10 ร้านอร่อยเด็ด มาตามนัด จัดไปอย่าให้เสีย

ตามล่า10ร้านอร่อยเด็ด มาตามนัด จัดไปอย่าได้เสีย นัดพบความอร่อยกันวันต่อวัน ผิดนัด+มาสาย=อด ถ้าไม่มีนัดก็ไม่มาขาย มาตามนัดเสร็จสรรพก็แยกย้ายกลับบ้าน “กาดนัด” หรือ “ตลาดนัด” เป็นคำที่คุ้นหูเรากันมานาน เมื่อถึงเวลาที่นัดไว้ จะเช้า สาย บ่าย เย็น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าถึงจะมาตั้งร้านกันทีหนึ่ง ซึ่งเสน่ห์อย่างหนึ่งของตลาดนัดที่ครองใจใครหลายคนก็คือของกินนั่นเอง เพราะมีให้เลือกสารพัดทั้งอาหาร ของทานเล่น และเครื่องดื่ม อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างปนๆกันไป วันนี้เจ๋งเลยรวบรวมของกินตลาดนัดมาฝาก จะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงดวงกันอีก แบบที่กินแล้ว เฮ้ย ! อร่อยอ่ะ ท้องไม่เสีย ปลอดภัยด้วย หากินในเชียงใหม่ยากอีก ไปดูเหอะ…บอกตามตรงว่าตอนที่กำลังเล่าๆอยู่เนี่ย ก็หิวสุดๆ ใครไม่มาตามนัดก็อดกิน

– – – – – – – – – – – – – – –

1. เต้าหู้สด อินทรีย์ – อร่อยแหลก แลกใจคนญี่ปุ่น

เต้าหู้ร้านนี้ ยิ่งทานสดๆยิ่งอร่อย มีซีอิ๊วไว้จิ้มนิดหน่อยก็พอ

พิกัด + เวลาเปิด – ปิด : 6.00 – 9.30 น. (ทุกวันพุธ ที่ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษฯ :คณะเกษตรศาสตร์ มช.), 6.00 – 11.30 น. (ทุกวันเสาร์ ที่ตลาดนัดเกษตรปลอดสารพิษ : โครงการ JJ Market), 6.00 – 9.30 น. (ทุกวันอาทิตย์ ที่ตลาดอาหารปลอดภัย : ศูนย์วิจัยฯแม่เหียะ)

ต่อต่อ : 081-8835060 อัพเดทไม่ได้ขายตามตลาดแล้วต้องโทรสั่ง ก่อนคืนวันอังคาร ทำใหม่ทุกคืนวันพุธ ส่งทุกวันพฤ 

เต้าหู้ กำเนิดมากว่า 2,000 ปีแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ แม้เป็นอาหารที่ธรรมดาสามัญ แต่ก็มีคุณค่าทางโปรตีนสูง และคนที่จะทำเต้าหู้ได้ก็ต้องมีความละเอียดอ่อน ความชำนาญและสมาธิอย่างสูง เช่นเดียวกับเต้าหู้สดร้านนี้ ที่มีชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัยกาดวันเสาร์ข้างหอศิลป์ภาพในความทรงจำคือแม่บ้านญี่ปุ่นพากันมาต่อคิวซื้อแต่เช้า แดดไม่ทันออกก็ขายหมด อ้ายแจ๊ค อุดมศักดิ์ พรมเลิศ ทำเต้าหู้เองกับมือและรับซื้อถั่วเหลืองจากชาวบ้านที่เพาะปลูกแบบวิถีธรรมชาติ ปลอดสารเคมี แล้วจึงนำมาบดด้วยเครื่องโม่ กรองกากออกจนได้น้ำเต้าหู้ดิบ แล้วนำไปต้ม จนกระทั่งเต้าหู้ตกตะกอนจึงนำไปแช่ในถังไม้อายุกว่า 20 – 30 ปีที่ตกทอดมาจากรุ่นพ่อ เพื่อให้กลิ่นหอมของไม้ซึมไปในเนื้อเต้าหู้ จากนั้นจึงนำไปอัดก้อน ทั้งหมดนี้ทำเองคนเดียวที่บ้านโฮมเมดสุดๆ ปกติเจ๋งไม่ชอบกินเต้าหู้ แต่พอบุกไปถึงบ้านอ้ายแจ๊คแล้วได้กลิ่นหอมสดใหม่ เลยขอลองชิม คือเนื้อเต้าหู้แน่นนุ่ม มีรสชาติหวานจางๆของถั่วเหลืองอินทรีย์ เลยถึงเข้าใจว่าทำไมนักกินเต้าหู้ชาวญี่ปุ่นถึงได้ติดอกติดใจมารอซื้อ จุดเด่นอีกอย่างคือเค้าทำเต้าหู้คืนนี้พรุ่งนี้เช้าก็เอาไปขายไม่ทำทิ้งไว้ ไม่ใส่สารกันบูด จึงเก็บได้ประมาณ 2 – 3 วัน ตามไปอุดหนุนอ้ายแจ๊คกันครับ


บนซ้าย จากน้ำเต้าหู้หม้อใหญ่ๆ จะได้ฟองเต้าหู้เพียง 1 แผ่นเท่านั้น
บนขวาพอเต้าหู้ตกตะกอนเป็นเนื้อนิ่มๆ ก็เอามาเทใส่ผ้าขาวบาง เพื่ออัดให้เป็นก้อน
ล่างซ้ายเต้าหู้สดแบบนี้ ตัดชั่งขาย
ล่างขวาเวลาไปขายที่ตลาด จะตัดใส่ถุงไว้ง่ายๆแบบนี้ ใครจะเอาเท่าไรก็หยิบเลย


ซ้ายอ้ายแจ๊ค ขณะกำลังรอให้น้ำเต้าหู้เดือดได้ที่ ขั้นตอนนี้จะละสายตาไม่ได้เลย

ขวา – เต้าหู้นึ่ง  และเต้าหู้ทอด

– – – – – – – – – – – – – – –

2. รสมือแม่ – อร่อยใดที่ว่าแน่ ก็ยังแพ้รสมือนี้

(คุณนายแอบมาขายขนมเส้น)

จากซ้าย น้องอาย ลูกสาวพี่จุ๊บแจง และพี่อ้อ เพื่อนสนิท มาช่วยพี่จุ๊บแจงขายของทุกอาทิตย์

พิกัด : ตลาดอาหารปลอดภัย (โครงการ JJ Market)
เวลาเปิด – ปิด : 6.00 – 9.00 น. (ทุกวันอาทิตย์)
เบอร์โทร : 081-8204502
Facebook : รสมือแม่ Mom’s Recipes

จากลูกทะเลที่จังหวัดตราด สุดท้ายย้ายมามีครอบครัวที่เชียงใหม่ ก็ยังไม่ทิ้งเสน่ห์ปลายจวักที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ด้วยคอยเข้าครัวไปเป็นลูกมือคุณแม่อยู่เสมอ ดังนั้นเรื่องรสชาติความจัดจ้าน ถึงเครื่องถึงรสของเครื่องแกง และทักษะในการนำปลาทะเลมาต้มยำทำแกงไทยนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีใครเก่งเกินกว่าชาวใต้แล้ว โดยเฉพาะเมนูขนมจีนน้ำยา ที่จะหาร้านอร่อย ทำได้ถึงรสต้นตำรับในเชียงใหม่ ก็ยากยิ่งกว่างมเข็มในห้วยตึงเฒ่า แต่พี่จุ๊บแจง(คุณนายชอบให้เรียกพี่) จริยา อั๋นประเสริฐ กลับแกงออกมาได้อย่างจัดจ้าน เข้มข้น หอมมัน หาตัวจับยาก บางครั้งก็ใช้ปลาน้ำดอกไม้มาโขลกกับพริกแกง บางครั้งก็ใช้ปูทะเลเน้นแต่เนื้อ แกงอื่นๆก็มี เช่น แกงเผ็ดหมูใส่มะระ แกงไตปลา แกงขี้เหล็กปลาย่าง เป็นต้น พืชผักที่นำมาแกงก็รับมาจากสวนปลอดสารพิษ แถมนำมาล้างด้วยเบคกิ้งโซดาอีกเพื่อความชัวร์ หรือบางอย่างก็เก็บเอาจากแปลงผักสวนครัวที่ปลูกเองในบ้านนั่นแหละ สมชื่อร้านรสมือแม่ เพราะนอกจากจะแกงให้กินแบบไม่หวงเครื่องแล้ว ยังใส่ใจความสะอาดและความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง แต่ใครที่อยากชิม ต้องตื่นเช้าหน่อย เพราะร้านนี้ขายหมดเร็วมาก มาตั้งร้านช่วงตี 5 – 6 โมง หลังจากนั้น 3 – 4 ชั่วโมง แกงก็เกลี้ยงหม้อซะแล้ว (สำหรับคนที่กลัวมาไม่ทัน โทรไปจองล่วงหน้าได้)

แกงเผ็ดหมูใส่มะระ เมนูนี้ยอมใจเพียงได้ชิม หมูนุ่ม มะระเปื่อย แถมไม่ขมเลยสักนิด


ซ้ายใครจะกินแบบราดข้าวในตลาดเลยก็ได้ ข้าวใช้ข้าวกล้อง ตักใส่ภาชนะชานอ้อย กินอร่อยแบบปลอดภัย
บนขวาแกงขี้เหล็กปลาย่าง เอาปลาอินทรีย์เค็มไปห่อใบตอง แล้วย่างจนหอม พอนำมาแกงใส่ขี้เหล็ก ยิ่งชูรส ชูกลิ่นได้ดี
ล่างขวาผักสด เลือกใช้ผักปลอดภัย บางอย่างก็ไปรับจากฟาร์มผักออร์แกนิคมาโดยตรง

– – – – – – – – – – – – – – –

3. ป้าตา – เชื่อโบราณนั้นอยู่นาน ไม่บานบุรี


ป้าตา แม่ค้ารุ่นเก๋าหัวใจใฝ่ธรรมะ นอกจากออกร้านขายของแล้ว ถ้าหากมีเวลา แกก็รับจัดเลี้ยงบ้างเป็นครั้งคราว

พิกัด : ตลาดอาหารปลอดภัย (โครงการ JJ Market)
เวลาเปิด – ปิด : 6.30 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์)

ด้วยความเชื่อที่ว่ามะเร็งมาจากอาหารป้าตา จำเนียร เอี่ยมเจริญ จึงหันมาทานมังสวิรัติตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน และ 10 ปีต่อมา จึงได้เริ่มขายอาหารและวัตถุดิบปรุงอาหารพื้นบ้านเก่าแก่ ที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ บางชนิดป้าตาก็ทำเอง บางชนิดก็ไปรับมาจากชาวบ้านที่ทำกันภายในครัวเรือน ไม่นำของอุตสาหกรรม หรือมีการใช้สารเคมีมาขาย และแน่นอนว่าไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม เรียกว่าย้อนกลับไปสู่วิถีดั้งเดิมของคนเรา สมัยที่ยังทำอะไรกันแบบตามธรรมชาติกันอยู่นั่นเอง แม้จะใช้เวลานานและยุ่งยากกว่า แต่ก็สะอาด ปลอดภัย ห่างไกลโรค อาหารสดจะเป็นจำพวกน้ำพริก เช่น น้ำพริกคั่วทราย น้ำพริกมะขาม น้ำพริกปลาร้า(เจ)ทรงเครื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีของเชื่อม ของแช่อิ่ม เป็นลูกชิดเชื่อมน้ำอัญชัน กระเจี๊ยบแช่อิ่ม สตรอว์เบอร์รี่แช่อิ่ม เป็นต้น รวมถึงถั่วและน้ำตาลอ้อย น้ำตาลโตนดด้วย ซึ่งป้าตาจะขายของอยู่แค่วันเดียวเท่านั้น เวลาส่วนใหญ่มักจะไปปฏิบัติธรรมแทน แกยังฝากมาบอกอีกด้วยว่า “คนสมัยก่อนไม่ค่อยมีใครเป็นมะเร็ง เพราะกินอยู่กับของพื้นบ้าน เชื่อโบราณนะลูก เพราะเชื่อโบราณน่ะอยู่นาน ไม่บานบุรีแน่นอน    


บนซ้าย – น้ำพริกคั่วทราย น้ำพริกแห้ง มีเคล็ดลับอยู่ที่พริกคั่วสอดไส้งา แทนที่พริกจะเผ็ด กลับหวานงาซะนี่ อร่อยมาก
บนขวาน้ำพริกปลาร้า (เจ) ทรงเครื่อง ตำๆ สับๆ ตักขายขีดละ 30 บาท
ล่างซ้ายไก หรือสาหร่ายน้ำจืดคั่วงาขาว แค่ตักเข้าปากก็ละลายเเล้ว ซื้อไปกินเล่นก็เพลินดี
ล่างขวาข้าวกล้องต้มก็มีขาย สั่งทานตรงนั้นได้เลยเหมือนกัน มีถ้วยชานอ้อยให้ใส่


บนซ้าย / ขวา – กระเจี๊ยบแช่อิ่ม และลูกชิดเชื่อมน้ำดอกอัญชัน ป้าตาทำเองจากครัว ไม่ใส่สีผสมอาหาร หรือสารกันบูด
ล่างซ้าย – น้ำตาลอ้อยสีเข้ม จากสุโขทัย สีอ่อน จากอำเภอพร้าว ทดลองชิมได้ก่อนตัดสินใจซื้อ
ล่างขวา – น้ำตาลโตนด จากเมืองเมาะละแหม่ง ประเทศพม่า

– – – – – – – – – – – – – – –

4. น้อยเบเกอร์รี่ ขนมไทย ติ่มซำ – ขนมอารมณ์ดี ไม่มีสารกันบูด

แวะมาซื้อขนมร้านนี้ มีแต่เสียงหัวเราะ เพราะคนขายอารมณ์ดีกันทั้งร้าน ทั้งป้าน้อย และลูกชาย น้องโบนัส (คนกลาง) ที่มาช่วยขายประจำ


พิกัด : ตลาดอาหารปลอดภัย (โครงการ JJ Market)
เวลาเปิด – ปิด : 8.00 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์)
เบอร์โทร : 083-2044799 (ป้าน้อย) , 082-6244050 (โบนัส)

อีกหนึ่งร้านที่ติดโผมาในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นของหายาก หาทานที่ไหนไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเบเกอร์รี่ ขนมไทย หรือติ่มซำ ก็หาทานได้แทบทุกมุมเมืองเชียงใหม่ แต่ความพิเศษนั้นอยู่ที่การคัดสรรวัตถุดิบที่ปลอดภัยมาทำ (ถ้าหากเป็นผัก ก็ต้องใช้ผักปลอดภัย ผักออร์แกนิค) และเพิ่มส่วนผสมที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าเข้าไปแทน โดยก่อนหน้านั้นป้าน้อย สุพัตรา ญานะ ขายอยู่ที่ตลาดคณะเกษตร มช. มาถึง 7 ปี จากนั้นจึงย้ายมาขายที่นี่ได้ 2 – 3 ปี ขนมในร้านนี้มีตั้งแต่ครัวซองต์เนยสด ที่ใช้เนยสดแท้ ไม่ใช่มาการีนไก่กา พายไก่ กะหรี่ปั๊ปก็มี แต่ที่โดดเด่นที่สุด ก็คือซาลาเปา ป้าน้อยแกทำไว้ 3 แบบ ไส้ถั่วดำ ใช้แป้งงาดำ, ไส้หมูสับ ใช้แป้งโฮลวีต ผสมธัญพืชหลายอย่าง และไส้ถั่วเขียว เป็นสีทูโทน ทั้งงาดำและโฮลวีต แป้งจะแข็งกว่าแป้งขาวธรรมดานิดเดียว ด้วยรสสัมผัสของกากใยธัญพืช เหมือนเวลาเรากินขนมปังโฮลวีตนั่นแหละ แต่รับรองว่ามีประโยชน์กว่าแป้งขาวแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีขนมอีกหลากหลายชนิด อย่างกุ๊ยช่ายและขนมหัวผักกาดก็อร่อย ข้าวตังและหน้าตั้งก็น่าลอง เป็นหน้าตั้งแบบแท้ๆ รสชาติคล้ายหลนเต้าเจี้ยว หอมดี ที่สำคัญคือขนมร้านนี้ไม่ใส่สารกันบูด ซื้อไปแล้วถ้ายังไม่กินทันที ควรเก็บแช่ตู้เย็นไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นเสียขึ้นมา จะโทษป้าน้อยไม่ได้นะเอ้า


ซาลาเปาไส้หมูสับ ไส้ในเป็นรสชาติหมูสับแบบโบราณ รสอ่อนๆ ไม่เค็มจัด ห่อด้วยแป้งซาเปาผสมธัญพืช


ซ้ายใครสองจิตสองใจ เลือกไม่ถูกจะกินอะไีรดี ก็มีแพ็คกุ๊ยช่าย และขนมหัวผักกาดอย่างละครึ่งให้ซื้อ
บนขวาข้าวตังหน้าตั้ง ทำมาจากข้าวเจ้า กินคู่กับหน้าตั้งที่ทำใหม่ๆก่อนมาขาย
ล่างขวา เมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดก็มี เส้นก๋วยเตี๋ยวป้าน้อยทำเองเลย ไม่ได้ซื้อสำเร็จรูปมา

– – – – – – – – – – – – – – –

5. ขวัญข้าว ครัวใต้ – ใช่อย่างแรง ตะแคงถ้วยกินข้าวยำ

แพ็คใส่ถุงอย่างดี แบ่งผักและข้าวเป็นชั้นๆ ไม่ใช่แค่หน้าตาน่ากินเท่านั้น แต่ลองชิมแล้วจะติดใจ

พิกัด : ตลาดอาหารปลอดภัย (โครงการ JJ Market)
เวลาเปิด – ปิด : 6.00 – 14.00 น. (ทุกวันอาทิตย์)
เบอร์โทร : 090-6755573

ร้านอาหารปักษ์ใต้ที่ย้ายครอบครัวมาจากจังหวัดใต้สุดแดนสยามนามยะลา อาหารอย่างอื่นเราไม่ได้ชิม แต่ก็เห็นลูกค้าแวะเวียนเข้ามาซื้อแกงถุงกันแบบไม่ขาดสาย ทว่าที่สะดุดตาเข้าอย่างจังคือข้าวยำน้ำบูดู อาหารประจำถิ่นของภาคใต้ที่ก็หาทานได้ยากยิ่งอีกแล้วในเชียงใหม่ ภาษายาวีเขาเรียกกันว่า “นาซิกราบู” ว่ากันว่าข้าวยำ 1 จานนั้นมีทั้งคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินซี และวิตามินเอ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งลดการก่อตัวของมะเร็งอีกด้วย โดยแม่ครองขวัญ อุไรรัตน์ แกจะใส่ข้าวกล้องหุงสุกแยกไว้ให้ต่างหาก ตามลงไปด้วยผักใบเขียวหั่นฝอยอีก 5 ชนิด คือ ผักไผ่ ผักพาโหม ยอดมะกรูดอ่อน ใบชะพลู ยอดมะม่วงหิมพานต์ เสริมทัพมาด้วยถั่วฝักยาว แตงกวา ถั่วงอก ตะไคร้ เมล็ดกระถินและดอกดาหลา ตัดรสให้อีกนิดด้วยส้มโอ มะม่วงเปรี้ยวและมะพร้าวคั่ว นับๆดูก็ 14 อย่างแล้ว ซึ่งผักทั้งหมดนี้เป็นพืชสมุนไพร พืชสวนครัวที่ปลูกกันเองในบ้านบ้าง รับมาจากสวนที่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูกบ้าง อย่างเมล็ดกระถินนั้น บ้านนี้ไปช่วยกันเก็บมาจากป่าแถวบ้านนั่นเอง ส่วนน้ำบูดู มาจากการนำปลาทะเลไปหมักในไหนานกว่า 1 ปี โดยสั่งตรงมาจากหมู่บ้านชาวเลที่เป็นแหล่งผลิตน้ำบูดู ที่ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีเท่านั้น ! ชี้เป้าให้ขนาดนี้ ต้องไปโดน


ดอกดาหลาทั้งดอกแบบนี้แหละ ที่แม่ครองขวัญเอามาซอยเป็นเส้นเล็กๆ ผักทุกชนิดทานสด ไม่มีลวกหรือต้มให้วิตามินหายไป

2 คนแม่ลูก แม่ครองขวัญ และน้องแอ็คกี้ ช่วยกันขมีขมันขายของ ขณะที่ลูกค้าเข้ามาเยอะแบบไม่ขาดสาย

– – – – – – – – – – – – – – –

6. J&J Home Made – เชรด ! มี Blended Tea ที่กาดนัด


ชากุหลาบ ถูกเก็บไว้ในขวดโหลแก้ว เปิดมาทีหอมฟุ้งซะไม่มี ถ้าเอาไปชงจะหอมขนาดไหนไม่รู้

พิกัด : แม่ปิง Garden Market (วงแหวนรอบสาม ใกล้วัดป่างิ้ว), Friday Market (ห้องสมุดฟื้นบ้านย่านกลางเวียง), Nana Jungle (บ้านป่าไผ่ล้อม), Morning Market (บ้านข้างวัด)
เวลาเปิด – ปิด : 16.00 – 19.00 น. (ทุกวันพุธ ที่แม่ปิง Garden Market), 12.00 – 18.00 น. (ทุกวันศุกร์ ที่ Friday Market), 8.00 – 11.00 น. (ทุกวันเสาร์ ที่ Nana Jungle), 07.00 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์ ที่ Morning Market)
เบอร์โทร : 095-4520880
Facebook : Home Made J&J

เดินไปเดินมาตามตลาดนัดก็หลายที่ อย่างมากที่เจอก็ชาชัก ชาตรามือ ชงกับน้ำร้อนขายเป็นแก้ว แต่มาเจอร้านนี้แล้วต้องผงะ เพราะคุณเธอ 2 สาว จ๋าและจี๊ด เล่นเอา Blended Tea มาขายกัน สำหรับใครที่ยังงงๆว่าคืออะไรนั้น จะเล่าให้ฟังคร่าวๆว่าเป็นชาที่เกิดจากการนำใบชาไปผสมกับสมุนไพร เครื่องเทศ หรือผลไม้ต่างๆนั่นเอง โดย Blended Tea ของร้านนี้ก็เป็นสูตรที่เจ้าของร้านทั้ง 2 คนช่วยกันคิดค้น ผสมนั่นนี่ ลองผิดลองถูกมาเอง จนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางชนิดก็เป็นชาที่นำไปอบกับมะละกอ กล้วย และวานิลลา บางชนิดก็อบกับมิ้นท์ บางชนิดก็อบกับกุหลาบ หอมหวนชวนดมเพียงแค่เปิดฝาออก น่าซื้อกลับบ้านไปชงดื่มเสียทุกกลิ่น ที่กล่าวมาก็เป็นสินค้าประเภทใบชา ส่วนชาที่ชงสำเร็จแล้วก็มี แต่มันคือ Kombucha หรือชาหมัก เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่กำเนิดในประเทศจีนมานานกว่า 2,000 ปี เป็นที่นิยมไปทั่วทวีปยุโรปและอเมริกาในปัจจุบัน ซึ่งชาหมักของร้านนี้ เกิดจากการนำชาไปหมักกับยีสต์ออร์แกนิค และเนื้อผลไม้แท้ๆมากกว่า 10 ชนิด รสชาติเปรี้ยว ซ่า อมหวาน นอกจากนี้ก็ยังมีนมอัลมอนด์ด้วย คือ น้ำนมที่ได้มาจากการคั้นเมล็ดอัลมอนต์ หอม มันมากจริงๆ แถมไม่มีส่วนผสมของนมผงเลยด้วย สรุปว่าเป็นร้านที่รวมเอาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แบบทางเลือกใหม่(ในไทย)เอาไว้เพียบ อยากดื่มบ้างก็ลองไปตามพิกัดที่ระบุไว้ เพราะ J&J Home Made ไม่มีหน้าร้านนะจ้ะ


ใบชาจะแบ่งขายเป็นกระปุก กระปุกเล็กแบบนี้ ราคา 65 บาท


Kombucha หรือ ชาหมัก มีหลายรสชาติให้เลือก ราคาขวดละ 45 บาท


อุปกรณ์ชงชา ดื่มชา ก็มีขาย ทั้งชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ดูน่ารักถูกใจสาวๆ

– – – – – – – – – – – – – – –

7. Do Fann Goat Cheese – ชีสสดจากเต้าแพะ

หน้าร้านจะมีการตัดชีสให้ลองชิม สีส้ม คือ ชีสที่คลุกเคล้ากับปาปริก้าและเครื่องเทศ คนชอบรสจัดจะปลื้ม ส่วนสีเขียว คือ Garlic & Chives รสชาติอ่อนๆ พอหอมเครื่องเทศ

พิกัด : Nana Jungle (บ้านป่าไผ่ล้อม), Morning Market (บ้านข้างวัด)
เวลาเปิด – ปิด : 8.00 – 11.00 น. (ทุกวันเสาร์ ที่ Nana Jungle), 07.00 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์ ที่ Morning Market)
เบอร์โทร : 089-6732319 (ภาษาอังกฤษ), 098-7632368 (ภาษาไทย)
Facebook : Do Fann

ขึ้นชื่อว่าเป็นชีสนั้น คงเป็นอาหารโปรดของใครหลายๆคน แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราได้กินชีสที่ทำขึ้นภายในเชียงใหม่เรานี้เอง แถมชีสที่ว่ายังทำมาจากน้ำนมแพะ ซึ่งมีสารอาหารใกล้เคียงกับน้ำนมแม่เลยทีเดียว โดยมีคนฝรั่งเศส มาเป็นโค้ชคอยสอนคุณกิ่ง แสงกิ่ง กองมณีทำ ซึ่งน้ำนมนั้น ทางร้านรับมาจากฟาร์มแพะที่สันกำแพง นำมาทำเป็นชีสสดได้ถึง 3 สูตร คือ Fresh Goat Cheese ตัวนี้เป็นสูตรออริจินัล ทำเสร็จเก็บไว้ 1 อาทิตย์ จึงจะนำออกมาขาย รสชาติอ่อนๆ กลิ่นยังไม่แรงมาก เหมาะกับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับการทานชีส นำไปแปรรูปทำอาหารได้หลากหลาย หรือจะกินสดๆก็ได้, Fresh Goat Cheese with Garlic & Chives ชีสนมแพะสด แต่งกลิ่น เติมรสด้วยกระเทียมและไชว์ส (พืชสมุนไพรของฝรั่งเค้า กลิ่นและรสคล้ายต้นหอม แต่อ่อนจางกว่า) ตามมาด้วยชิ้นที่ถูกปากที่สุด คือ ชีสนมแพะที่มีรสชาติเข้มข้น เพราะนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องเทศรสชาติร้อนแรง อย่างพริกปาปริก้า พริกแดง เมล็ดมัสตาร์ด กระเทียม และเครื่องเทศอื่นๆอีกมากมาย สูตรหลังนี้กินได้เยอะ ไม่เลี่ยนเลย แถมชีสทุกก้อนของร้านนี้ยังผสมเกลือหิมาลายัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเกลือที่ดีที่สุดในโลกลงไปเพื่อเติมรสชาติด้วย เห็นส่วนผสมมีคุณภาพจัดหนักขนาดนี้ บอกเลยว่าราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 120 บาท / 100 กรัมเท่านั้น  

ก้อนสีขาว คือ รสชาติออริจินัล เป็นชีสสดที่รสชาติเบาบางที่สุด กลิ่นไม่แรง เพราะเก็บไว้เพียง 1 อาทิตย์ก็นำมาขาย นอกจากชีสแล้วก็มีนมแพะขายด้วย


คุณกิ่ง มือทำชีสแห่ง Do Fann และสามีหนุ่มชาวฝรั่งเศสที่คอยเป็นผู้ช่วย

– – – – – – – – – – – – – – –

8. White Elephant – อร่อยโดดเด่น กินเล่นๆไม่กลัวอ้วน

น้องป่าน เปรมกมล คำมา สาวน้อยอายุ 19 ปี ที่มาออกร้านแทนคุณแม่ แนะนำเมนู Hummus ที่น่าจะถูกใจคนที่กำลังรักษาหุ่น

พิกัด : Farmer’s Market (หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ หลังอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์), Nana Jungle (บ้านป่าไผ่ล้อม), Morning Market (บ้านข้างวัด)
วลาเปิด – ปิด : 12.00 – 18.00 น. (ทุกวันศุกร์ ที่ Farmer’s Market), 8.00 – 11.00 น. (ทุกวันเสาร์ ที่ Nana Jungle), 07.00 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์ ที่ Morning Market)
เบอร์โทร : 093-1917512

เบื่อกันรึยังกับแยมทาขนมปังแบบเดิมๆ ต้องมาลองเครื่องจิ้มหรือดิปจานคลาสสิคจากแดนไกลดูบ้าง ซึ่งนอกจากจะใช้ทานกับขนมปังเเล้ว จะเอาไปทานกับสลัด เสต็ก พิซซ่าหรือสปาเก็ตตี้ก็ได้ทั้งนั้น มิกซ์แอนด์แมทช์ได้หมด มีทั้ง Pesto ซอสโหระพาสไตล์อิตาลี มีส่วนผสมของใบโหระพา กระเทียม เกลือทะเล ชีสและน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ แต่ร้านนี้เค้าใส่เมล็ดแมคคาเดเมียลงไปด้วย, Olive Tapenade อันนี้เป็นดิปสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน มีมะกอกดำเป็นส่วนผสมหลัก, Hummus ส่วนใหญ่จะพบในเมนูอาหารของเลบานอน โดยสูตรของทางร้านจะเพิ่มส่วนผสมของบีทรูทลงไป ซึ่งเมนูทั้งหมดนี้นอกจากจะมีประโยชน์กับสุขภาพแล้ว คิดว่าเหมาะกับสาวๆที่กำลังรักษาหุ่นอยู่ด้วย ซื้อใส่ตู้เย็นไว้ หิวเมื่อไรก็หยิบออกมาทานกับผักสด ช่วยชูรสได้ดี ซึ่งร้านนี้เค้าน่ารัก ทำเองกันภายในบ้าน ไม่ใส่สารกันบูด ทำตอนกลางคืน ตอนเช้าก็เอามาขายเลย สาวๆต้องลอง      

จากซ้าย – Pesto ซอสโหะพารสชาติร้อนแรง Olive Tapenade รสชาติกลมกล่อม ยิ่งกินยิ่งมันปาก เพราะแมคคาเดเมีย, Hummus สีสันสดใสตามธรรมชาติของบีทรูท, ถ้วยสุดท้าย เป็นดิปสไตล์ไทยเรานี้เอง ยังไม่มีชื่อ รสชาติคล้ายๆน้ำพริกกะปิ   


ป้ายร้านไม่มีอะไรมาก เขียนง่ายๆด้วยลายมือบนไวท์บอร์ด แต่ก็ดูสดใส จริงใจกว่าป้ายไวนิลซึ่งเห็นจนเบื่อ

– – – – – – – – – – – – – – –

9. ซาลาเปาลาวา ​By ปาปัน – วันไหนว้อนท์ แค่โทรสั่ง


คือเยิ้ม ล้นทะลัก แถมเข้มข้นด้วยรสชาติของไข่แดง ชนิดที่ลองกัดคำเดียวแล้วหยุดกินไม่ได้เลย

พิกัด : กาดนัด กาดฝรั่ง (กาดฝรั่ง Village), Farmer’s Market (หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ หลังอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์), Morning Market (บ้านข้างวัด)
เวลาเปิด – ปิด : 17.00 – 22.00 น. (ทุกวันจันทร์ ที่กาดฝรั่ง), 12.00 – 18.00 น. (ทุกวันศุกร์ ที่ Farmer’s Market), 07.00 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์ ที่ Morning Market)
เบอร์โทร : 098-4659144
Facebook : ซาลาเปาลาวา by ปาปัน

ซาลาเปานึ่งน่ะคุ้นเคย ซาลาเปาทอดก็กินประจำเวลาไปซื้อน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย แต่ซาลาเปาปิ้งนี่สิ มันเด็ดยังไง ? ว่าแล้วพี่เอ้ก พงษ์พิทักษ์ พิทักษ์มนูศาสตร์ เจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ก็กวักมือไวๆ เรียกเราให้ไปลองชิม ระหว่างที่ตระเตรียมปิ้งซาลาก้อนน้อยบนเตาย่าง แกก็เล่าไปด้วยว่า มันเกิดจากความบังเอิญแท้ๆ เพราะตอนเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนๆเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว แกก็ขนซาลาเปานึ่งธรรมดาๆนี่แหละไปร่วมฮอม กินไปกินมามีคนในกลุ่มเกิดเล่นแผลงๆ เอาซาลาปาไปปิ้งซะงั้น แล้วความพิเรนทร์ก็ได้เรื่อง เมื่อกินดูมันดันอร่อย เลยใช้ทำมาหากินได้เป็นเรื่องเป็นราวเลย นอกจากตัวแป้งที่กรอบนอก แต่ด้านในนุ่มฟูแล้ว ความพิเศษอยู่ที่ไส้ลาวา บิออกมาทีนี่ไส้เข้มข้นล้นเยิ้มออกมาทักทายเลยทีเดียว มีไส้ไข่เค็ม ใช้ไข่แดงล้วนๆมากวนกับคัสตาร์ด หอมมัน หวานเล็กน้อย อร่อยขาดใจ, ไส้ชาเขียว ก็เข้มข้น หอมกลิ่นชาเขียวแท้ๆ เพราะพี่เอ้กลงทุนใช้ชาเขียวมัทฉะจากญี่ปุ่นเลย ส่วนไส้ดั้งเดิมก็มีไส้หมูสับ เป็นสูตรโบราณ หมักหมูกับน้ำมันงา และไส้กะเพราะไก่ 2 ไส้หลังนี้คุณแม่พี่เอ้กเป็นคนเข้าครัวเอง ใครอยากลองชิมจะตามไป หรือโทรสั่งก็ได้ รับเดลิเวอร์รี่ด้วย จัดไป !


ปิ้งบนเตาไฟฟ้าเล็กๆ พอดีตัว ที่ไม่เอาเตาใหญ่ เพราะพี่เอ้กบอกว่าไม่สะดวกในการขนย้าย


พี่เอ้กกับลูกชาย น้องปาปัน เจ้าของแบรนด์ตัวจริง

– – – – – – – – – – – – – – –

10. บ้านขนม Dollar – น้องต้องลอง ผกากรองขนมสวย

สวยจนแทบไม่กล้ากิน เวลาหยิบต้องเบามือมากๆ กลัวจะเละไปซะก่อน เพราะคนทำต้องนั่งปั้น นั่งจับจีบ ทีละกลีบๆเลยทีเดียว

พิกัด : Farmer’s Market (หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ หลังอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์), Morning Market (บ้านข้างวัด)
เวลาเปิด – ปิด : 12.00 – 17.00 น. (ทุกวันศุกร์ ที่ Farmer’s Market), 07.00 – 12.00 น. (ทุกวันอาทิตย์ ที่ Morning Market)
เบอร์โทร : 085-7731374
Facebook : บ้านขนม ดอลล่าร

ปิดท้ายด้วยขนมไทยหน้าตาบอบบาง สีอ่อนหวาน จับจีบเป็นชั้นๆคล้ายดอกมะลิซ้อน (ความคิดเห็นส่วนตัว) ซึ่งผกากรองเป็นขนมไทยสมัยใหม่ที่ถูกคิดค้นโดย อาจารย์สำเร็จ วรรณพิรุณ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปณิตา วรรณพิรุณ แรกเริ่มเดิมทีก็ทำขนมถวายพระ ทำบุญไป ต่อมาเมื่อมีการเผยแพร่สูตร เจ้าขนมชนิดนี้เลยฮอตฮิตติดลมบนมาก เท่าที่รู้ ยังไม่เคยเห็นมีว่ามีขายที่ไหนในเชียงใหม่ แม้แต่ในร้านขนมไทยดังๆก็ตาม เพิ่งมาเจอเอาก็ที่ร้านนี้แหละ เวลากินต้องจับแบบทนุถนอมเลยทีเดียว เพราะด้านนอกเป็นแป้งสาลีบางๆ แต่ด้านในอัดแน่นถั่วกวนนุ่มๆ หอมมะลิอบควันเทียนมาก ซึ่งมะลินี่ก็เป็นมะลิปลูกเอง ปลอดยาฆ่าแมลง รสชาติก็ไม่หวานด้วย เหมาะกับการซื้อไปเป็นของขวัญ จัดเป็นขนมเบรค ขนมงานมงคลก็เข้าท่าดี   


นอกจากผกากรองแล้ว ก็ยังมีสัมปันนี ขนมไทยโบราณหาทานยากอีกด้วย

พี่ข้าว เจ้าของร้านสาว ที่แต่งงานเข้าครอบครัวที่ทำขนมขายมา 4 ชั่วรุ่น เลยได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับการทำขนมมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย

– – – – – – – – – – – – – – –

ท่านใดมีร้านดี ร้านเด็ด ในกาดนัดเวียงเจียงใหม่ที่เจ๋งๆ แนะนำเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้ได้รู้

เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที

Relate Posts :