ถ้าหากเราทุกคนทำตามหน้าที่ของตนโดยไม่บกพร่อง โลกเบี้ยวๆใบนี้คงน่าอยู่มากขึ้น
นักเรียนตั้งใจเรียนหนังสือไม่เกเร นักการเมืองบริหารประเทศอย่างสุรจิต คุณหมอรักษาคนป่วยโดยไม่ขูดรีดค่ารักษา คนหาปลาไม่แอบไปหาปลาในช่วงฤดูวางไข่ หรือสิ่งมีชีวิตที่แม้แต่ใครๆต่างก็เรียกว่า “ตำรวจ” ดูแลความสงบให้แก่บ้านเมือง ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน เท่านั้น อะไรๆมันก็จะดีขึ้น
กรณีย่อหน้าเมื่อกี้ใช้เฉพาะในทางที่ดีนะครับ ส่วนทางเสียๆหายๆ ไม่เหมาะจะควรใช้กันอย่างยิ่ง
บางคนทำได้เต็มกำลังบ้างในหน้าที่ของตน หรือไม่ถึง แต่มีหนึ่งคนที่ทำเกินหน้าที่มากเกินกว่าตนจะรับผิดชอบตามบทบาททางสังคม เขาผู้นั้นชื่อ ดต.สิมานนท์ โพธิสุวรรณ หรือ “ลุงดาบหมาน”
นายตำรวจผู้มีจิตอันกุศล มาเล่นกีตาร์ร้องเพลงหาเงินช่วยเหลือเด็กยากจน ที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดาร, คนชรา, คนพิการ, และคนป่วย โดยมีกล่องบริจาคว่างแหมะไว้ด้านหน้า
บทเพลงแล้วบทเพลงเล่า ถูกขับกล่อมผ่านน้ำเสียงด้วยความจริงใจ ฝรั่งไปไทยผ่านมาถนนคนเดินท่าแพในวันอาทิตย์ ก็ยืนมุงดู พร้อมบริจาคเงินตามกำลังศรัทธา
ที่ผมเล่ามาไม่ต้องการจะบอกว่า คุณต้องสวมบทฮีโร่ช่วยเหลือคนอื่นเหมือน “ลุงดาบหมาน” แต่นี้คือการมองผ่านมุมของผู้ชายคนนึงที่เสียสละเผื่อส่วนรวม แถมในฐานะของการเป็นตำรวจจราจร “ลุงดาบหมาน” ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เหมือนๆกับการเล่นกีตาร์หาเงินช่วยเหลือคนตกทุกข์
การเล่นกีตาร์หาเงินช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่หน้าที่ แต่นี้คือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทางนึง เท่าที่คนคนนึงจะทำได้ แต่ถ้าจะให้ดี อย่างที่ผมได้บอกไว้แต่สองย่อหน้าแรก ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามบทบาททางสังคมที่ตัวเองได้รับ
อาจจะยากซักหน่อย แต่การจะให้มี Superman บ่อยๆในร่างจำลองของ “ลุงดาบหมาน” อาจจะยากกว่านั้นอีกเท่าตัว