็นร้านอยู่เนี่ยใช้รถแค่คันเดียวในการขนอุปกรณ์ทุกอย่างเราไปตอน 11 โมง ร้านเปิดพอดี แต่พี่เค้ายังตั้งร้านไม่เสร็จ พี่เค้าก็เอาเสื่อปิกนิกมาให้นั่งรอ ปกติพี่เค้าก็จะย้ายร้านไปเรื่อย ๆ
วันนี้อยากเปิดที่นี่ก็เปิด แต่เดือนกุมภานี้พี่เค้าคิดว่าจะปักหลักที่ห้วยตึงเฒ่าไปก่อน ใครที่จะไปถ้าไม่ได้เจอร้าน แล้วไม่ได้ถามก่อนก็ไม่ต้องแปลกใจนะ ใครที่อยากมาพักผ่อนจริง ๆ ไม่รีบ เอาหมา เอาแมว มาวิ่งเล่นได้ เอาเสื่อ เอาเก้าอี้มาด้วยก็ดี เพราะที่นั่งไม่พอ ฮ่าๆๆๆ เราแนะนำให้ไปช่วงเย็นนะ จะได้ไม่ร้อนมาก
ตามไปเช็คอิน รายละเอียดตามนี้เลยจ้ะ
กังหันลม ห้วยตึงเฒ่า
- พิกัด: ห้วยตึงเฒ่า
- เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน เวลา 06:30 – 18:00 น.
- Facebook: ห้วยตึงเฒ่าเชียงใหม่
- โทร: 053-121119, 098-8086599
TLAY drip and trip
- พิกัด: ริมอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ตรงข้ามคิงคองยักษ์
- เวลาเปิด – ปิด: เปิดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 11.11 – 17.11 น.
- Facebook: TLAY drip and trip
- โทร: 086-6056906
4. Rainbow Rice บ้านซาง

เที่ยวเชียงใหม่ที่ที่ 4 ใครบอกว่ามาเชียงใหม่มีแค่สวนดอกไม้เท่านั้น คิดผิดแล้วจ้ะพี่สาว สวนดอกมันเชยไปแล้ว นี่เลยจ้ะแปลงข้าวไปเลย แถมไม่ได้มีสีเดียวนะ มีถึง 7 สี จากที่เราเห็นคาเฟ่ท้องนาทั่วไปข้าวก็จะมีสีเดียว คือสีเขียว
แต่ที่ Rainbow Rice เขามี 7 สี บรรยากาศกลางทุ่งนานั่งฟังเสียงนก เสียงกาไปพลาง ๆ ก็ผ่อนคลายเหมือนกัน เราแนะนำว่าให้ไปตอนเย็น ๆ ช่วงก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก่อน สักพักพระอาทิตย์จะตกก็นั่งชมวิวไปเลย


บรรยากาศทุ่งนาสวย ๆ ที่ไม่ธรรมดา เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าว โดยข้าวที่นำมาปลูกเป็นข้าว 5 สายพันธุ์ที่เรียกว่า “ข้าวสรรพสี” ซึ่งเป็นงานวิจัยของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
รวมกับข้าวเหนียวสันป่าตอง 1 และ ข้าวพันธุ์ IRRI ของสถาบันวิจัยข้าวต่างประเทศ มาปลูกสลับกัน รวมเป็น 7 สีพอดี ปังมา! ไอเดียเลิศมาก


ค่าเข้าคนละ 20 บาทเท่านั้นเอง! ถือว่าคุ้มนะเอาจริง ๆ ได้รูปสวย ๆ กลับบ้านไปโพสตาลง Social สวย ๆ เก๋ ๆ เขามีพวกหัตถกรรมขายด้วยนะ พวกกระเป๋าสาน หมวกสาน สวย ๆ ใครที่เป็นสายถ่ายรูปนกเหมาะเลย เพราะนกพื้นถิ่นเยอะมาก
นาข้าว 7 สี มีให้ดูถึงเดือนมีนาเท่านั้น เพราะใกล้จะถึงช่วงเก็บเกี่ยว ใครที่อยากตามมาเที่ยวก็ต้องรีบกันหน่อย หรืออาจะรอฤดูนาครั้งต่อไป ในอนาคตอาจจะมีผลิตภัณฑ์จากข้าวหลากสีออกมาขาย เรานี่รอเลย มันต้องว้าวซ่าแน่ ๆ
ตามไปว้าวซ่า รายละเอียดตามนี้เลย
- พิกัด: Rainbow Rice บ้านซาง อำเภอแม่ริม
- เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.
- Facebook: Rainbow Rice บ้านซาง
- โทร: 094-7495757
5. กาดจาวเขิน

เที่ยวเชียงใหม่ที่ที่ 5 กาดจาวเขิน อยู่ที่ชุมชนสันก้างปลา อำเภอสันกำแพง ใครที่ชอบสายวัฒนธรรมจ๋า สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนเป็นตลาดที่เปิดใหม่ มีของขายเยอะมาก ส่งตรงจากหน้าบ้านเลยจ้า เพราะคนชุมชนเขาเอาของออกมาขายตรงหน้าบ้านเลย มีให้เลือกช้อป ชิม ใช้ ทั้งสินค้าหัตถกรรม เครื่องแต่งกายพื้นเมืองของชาวไทยเขิน อาหารพื้นเมืองก็มีให้เลือกเยอะ สิ่งที่ชอบที่สุดในกาดนี้คือขนมไทย ผักปลอดสารพิษ ก็มีให้เลือกเยอะ
จุดเด่นแรกที่จะเจอเลยตอนไปกาด คือการแต่งตัวของพ่อค้า แม่ค้า เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกเลยอ่ะ! เหมือนได้ย้อนเวลากลับไป สีเสื้อเด่นมาก ทั้งชมพูสด สีเหลือง สีส้ม ใครที่อยากเช่าใส่ เค้าก็มีร้านให้เช่าอยู่นะ หรือจะซื้อเลยก็ดี บ้านเรือนก็ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ บ้างบ้านก็เป็นแบบประยุกต์แล้ว ก็ดูทันสมัยไปอีกแบบ
มาถึงเรื่องกินกันบ้างแม่ สำหรับสายกินอย่างเราเองอยากจะซื้อไปหมดทุกอย่าง ต่อให้เตรียมเงินไปเยอะเท่าไหร่ ก็สามารถละลายหายไปได้ในพริบตาเดียว ตอนแรกก็กะจะไม่ซื้อแล้ว หักห้ามใจตัวเอง แต่อย่าเผลอสบตากับพ่อค้า แม่ค้า นะ แค่แม่ค้ายิ้มให้ ใจที่แข็ง ๆ ก็อ่อนได้ในทันที แต่ที่เด็ดสุด ๆ คือขนมไทย เจอเข้าไปแทบร้องกรี๊ด ทั้งถั่วแปบ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวแดง ข้าวเม่า โรยด้วยมะพร้าวขาวๆ ใครไหวไปก่อนเลย! ทางนี้ไม่ไหวขอแวะก่อน ภาชนะก็รักษ์โลกไปอีก ใช้ใบตองที่อยู่ในชุมชนนั้นแหละ เอามาห่อ
งาน Handmade ก็มีนะ สวย ๆ เยอะเลย เสื้อปักลายดอกไม้เหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่ที่บ้าน หรืออยากฟังดนตรีก็มี มีทั้งดนตรีพื้นบ้านเป็นวง “สะล้อ ซอ ซึง” ของคนในชุมชน แถมยังมีดนตรี Folk song ชิล ๆ ให้ฟัง ใครที่ชอบทำกิจกรรมเขาก็มี Workshop สอนจีบผกากรองขนมไทยด้วย เรียกว่าได้ว่าอิ่มครบ จบในที่เดียว กิจกรรม Workshop ในแต่ละอาทิตย์ก็จะเปลี่ยนไป รับรองกิจกรรมไม่ซ้ำกันแน่นอน
ตามไปต๊ะ ต่อน ยอน รายละเอียดตามด้านล่างเลย!
- พิกัด: กาดจาวเขิน ชุมชนไทเขินบ้านสันก้างปลา อำเภอสันกำแพง
- เวลาเปิด – ปิด: วันอาทิตย์ เวลา 08:00 – 14:00 น.
- Facebook: ชุมชนไทเขินบ้านสันก้างปลา, กาดจาวเขิน
- โทร: 098-1044389
6. แม่ท่าช้างกางโต้ง

เที่ยวเชียงใหม่ ที่ที่ 6 แม่ท่าช้างกางโต้ง เป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร บรรยากาศดี รายล้อมไปด้วยภูเขา ขับรถออกจากตัวเมืองไม่ไกล แต่เหมือนได้บรรยากาศตามเขา ตามดอย มาถ่ายรูปเช็กอินกันได้ การตกแต่งของทางร้าน จะเป็นแนวธรรมชาติเลย เป็นที่โล่ง มีโต๊ะไม่เยอะมาก ถ้าอยากไปก็จองไว้ก่อนก็ดีนะ กลัวไม่มีโต๊ะว่าง
แนวไหนก็มาได้หมด แนวครอบครัวมานั่งกินข้าว พาลูกพาหลานมาวิ่งเล่น หรือแนวเพื่อน ๆ อยากมานั่งชิล ๆ ดื่มนิด ดื่มหน่อยก็ได้


มีดนตรีสดให้ฟังทุกวันมีทั้งดนตรีแบบเต็มวง หรือเป็นโฟล์คซองเบาๆ อาหารก็จะเป็นอาหารไทยพื้นบ้าน เหนือ กับอีสาน ปนกัน เมนูเด็ดที่นี่ คือไก่อบฟาง อบฟางสด ๆ ไฟลุกอยู่ตรงนั้นเลย
เนื้อไก่นุ่ม ๆ หอมกลิ่นฟางเบา ๆ ถ้ามาแนะนำว่าต้องสั่งให้ได้ อีกอย่างที่ไม่น้อยหน้ากันก็คือหมูกระทะ หมูจุ่ม ชุดละ แค่ 199 บาทเอง! ได้ทั้งหมู ผัก ไข่ ปลาหมึก เต้าหู้ บวกกับเบียร์หวาน ๆ บรรยากาศเย็น ๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว

เป็นอีกที่หนึ่งที่เราอยากให้ทุกคนไป ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน กินข้าวร้านไหนดี ที่มีบรรยากาศโอบล้อมไปด้วยภูเขา เราแนะนำเลยค่ะ ไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กัน ไปปปป!!
ตามไปกินไก่อบฟางเด็ดๆ รายละเอียดตามด้านล่างเลย
- พิกัด: เส้นหางดง-สะเมิง ติดกับร้าน Brandnew Field Good
- เวลาเปิด – ปิด: ทุกวัน เวลา 15:00-23:00 น.
- Facebook: แม่ท่าช้างกางโต้ง
- โทร: 091-8592949
7. More Space

More Space ที่กิน ที่ช้อป ที่เที่ยวเปิดใหม่ ลืมภาพเก่าของลานจอดรถตรงข้ามหอประชุม มช. ไปเลย เพราะ ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนจากลานจอดรถธรรมดาให้เป็นตลาดสุดเก๋ ที่รวบรวมร้านเก๋ ๆ ไว้เพียบ
ใครที่อยากหาที่สุดท้ายในการปิดทริปของวัน ไปเที่ยวมาตลอดทั้งวันละเหนื่อยพอแล้ว อยากมาเดินหาของกิน มองวิวดอยสุเทพสวย ๆ แถมมีสวนดอกไม้ข้างให้ถ่ายรูป ไว้โพสตาลงอวด Social ได้อีก


แต่ละวันก็มีการจัดโซนที่แตกต่างกันในแต่ละวัน ของที่มีขายทุกวันตั้งแต่ช่วงสาย ๆ ไปจนถึงช่วงดึก ๆ เป็นร้านอร่อยนั่งชิวเพลิน ๆ 9 ร้านดัง ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง ขนมหวาน ชาไข่มุก พิซซ่า อาหารญี่ปุ่น ก็มีหมด ช่วงเย็นตั้งแต่ 5 โมงเย็น จะเป็นร้าน Food Truck ที่มีของขาย ของกิน มีพื้นที่ให้นั่งทาน เม้ากับเพื่อนจนตลาดปิดก็ยังได้

หรือใครอยากไปส่องสาว ๆ หนุ่ม ๆ นักศึกษา ก็ได้นะมีนักศึกษามาเดินกันเยอะเลย เผื่อเดินกินนั่นกินนี่ไป มีคนมาขอเบอร์ แล้วได้แฟนกลับไปก็ได้ ใครจะไปรู้ววววว

ที่เราของแนะนำมาถ้าที่นี่แล้วต้องกิน “ไอศกรีมกะทิมะพร้าวโบราณ” ที่เสิร์ฟมาในมะพร้าว ขูดเนื้อโปะะข้างหน้า รสชาติถ้าใครที่ชอบหวาน ๆ หน่อยเหมาะเลยจ้า

ที่จอดรถก็มีเยอะนะ รับรองว่าพอแน่นอน ก็มันเป็นลานจอดรถอ่ะเนาะแก ใครอยากเดินไกลบริหารร่างกายก่อนที่จะกิน ก็จอดไกล ๆ ใครขี้เกียจก็สามารถจอดเทียบท่ากับร้าน Food Truck ได้เลย
ตามไปเดินชิลๆ รายละเอียตามนี้เลย!!
- พิกัด: ไร่ฟอร์ด ตรงข้ามหอประชุม มช.
- เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
- Facebook: More Space
- โทร: 089-3935623
เอาใจสายกิจกรรมกันหน่อย ที่เที่ยวกิจกรรมเด็ด ๆ อีกเพียบ ไปดูต่อกันเลยยยยย
8. ขี่ม้า ที่ปงยั้งม้า

สายกิจกรรม สายแอดเวนเจอร์ ต้องจัด! รอช้าไม่ได้แล้ว สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ แบบผจญภัย กับการขี่ม้าท่องเที่ยวเส้นทางสายธรรมชาติ ใครที่เบื่อกับการท่องเที่ยวแบบเดิม อยากมีกิจกรรมให้ทำ ที่นี่เลยปงยั้งม้า ปงยั้งม้าเป็นศูนย์ฝึกม้า ที่เปิดสอนเรียนขี่ม้าด้วย

ใครที่ขี่ม้าไม่เป็นไม่ต้องห่วงเลยเพราะก็สามารถเรียนได้ เราขอแยกออกเป็น 2 กลุ่มนะ กลุ่มที่อยากถ่ายรูปเฉย ๆ กับกลุ่มที่อยากขี่ม้าจริง ๆ เพราะบางคนก็ชอบเที่ยวไม่เหมือนกัน

กลุ่มที่อยากถ่ายรูปเฉยๆ ก็ต้องฝึกขี่ม้าเบื้องต้นในสนาม 15-20 นาที ไม่ฝึกไม่ได้นะ ตกม้าไปทำยังไงอยากได้รูปสวย ๆ ก็ต้องทนกันหน่อย เวลาออกไปถ่ายรูปจะได้โพสตาท่าได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าน้องจะดีด บริเวณที่จะขี่ออกไปถ่ายรูป ตรงไฮไลต์ก็จะเป็นบ่อดิน และหน้าผาสีเทา รูปที่ได้ออกมาคือสวยมาก ค่าบริการขี่ม้าถ่ายรูป ชั่วโมงละ 1,000 บาทต่อกลุ่ม (กลุ่มละ ไม่เกิน 4 คน)

กลุ่มที่อยากขี่ม้าจริงๆ จะเป็นขี่ม้าเทรล เน้นขี่ตามเส้นทางธรรมชาติ ไม่เน้นถ่ายรูป ก็จะต้องฝึกขี่ม้าเบื้องต้นในสนาม 15-20 นาที แล้วขี่ตามเส้นทางธรรมชาติ มีเส้นบ่อดิน หน้าผา เข้าป่า ขึ้นดอย ทุ่งหญ้า ลงน้ำ ชมวัด และหมู่บ้าน เรียกได้ว่าครบเลย! เส้นทางขึ้นกับระยะเวลาที่เราเลือก ขั้นต่ำคือ 1 ชั่วโมง ค่าบริการค่าขี่ม้า ชั่วโมงละ 1,000 บาทต่อคน ( 1 คน ต่อ 1 ม้า )
ใครถ่ายรูปไม่สวย หรือถ่ายรูปดีอยู่แล้ว แต่อยากได้รูปปัง ๆ เค้าก็มีบริการถ่ายรูปให้นะ เป็นตากล้องมืออาชีพจริง รับรองได้รูปสวยแน่นอน แต่เราแนะนำให้ถ่ายนะ มาทั้งทีแล้วเอาให้ครบ ชั่วโมงละ 1,000 บาทต่อกลุ่ม (กลุ่มละ ไม่เกิน 4 คน) เอง หรืออยากได้พรอพถ่ายรูปก็มีให้เช่านะ พวกหมวก รองเท้าบูท เรียกว่าไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลย เอาแค่ตัวเองไปเค้ามีบริการให้ครบ!
อยากขี่ม้าเท่ๆ รายละเอียดตามนี้เลยน้ามา
- พิกัด: ปงยั้งม้า อำเภอหางดง
- เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 09:00 – 18:00 น.
- ช่วงเช้า รอบ 9.00, 10.00, 11.00 น.
- ช่วงบ่าย รอบ 14.00, 15.00, 16.00, 17.00 น
- Facebook: Pong Horse Park ปงยั้งม้า ขี่ม้าเชียงใหม่ Trail Ride 骑马 清迈
- โทร: 081-882 8899
9. นั่ง Balloon ที่ Farm Cowboy

เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่แนะนำเลย คือการนั่งบอลลูนชมบรรยากาศข้างบน อากาศข้างบนเป็นยังไงบ้างนะ? หลายคนถ้าคิดถึงการนั่งบอลลูนก็จะนึกถึงตุรกี ช่วงโควิดแบบนี้จะบินไปตุรกีมันก็จะยังไง ๆ ฟังทางนี้จ้า! ไม่ต้องไปไกลถึงตุรกี เชียงใหม่ก็มี

พอตอนเราขึ้นไปบนบอลลูนเราจะเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ความสูงประมาณ 800 เมตร โดยเฉพาะถ้าไปช่วงพระอาทิตย์จะตกดินนะยิ่งสวยเข้าไปกันใหญ่ ตอนนี้เขามีจุดให้ขึ้นชมบอลลูนใหม่ไม่ใช่แค่ที่ฟาร์เท่านั้น ยังสามารถขึ้นได้ที่ I love Flower Farm ขึ้นไปข้างบนได้เห็นวิวทุกดอกไม้ในมุมสูง ได้มุมมองใหม่ไม่เหมือนใคร แถมขึ้นไปยังได้รูปเก๋ ชิค ๆ ไม่ซ้ำใคร

หรือถ้าใครจะไปขึ้นที่ฟาร์มก็ได้นะ ที่ฟาร์มมีกิจกรรมอย่างอื่นให้ทำอีกเยอะเลย ทั้งย่างหมูกระทะ พาครอบครัวไปนั่งเล่นกันมีร้านอาหารที่บรรยากาศดีมาก ๆ มองแห็นวิวดอยสุเทพได้เลย

ใครที่อยากจะขึ้นบอลลูนก็จองล่วงหน้าไปก่อนนะ เพราะคิวเขาค่อนข้างเยอะ อาจจะทักไปจองในเพจก่อน หรือมีบางวันที่คิวหลุด เขาก็จะแจ้งในเพจเลย สำหรับใครที่อาจจะว่างวันนี้อยากไปปุ๊บปับ แต่งตัวสวย ๆ ออกไปถ่ายรูปกัน อย่ามัวแต่นั่ง ๆ นอน ๆ หรือทำงานหนักเกินไปหาเวลาว่างให้โอกาสตัวเองได้พักผ่อนบ้าง ฝากไว้ให้คิสสสสสส
อยากไปนั่งบอลลูน สูดอากาศข้างบน รายละเอียดตามนี้เลย
- พิกัด: Tethering Balloon Farm Cowboy ที่ Farm Cowboy ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม
- เวลาเปิด – ปิด: บอลลูน เปิดเฉพาะวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ 16:30 – 18:30 น.
- ฟาร์มและร้านอาหาร เปิดทุกวัน 10:00 – 21:00 น.
- Facebook: Balloon Chiangmai by Tethering Balloon Thailand
- โทร: 082-5695493
10. พาย Sup board แม่น้ำปิง

เที่ยวเชียงใหม่ ที่สุดท้าย มาที่อีกหนึ่งกิจกรรมถ้ามาเชียงใหม่แล้วพลาดไม่ได้อย่างรุ่นแรงนิ (พี่บ่าวคนไหน) คือการพาย Sup ริมแม่น้ำปิง Sup ย่อมาจาก Stand up paddle board จะเป็นการพายบอร์ด คล้าย ๆ กับเซิร์ฟบอร์ด แต่เพิ่มอุปกรณ์คือไม้พาย พายไปไหนก็ได้ แต่ต้องพายในน้ำนะ พายบนบกมันก็ไม่ไป
เหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมได้ทุกสายไม่ใช่แค่สายผจญภัยเท่านั้น อย่างสายชิล ก็อาจจะพายบนน้ำที่นิ่ง ๆ อย่างแม่น้ำ คลอง อ่างเก็บน้ำ แต่ถ้าใครที่อยากจะท้าทายอยากโต้คลื่นก็ลงทะเลได้เลย! จะคลื่นลูกเล็ก ลูกใหญ่ ก็เลือกเลย!!


แต่ที่เชียงใหม่เป็นการพาย Sup ในแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของเชียงใหม่ ตัดผ่านกลางเมืองเลย ใครที่อยากทำกิจกรรมด้วย อยากเที่ยวชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำของคนเชียงใหม่ ถ้าใครอยากชิล ๆ เราแนะนำให้มาช่วงเช้า หรือช่วงเย็นไปเลย เพราะอากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก เช้าสุดก็ 7 โมงเช้า ช้าสุดก็ถึง 6 โมงเลย นั่งดูพระอาทิตย์ตก บนบอร์ดเก๋ ๆ


ใครที่อยากจะไปพาย Sup ที่ Sup CNX ก็ต้องจองก่อนนะ เพราะบอร์ดเค้ามีจำกัด ใครจองก่อนก็มีสิทธิ์ก่อน โดยใครที่พายไม่เป็นก็มีโปรแกรมสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลย โปรแกรม “First time trial” แค่ 200 บาท/ชั่วโมง ก็จะเป็นสอนการพายเบื้องต้น วิธีการยืน บนบก แล้วจากนั้นก็ลงไปพายในน้ำ

สำหรับคนที่พายเป็นแล้ว แต่ยังไม่เก่งมาก โปรแกรมนี้เลย “Sup beginner trip” 700 บาท/ชั่วโมง ก็จะได้ฝึกพาย 20 นาที แล้วก็พายดูสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ มีสต๊าฟประกบข้างตลอดไม่ต้องห่วง! หรือใครที่เก่งแล้ว! ไม่ต้องการเรียนเพิ่มแล้ว เค้าก็มี Sup ให้เช่านะ 300 บาท/ชั่วโมง
สำหรับใครที่พาย Sup เสร็จ อยากจิบกาแฟ จิบชา เขาก็มีร้าน “SUP CNX Café” แต่ช่วงนี้มีขายเฉพาะเครื่องดื่มร้อน มีเสื้อขาย กระบอกน้ำ จนไปถึงครีมกันแดดขาย ใครที่ลืมพกครีมกันแดดก็ซื้อใหม่ได้เลย รวย ๆ อะเนาะ!
อยากไปพาย Sup รายละเอียดตามนี้เลยจ้าาา
แถมๆ A330 Cafe & Hotel

คาเฟ่ที่กำลังจะเปิดในเชียงใหม่ๆ เร็วนี้ เป็นร้านกาแฟบนเครื่องบิน แอร์บัส A330-300 ที่เป็นเครื่องบินปลดประจำการแล้ว แล้วเค้าเอามาตกแต่งเป็นร้านกาแฟ ถ้ามีข้อมูลมาอัปเดตว่าจะเปิดให้เข้าไปเที่ยวกันตอนไหนเราจะมาอัปเดตข้อมูลให้ฟังกันแน่นอน คิดว่าน่าจะได้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ของเชียงใหม่ที่รอให้คนเก๋ ๆ อย่างเราไปเช็กอินแน่นอน
เปิดเมื่อไหร่บอกเราด้วยนะ รายละเอียดตามนี้เลย
- พิกัด: แยกบายพาสแม่มาลัย ขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง
- Facebook: A330 CAFE & HOTEL เชียงใหม่
- โทร: 0612298282
เที่ยวเชียงใหม่ ใครที่มาเชียงใหม่อย่าลืมมาเช็คอิน แลนด์มาร์คใหม่ ๆ ถ้าไม่ว่าระวังตกเทรนด์นะคะ อย่าหาว่าเราไม่เตือน!! ใครที่หยุดวัน สองวันก็มาได้ เชียงใหม่ไปง่าย มาง่ายจะตาย! มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ เพราะมีที่เที่ยวอัปเดตใหม่ตลอดเวลา ชอบเที่ยวสายไหนก็มีหมด ทั้งป่า เขา คาเฟ่ แอดเวนเจอร์
ใครที่ชอบ เที่ยวเชียงใหม่ แล้วมีที่เที่ยวในเชียงใหม่ใหม่ ๆ อย่าลืม! เอามาแชร์กันน้า เดี๋ยวเราจะตามไปเที่ยว และที่สำคัญอย่าลืมติดตามที่เที่ยวอื่นๆ ของรีวิวเชียงใหม่กันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ขอม้า แฮ่! ขอลากันไปนะคะ บ๊ายๆๆ