เราต้องเจอกันอีกแน่นอน “ม่อนเงาะ” เอ๋ย !!!

พิกัด : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ บ้านม่อนเงาะ หมู่ 5 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50150
โทร : 053-318-308

“เฮ้ยๆ รู้จักม่อนเงาะป่าว”  เสียงแหวกอากาศออกมาจากกลุ่มเพื่อนที่กำลังเมามันส์กับการคุยทับถมกันเรื่องการถ่ายภาพ ทุกคนนิ่งไปซักพักก่อนจะถามกลับไปว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันคืออะไร

“เฮ้ยเขาบอกว่ามันเป็นภูชี้ฟ้าเชียงใหม่เลยนะเว้ย” แค่ได้ยินว่าเป็น “ภูชี้ฟ้า” เชียงใหม่ คนที่มีความหลังกับภูชี้ฟ้าอย่างผมก็สนใจใคร่รู้ขึ้นมาในทันที ผมไม่รอช้าถามหาวิธีการและเส้นทางเพื่อเดินทางไปค้นหามัน เจ้าของเรื่องก็ไม่รอช้าแนะนำเส้นทางและวิธีการไปถึงขุมทรัพย์ที่เรียกว่า “ม่อนเงาะ”

ผมออกเดินทางในวันเกือบสุดท้ายของเดือนตุลาคมปีที่แล้ว คณะเดินทางของผมมีผู้ร่วมผจญภัยไปด้วยสองคน เราออกเดินทางโดยมีจุดหมายแรกคือตลาดแม่มาลัย พวกเราแวะซื้อสะเบียงและเช็คเส้นทางกับคนในพื้นที่อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พวกเราเริ่มเดินทางต่อบนเส้นทาง แม่มาลัย-ปาย โดยมีจุดหมายปลายทางตรงทางแยกขึ้นโครงการหลวงม่อนเงาะ บรรยากาศสองข้างทางเริ่มเป็นป่าเขาาและถนนเริ่มสูงชัน ผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมกลุ่นของการผจญภัย


เราเลี้ยวขวาตรงทางแยกขึ้นโครงการหลวงม่อนเงาะและเดินหน้าเดินทางต่อ ตลอดเส้นทางสู่ม่อนเงาะเป็นถนนเก่าๆสลับกับทางลูกลังไม่ชันมากแต่ในช่วงที่พวกเราเดินทางไปฝนพึ่งตกพอดี เลยทำให้การเดินทางยากและดูอันตรายแล้วยังมีแถมทางเดินป่าให้อีกในตอนท้าย ผมรู้สึกทันทีว่า “ไอ่ม่อนเงาะนี้แหละ มันต้องเป็นขุมทรัพย์ที่สวยสดงดงามอย่างแน่นอน” ว่าแล้วพวกเราเดินทางมาถึงจุดก้างเต็นท์เส้นทางต่อไปเป็นเส้นทางเดินเท้าพวกเราจึงพักยืดเส้นยืดและลงมือสายกางเต็นท์ ระหว่างที่กำลังอู้งานไม่ยอมช่วยคณะกางเต็นท์นั้นหนึ่งในคณะเดินทางส่งเสียงเตือนว่าแสงเย็นกำลังจะเดินทางเข้ามาแล้ว พวกเราไม่รอช้าทิ่งทุกสิ่งอย่างขว้ากระเป๋ากล้องออกเดินต่อสู่ยอดดอยในทันที


คณะเดินทางร่วมกับบรรเลงเพลงเสียงชัตเตอร์กันสนั่นป่า กดชัตเตอร์กันแบบแทบไม่ลืมหูลืมตา ทิวเขาที่สลับกันยาวสุดลูกหูลูกตา  แสงสีส้มของพระอาทิตย์อาบไปทั่วทั้งทิวเขาดูแล้วเข้ากันดี พวกเราเพลิดเพลินกับการบรรเลงบทเพลงเสียงชัตเตอร์ บรรเลงไปเรื่อยๆ ท้องฟ้าที่เปิดโล่ง เมฆที่ไล่ระดับกัน ยิ่งเติมแต่งให้พวกเราได้ภาพที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม กระแสลมที่พัดมาตลอดเวลายิ่งยึดดึงรั้นเราไว้แทบไม่อยากออกไปไหน แต่สุดท้ายพวกเราจำใจต้องยอมแพ้ต่อแสงอาทิตย์ที่ลับไปและยอมลงมาจากยอดดอย แต่ถึงกะนั้นด้วยทิวทัศน์ที่งดงามพวกเราจึงนัดหมายกันบรรเลงเสียงเพลงชัตเตอร์อีกครั้งในยามเช้า เมื่อลงมาถึงที่พัก พวกเรากินข้าวและพูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนแยกย้ายกันเข้านอน

ยามเช้าพวกเราตื่นขึ้นบนรถ เหตุเพราะว่าเมื่อคืนมีพายุฝนโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างรุนแรง จนพวกเราต้องพากันหลบเข้าไปนอนต่อกันบนรถ พวกเราใช้เวลาไม่นานเพื่อทำธุระส่วนตัว จากนั้นจึงรีบเดินลงไปยังลานด้านล่างเพื่อถ่ายภาพทะเลหมอก แต่คราวนี้พวกเรากลับต้องผิดหวังเพราะว่าพายุฝนเมื่อคืนนี้ ทำให้ท้องฟ้าในวันนี้มีเมฆน้อยเกินไปประกอบกับอาการนอนตื่นสายของพวกเรา ทำให้ทะเลหมอกเหลือน้อยเต็มทน แต่พวกเราก็ยังคงบรรเลงบทเพลงเสียงชัตเตอร์กันต่อไป โดยไม่สนว่าหมอกที่มีอยู่มันน้อยเต็มทีแล้ว พวกเราใช้เวลาดื่มด่ำกับทะเลหมอกที่แสนน้อยนิดของเรา สูดอากาศยามเช้าที่สดใส ท้องฟ้าโทนสีน้ำเงิน มีเมฆบางนิดๆ หน่อยๆ พวกเราบรรเลงเสียงชัตเตอร์อย่างไม่แคร์ใครสบายอารมณ์


ถ้าจะเปรียบม่อนเงาะคือภูชี้ฟ้าของเชียงใหม่ เรื่องความสวยงามผมว่ายังไงภูชี้ฟ้าก็ยังสวยกว่าและน่าสนใจกว่าม่อนเงาะเป็นแน่แท้ แต่ถ้าเปรียบในเรื่องของความเป็นธรรมชาติแน่นอนที่สุดว่าม่อนเงาะย่อมกินขาด ม่อนเงาะยังคงความเป็นธรรมชาติเป็นป่าเป็นเขามากกว่า มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และยังไม่มีร้านค้าหรือรีสอร์ทหรูเข้ามาอย่างเช่น ภูชี้ฟ้า

การเดินทางเข้าถึงม่อนเงาะผมบอกได้เลยว่า เข้าถึงง่ายและใช้เวลาน้อยกว่าถ้าเดินทางมาจากตัวเมืองเชียงใหม่นะครับ ถนนหนทางไม่ต้องห่วงถ้าไม่มาช่วงฝนแบบพวกผม สบาย!! (3G เข้าถึงนะฮะ เร็วด้วย) แต่ถ้าจะมาม่อนเงาะคนเดียวผมบอกได้เลย ” เลิกคิดแบบนั้นเถอะครับ ” ผมเชื่อนะว่ารอบๆ จุดกางเต็นท์ในรัศมี ห้า กิโลเมตรนะ ไม่มีเด็ดขาดเลย สิ่งมีชีวิตที่เลี้ยงลูกด้วยนม โอ้วววว! ผมเดินทางไปทริปนี้สามคน บอกตรงๆ เลย เหงามากกกก อยู่กันสามคน คุยกันสามคน กิน (ข้าว) กันสามคน นอนกันสามคน มีแค่สามคนจริงๆ ครับ

แล้วเรื่องที่น่าเสียใจคือเรื่องความสะดวกสบาย ที่ม่อนเงาะแห่งนี้ขอบอกได้เลยว่า ติดลบ ร้านค้าอยู่ห่างออกไปจากจุดกางเต็นท์ก็ตั้งเกือบ ห้า หก เจ็ด กิโลฯ ถ้าไม่เตรียมของไม่พอนี้ยุ่งวุ่นวายกันเลยทีเดียวละครับ และที่สำคัญที่สุดและเป็นเรื่องที่เป็นไฮไลท์ที่สุดด้วย คือ ม่อนเงาะมีห้องน้ำให้นะครับ แต่มันไม่มีน้ำนี้แหละครับพี่น้อง (แล้วจะมีทำไมละเนี่ยห้องนงห้องน้ำเนี่ยยย วู้ววว ให้ตายซิ) ถ้าถ่ายเบายังพอทนนะ ใครจะถ่ายหนักละก็….ลืมเอาทิชชูมาด้วยละก็ ต้องใช้กิ่งไม้ข้างทางอย่างเดียวเลยละครับ สำหรับผมถ้าพูดความประทับใจในทริปนี้แล้ว สำหรับผมเต็มสิบผมให้เก้าเลยครับ เจอเรื่องอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมาย สนุกสนานตลกโปกฮากันมากมาย สำหรับม่อนเงาะแล้วผมมีพูดคำหนึ่งจะให้ไว้เลยว่า “เราต้องเจอกันอีกแน่นอนม่อนเงาะ!!”

ปล. คำเตือน ควรเช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนเดินทางมาม่อนเงาะ นะจ๊ะ

Relate Posts :