เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 30 ม.ค. นายรักชัย ศรีนวน พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือและด้านตะวันตกของภาคกลางแล้ว ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงได้ในช่วงวันที่ 30-31 มกราคม 2556 นี้ โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7 – 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ วัดได้ 8.7 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และยอดดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 2 – 3 ก.พ. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนืออีกครั้งหนึ่ง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงตลอดจนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากอากาศหนาวเย็น
ด้านสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 23.55 น.วันที่ 29 ม.ค. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.4 ริกเตอร์ ละติจูด 21.11 ลองจิจูด 98.76 ศูนย์กลางอยู่ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ห่างทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงรายประมาณ 139 กิโลเมตร ต่อมาในเวลา 02.39 น.วันที่ 30 ม.ค. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.2 ริกเตอร์ ละติจูด 17.88 ลองจิจูด 97.19 ศูนย์กลางอยู่ประเทศพม่า ห่างจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 79 กิโลเมตร และในเวลา 02.50 น.วันเดียวกันได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 ริกเตอร์ ละติจูด 17.90 ลองจิจูด 96.79 ศูนย์กลางอยู่ประเทศพม่า ห่างจากทางทิศตะวันตกเฉยงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 121 กิโลเมตร และในเวลา 10.53 น.ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.2 ริกเตอร์ ละติจูด 19.67 ลองติจูด 96.09 ศูนย์กลางอยู่ประเทศพม่า อยู่ห่างทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 201 กิโลเมตร เบื้องต้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้ง 4 ครั้ง เป็นเพียงแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ ไม่ได้รับรายงานเรื่องของความเสียหายในพื้นที่แต่อย่างใด
ด้านท.พ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพยท์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวน มีทั้งอากาศหนาวในช่วงเช้ากับช่วงเย็น และมีอากาศร้อนในช่วงกลางวัน ซึ่งบางวันก็มีฝนตกในช่วงเช้ากับช่วงเย็นด้วย ซึ่งวันหนึ่งเหมือนกับมี 3 ฤดู และสภาพอากาศที่เป็นแบบนี้ ก็ทำให้มีผู้เจ็บป่วยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ขณะนี้ก็มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเพียงการเพิ่มในอัตราปกติ แต่หลังจากนี้ก็เกรงว่าหากสภาพอากาศเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปอีก ก็คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้นแน่นอน ซึ่งก็อยากจะฝากเตือนถึงประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง ควรหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมาสวมใส่ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอยู่เสมอ ส่วนกลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดจะเป็นกลุ่มเด็ก และผู้สูงอายุ ที่ควรระมัดระวัง ซึ่งผู้ปกครองที่มีลูกหลาน และผู้สูงอายุอยู่ในบ้านก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด
ท.พ.ดร.สุรสิงห์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับเรื่องไข้มาลาเรียในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นั้นก็มีบ้างในบางพื้นที่ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับรายงานว่าเป็นเขตพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแนวตะเข็บชายแดน และพื้นที่ที่มีการเคลื่อนย้ายของกลุ่มคนจำนวนมาก แต่ไข้มาลาเรียนั้นเกิดมาจากยุงที่เป็นพาหนะนำเชื้อโรค ซึ่งผู้ที่ถูกยุงกัดบ่อยๆ หรือกลุ่มคนที่ชอบท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติและถูกยุงกันจำนวนมากๆ ก็ควรเข้าตรวจร่างกายเป็นประจำที่ศูนย์รักษาโรคมาลาเรียตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อจะได้ป้องกันได้ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยก็ไม่ควรหายาทานเอง ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการให้แน่ชัดและรับยาที่มีคุณภาพไปทาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ข่าวและภาพจาก : http://www.dailynews.co.th/thailand/181532