Info : 100 สวนสัตว์เชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
เปิดให้บริการเวลา 8:00 น. – 18:00 น. ทุกวัน โทร : 053-221179
ไปเที่ยวสวนสัตว์กันอาทิตย์นี้ ! สิ้นเสียงของชายหนุ่มคิ้วเข้มท่านหนึ่งที่ชวนอิฉันไปเที่ยวย้อนวัยเด็กกันนั้น เป็นคำชวนที่ทำให้อิฉันคิดมากไป 3 วัน 3 คืน เอ้าก็ว่าไปนั้น ! เพราะตั้งแต่เกิดมาจนโต จำได้ว่าไปสวนสัตว์แค่ 3 ครั้งในชีวิต ตอนเด็กนี้มันสนุกมากอ่ะ ได้ดูสัตว์แปลกๆมากมายทั้ง ลิงเอย นกเอย งูเอย โอ๊ย สารพัดสัตว์ แต่พอโตขึ้นมา กลับไม่มีความตื่นเต้นเลยเมื่อได้เข้าไปดูสวนสัตว์ แต่เพื่อความอยากรู้ว่าถ้าเราไปสวนสัตว์ครั้งนี้เนี่ย มันจะเป็นยังไงน๊ะ เอาว่ะ ไปก็ไป!
ว่าแล้วเราก็เข้าไปเที่ยวสวนสัตว์กันแบบมึนๆค่ะ เพราะตั้งแต่มาอยู่เชียงใหม่นี้ ไม่เค๊ย ไม่เคยที่จะย่างเท้าเข้าไปในสวนสัตว์สักกะครั้ง เราเริ่มเดินทางกันตั้งแต่ 10 โมง พอถึงประตูสวนสัตว์ เราก็ต้องซื้อบัตรก่อน โดยบัตรผู้ใหญ่ราคา 70บาท ส่วนนักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ 50 บาท และ เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 ซม. 20 บาท
ต้องออกตัวก่อนว่า จริงๆเราไม่รู้เลยว่าที่สวนสัตว์มีอะไรน่าดูบ้างนอกจากหมีแพนด้า ซูอะควาเรียม และสโนว์โดรม แต่ด้วยเวลาและงบที่จำกัด เราจึงเลือกที่จะไปดูสัตว์แปลกๆกันดีกว่า ว่าแต่ว่าจะเข้าไปตรงไหนของสวนสัตว์กันละทีนี้ ดูแผนที่กันก่อนดีกว่า และเราก็ตัดสินใจที่จะเลือกเดินทางไปตามเส้นทางที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน มันจะได้สะดวก ว่าแล้วก็ไปเลยล่ะกัน!
สำหรับจุดแรกที่เราเดินมาถึง คือ กรงนกค่ะ นกที่ทำให้เราสะดุดตามากเลย ก็คือ นกฟลามิงโก แค่ชื่อก็หรูละ เป็นนกที่ดูมีสง่าราศรีมาก สำหรับนกชนิดนี้เป็นนกที่มีคอและขายาวมาก มักจะอาศัยอยู่บริเวณแถบทวีปยุโรปจรดเอเชียบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นอกจากนี้ก็จะมีนกแก้ว และนกมาร์คอร์ ด้วย
พอเดินมาได้สักแปบ ด้วยความแก่ของเรา ทำให้เริ่มปวดขา เราไปขึ้นรถกันดีกว่า และด้วยความโชคดีของเราที่เราใช้เครือข่าย AIS กันทั้งคู่ จึงสามารถซื้อบัตรที่สามารถขึ้นได้ทั้งรถรางและรถไฟฟ้า ในราคา 80 บาทจาก 100 บาท และจะขึ้นกี่รอบก็ได้ทั้งวัน โอ้ แม่เจ้า !มันเด็ดตรงนี้แหล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราเริ่มออกเดินทางโดยรถไฟฟ้าที่มีแอร์เย็นฉ่ำกันดีกว่าค่ะ
เย้ๆ เราจะได้ขึ้นรถไฟฟ้าแย้วววว พอขึ้นมาข้างบนของสถานี คนเยอะเอาการเลย เบียดเสียดกันน่าดูเพราะวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ และพอขึ้นมาแล้ววิวทิวทัศน์ข้างบนสวยงามมาก แต่เมื่อนั่งไปนานๆก็แอบเบื่อ เพราะมันไม่เห็นอะไรเลยนอกจากท้องฟ้าและต้นไม้ แนะนำเลยว่า สำหรับใครถ้าอยากดูและสัมผัสสัตว์ แนะนำให้ขึ้นรถรางเถอะค่ะ มันจะ แดม แจ่ม ว๊าวว มากกว่า!
เราก็นั่งกันมาเรื่อยๆ จนถึงสถานีที่ 3 เราจึงตกลงที่จะลงเดินกันดีกว่าค่ะ เพราะมันน่าจะมีอะไรให้เราได้ตื่นเต้นมากกว่า โดยบริเวณนี้ก็จะมีน้องช้างให้ดู ซึ่งที่นี้เขาก็มีอาหารช้างจำหน่ายด้วยนะคะ ตะกร้าละ 20 บาทเอง และมีบริการขี่หลังช้างชมวิวด้วย คนละ 100 บาทใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที สำหรับครั้งนี้ ถือว่า เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิตอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ ตอนแรกมันจะเกร็งๆ โคลงเคลงและหวาดเสียว แต่พอนั่งไปนานๆ สนุกค่ะ และวิวข้างบนค่อนข้างสวย สำหรับใครที่อยากมีประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิต แนะนำให้ไปขี่ช้าง!!!
นอกจากแถวนี้จะมีช้างแล้ว ยังมีน้องเพนกวิน ตัวเล็กเดินต้วมเตี้ยม ให้เราได้ดูกันด้วย สำหรับน้องเพนกวินของที่นี้เป็นสายพันธุ์ฮัมโบลดท์ ซึ่งเป็นเพนกวินขนาดกลาง และมีขนไม่หนาเพราะไม่ได้อาศัยอยู่บริเวณที่หนาวจัด ตัวมันน่ารักมาก ใครที่เข้ามาเที่ยวก็อย่าลืมแวะดูน้องเพนกวินกันนะคะ
หลังจากดูน้องเพนกวินแล้ว เราก็เดินไปดูในส่วนของนกหายากกันดีกว่า โดยที่นี้ก็จะมีทั้ง เหยี่ยว นกอินทรี และนกอีกสารพัดนกค่ะ
ดูสัตว์น่ารักๆมาก็เยอะละ เปลี่ยนอารมณ์ไปดูสัตว์ดุร้ายกันบ้างดีกว่า จระเข้ของที่นี้มีหลายสายพันธุ์นะคะ ทั้ง จระเข้น้ำจืด จระเข้ มีตัวนึงเป็นจระเข้น้ำจืด ท่านอนเป็นเอกลักษณ์มาก
ส่วนเจ้าตัวนี้ มันมีชื่อน่ารักๆ ว่า คาปิบารา เป็นสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะคล้ายหนูตะเภา อาศัยอยู่ในประเทศ อาเจนจิน่า บราซิล และโคลัมเบีย
และแล้วด้วยเวลาที่จำกัด จึงทำให้การผจญภัยในสวนสัตว์ของเราต้องจบลง แต่ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เราได้มาเที่ยวสวนสัตว์ ทำให้มุมมองของการเที่ยวสวนสัตว์ของอิฉันเปลี่ยนไปเลย มันทั้งตื่นเต้นและสนุก งานนี้คงต้องขอบคุณชายหนุ่มคิ้วเข้มคนนั้นจริงๆค่ะ ที่ทำให้ความทรงจำในวัยเด็กของอิฉันฟุ้งขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่บางจุดอย่าง อย่างเสือโคร่ง เสือขาว และสิงโต ได้มีการปรับปรุงทัศนียภาพ หากใครที่อยากเห็นช่วงนี้คงต้องอดไปสักพักนะคะ และท้ายนี้หากใครที่อยากมีประสบการณ์แบบเรา หรืออยากพาลูกพาหลานไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ดิฉันคิดว่าสวนสัตว์เชียงใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ
คุณรู้หรือไม่!!
1. คนที่ใช้โทรศัพท์เครือข่าย AIS และมียอดค่าโทร 300 บาทต่อเดือน สามารถใช้เป็นส่วนลดค่าบัตรรถไฟฟ้าและรถรางได้ในราคา 80 บาทจาก 100บาท
2. หลินปิง ลูกของช่วงช่วงและหลินฮุ่ย จะถูกส่งตัวไปเลือกคู่ที่ประเทศจีน วันที่ 28 กันยายนนี้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
