พาเที่ยว วัดโลกโมฬี

เมื่อเช้าตาลีตาเหลือก ฟ้าวไปใส่บาตร เกือบบ่ทัน ขับรถจักรยาน เกือบถูกรถแดงสอย ถ้าข้อยเป็นคนปากหมา ซิด่าให้มันหลายอย่างอยู่ ขับรถภาษาหยัง บ่ฮู้จักความ คิดซิจอดกะจอด ข้อยกะแฮงฟ้าวอยู่ ฟ้าวใส่บาตร ฟ้าวส่งหลานไปเรียน ถนนกะยิ่งลื่นๆ ฝนตกใส่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

โอย แถวบ้านข้อยสังกะสีปลิวไปหลายแผ่น ดีที่ว่าบ่มาตกใส่หัวคน แต่เห็นข่าวบอกแถว โลตัส คำเที่ยงเสาไฟล้มหลายต้นทับรถยนต์ไปหลายคัน

ป้ายวัดครีเอทมาก

ดีที่ว่าข้อยบ่ได้อยู่แถวนั้น กะเลยรอดตัวไป หรือถึงมาล้มแถวบ้านข้อย กะบ่เป็นหยัง เพราะข้อยมีแต่จักรยาน แฮ่ๆๆ

ตกบ่ายตอนแล้งมาแล้วฟ้าวมาวัดโลกโมฬีล่ะ มาไหว้พระไหว้เจ้า กะมาซิมาเขียนรีวิวให้อ่านนำ

อันกล้องที่ไปถ่ายกะบ่ได้ดีอีหยังดอก กล้องมือถือธรรมดานี่ล่ะ ไปฮอดวัดเห็นแต่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี หลายแฮง พากันแบกล้องสามสี่ตัว มีแต่ตัวใหญ่ ถ้าข้อยได้มาถ่ายคือซิเท่ดี

เว้าเรื่องวัดโลกโมฬีแล้ว ข้อยมาหลายครั้งแล้วล่ะ วัดนี้เงียบสงบดีเด้อ ขนาดตั้งอยู่ข้างทางรอบคูเมืองเด้นิ

ไปฮอดวัดข้อยกะไปไหว้เจดีย์วัดโลกโมฬีก่อน หยิบเงินหยอดบริจาค 10 บาท หยอดใส่บาตรแล้ว ไปเข้าวิหารหลวงไหว้พระข้างในต่อ


ไหว้เสร็จแล้ว คิดออกว่าบ่ได้นั่งสมาธินานแล้ว ข้อยเลยขัดสมาธินั่งกะไว้ซัก 10 นาทีพอนั่งไปนั่งมา ห่ากินหัวมึง หลับเฉยเลยข้อย บ่ไหวอีหลี น้ำไหลกะไหล ดีอยู่บ่มีไผมาเห็น

สะลึมสะลือเดินออกมาข้างนอก การงานกะหยังบ่ได้ ข้อยเลยฟ้าวย่างไปถามหลวงพี่แถวนั้น ปากาสมุดกะเอามาจดพร้อมเสร็จสรรพ กะว่าซิเอาประวัติวัดมาพิมพ์ลง

ด้านข้างของวิหารหลวงวัด

แต่ปัญหาคือ หลวงพี่คนใหม่นี่ เบิ่งๆแล้ว คือซิยังบ่ฮู้จักหยัง ยากถึงเณรน้อยต้องไปค้นหาประวัติวัดมาให้ข้อยไปอ่าน

พอพลิกมาอ่านเบิ่ง เผิ่นกะบอกวัดโลกโมฬี เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในเชียงใหม่ อายุกว่าห้าร้อยปี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๐๗๐ โดยพระเกษเกล้าโปรดให้ยกบ้านหัวเวียงให้เป็นวัด จากนั้นได้สร้างเจดีย์ และวิหาร ในปี พ.ศ. ๒๐๗๑ เมื่อพระเกษเกล้า ฯ สวรรคตได้นำอัฐิมาบรรจุที่เจดีย์ของวัดนี้ด้วย วัดโลกโมฬีได้กลายเป็นวัดร้างมาหลายร้อยปี

พอต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2544 คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการรื้อฟื้นจากการเป็นวัดร้างให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ ได้ดำเนินการพัฒนาบูรณะวัดโลกโมฬี จนกระทั่งวันที่ 9 ตุลาคม 2544 กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้ยกฐานะจากวัดร้าง มาเป็นวัดมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ปัจจุบัน วัดโลกโมฬีเป็นศูนย์กลางการศึกษาศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยมีการจัดกิจกรรมขึ้นในเทศกาลต่างๆ สิ่งสำคัญภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์ทรงปราสาท สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.๒๐๗๑ มีประติมากรรมรูปเทวดาที่ประดับตามมุมของเจดีย์ วิหารหลวง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่ภายหลังการบูรณะวัด เป็นศิลปะแบบล้านนา มีความงดงามและปราณีต


โดยแต่ละปีวัดโลกโมฬี มีกิจกรรมต่างๆหลายอย่าง ไล่ไปตั้งแต่การสืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง ในช่วงสงกรานต์ เดือนเมษายนของทุกปี, กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เริ่มปลายเดือนมีนาคม – เดือนเมษายนของทุกปี, การปฏิบัติธรรม บวชชีพราหมณ์ ประจำปี และล่าสุดที่ข้อยไปมาประเพณียี่เป็งและตั้งธรรมหลวง ประจำปี ในช่วงประเพณียี่เป็ง

บ่อยากบอกเลยว่าช่วงยี่เป็งมาวัดนี้ วิ่งหนีเกือบบ่ทัน บักหำน้อยแถวนี้เล่นประทัดมั่วอีหลี เกือบแม่นถูกข้อย

เอาเป็นว่า เรื่องวัดโลกโมฬีที่ข้อยเว้าไปคงซิเข้าใจอยู่ดอกเนาะ ก่อนกลับจากวัด เดินไปเห็นพ่อใหญ่นึงนั่งตรงประตูท่าเข้า น่าซิเป็นผีบ้า แต่ว่าน่าสงสารอีหลี บ่รู้ว่ากินข้าวหยัง อันข้อยกะเงินเหลือบ่พอสิบบาท ถ้ามีหลายกะซิให้เขาอยู่

งวดหน้าล่ะ (คิดว่า) ซิห่อข้าวมาให้เผิ่นกิน ถ้าเผิ่นยังอยู่แถวนั้น ธรรมดาแหละครับ คนเฮาเกิดมาเห็นไผทุกข์ยาก ช่วยเหลือเขาได้กะช่วยเหลือเขาไป ชาติหน้าฉันใดเกิดมา ซิได้รวยกับเขาบ้าง

สำหรับวันนี้ พอแค่นี้ก่อน ไผว่าง แวะมาไหว้พระวัดโลกโมฬีได้เด้อครับ

ก่อนเข้าไปไหว้พระแชะซักหน่อย
ในนี้สงบมากครับ
เจดีย์วัดโลกโมฬี
มีต้นมะขามแซมแจมมาด้วย
ไผมาบ่อ่านบ่รู้เรื่องเด้อ
คำไหว้พระ เพื่อความขลัง?
ตรงนี้เป็นเจดีย์บอกพระธาตุของปีเกิดต่างๆ

เขียวๆนี้ไม่ใช่น่าจะใช่มอสส์นะข้อยว่า

ข้อยหยอดไป 10 บาท
ขอทานคนนี้น่าสงสารแฮง
เหลียวมาอีกที นอนแล้ว

Relate Posts :