Humans of Chiamg Mai: Garno Benahmad (เหลาหัวถึงบ้าน คือ งานของอับดุลรอคัท)

        Garno Benahmad หนุ่มร่างเล็กผู้ชื่นชอบการตัดผมเป็นชีวิตจิตใจ “เพราะการตัดผมคือ ความสุขของผม” เริ่มต้นจากตัดให้ตัวเอง ตัดให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมปีที่ 3 จนเกิดเป็นความชำนาญ บวกกับความคิดแตกต่างในการรับตัดผมแบบ Delivery กับ Concept “เหลาหัวถึงบ้านคือ งานของอับดุลรอคัท” ทำให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเวลาไม่นาน เด็กหนุ่มคนนี้มีแนวคิดยังไง ทำไมต้องเหลาหัว ไปหาคำตอบพร้อมกัน

สัมภาษณ์ที่ออฟฟิศรีวิวเชียงใหม่ วันที่ 27 สิงหาคม 2557 บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพราะต้องเหลาหัวให้ทีมงานด้วย

แนะนำตัวหน่อย

ชื่อนาย กาโน่ร เบ็ญอาหมัด (Garno Benahmad) เรียกสั้นๆว่า “โน่” ก็ได้ อายุ 26 ปี พ่อเป็นคนมาเลเซีย แม่เป็นมาลาเรีย (ฮา) มีเชื้อแขกอิสลาม ตอนนี้เป็นดีเจอยู่ที่คลื่นวิทยุ  Smart Get Feel Good คลื่นเสียงสามยอด เอฟเอ็ม 105.75 MHz. จัดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น. และรับเป็นพิธีกร วิทยากรตามงาน Event ต่างๆ

AbdulRawCut หมายความว่าอะไร

มันเป็นการตั้งชื่อแบบไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตั้งใจ ตอนแรกจะตั้งชื่อว่า The Garno Land เฮ้ยมันดูตั้งใจไปหน่อย ผมมีแก๊งค์ดีเจวิทยากรกลุ่มหนึ่งชื่อ‎มักกระสรรค์กรุ๊ป เราดูชิงร้อยชิงล้านด้วยกันชื่อตอน อับดุลรอเย็ด จึงเอาชื่อนี้มาตั้งเป็น อับดุลรอคัท (AbdulRawCut)

ความหมายของคำว่า Abdul ก็คือแขก คนที่สามารถตอบอะไรได้ทุกอย่างเช่น อับดุลเอ๊ย ถามได้ ตอบได้ ถามได้ ตัดได้ไหม ตัดได้ อะไรประมาณนี้ ส่วน RawCut แปลว่า รอเขามาตัด อยู่ที่ไหนก็ตัดได้ และอีกความหมายหนึ่ง Raw แปลว่า ดิบ ตัดแบบดิบๆ มีเแค่เก้าอี้ตัวเดียวก็ตัดได้แล้ว ส่วนคำว่าเหลาหัวก็แปลว่า ตัดผม หาชื่อเรียกเท่ๆไม่อยากเรียกว่าตัดผมเหมือนคนอื่น

 ทำไมต้อง Delivery เปิดร้านรอลูกค้าจะง่ายกว่าไหม

        มันไม่มีตังค์ครับพี่ นี่คือประเด็นหลักเพราะเปิดร้านต้องใช้งบเยอะ ทำร้านมันมีอะไรหลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะเปิดทำเลไหนดี ต้องมานั่งเสี่ยงดวงอีก เอ๊ะ! มันจะดีป่าววะ ค่าเช่านิมมานตารางวาก็โคตรแพง คิดไปคิดมา Delivery ดีกว่ามันง่ายดี เราไม่ต้องมีหน้าร้านแค่เราอัพเดทอุปกรณ์ให้ดูดีขึ้นหน่อยก็โอเคแล้ว ตัวเราก็ชอบขับมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว เมื่อสองอย่างที่ชอบลงตัวพอดีเราก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ อย่างเดือนก่อนหน้านั้นก็เพิ่งตัดผมให้สงกรานต์ The Voice ถึงโรงแรมที่เขาพัก คิดดูถ้าเราเปิดร้านเราคงไม่มีโอกาสแบบนี้

ผลงานการเหลาหัวให้กับสงกรานต์ The Voice


แล้วจริงๆอนาคตคิดว่าจะเปิดร้านมั้ย

อยากเปิดที่บ้านตัวเอง ตกแต่งเป็นห้องสวยๆ สั่งเก้าอี้อย่างดี ทำเป็นอาร์ทแกลเลอรี่ แต่จะไม่ตัดทุกวัน รับเฉพาะใครที่อยากมาตัดร้านเราจริงๆ เป็นบริการแบบ Exclusive ส่วนตัดแบบ Delivery ก็มีเหมือนเดิม เพราะบางคนเขาไม่มีเวลาจริงๆเราก็ต้องไป แต่จองมาก่อนดีที่สุด แอดเฟสบุ๊คมาได้ครับ Garno Benahmad

เคยไปตัดไกลสุดที่ไหน ขอบเขตระยะการให้บริการอยู่ตรงไหน

ไกลสุดแม่แตง แถวแม่สะลวง ตัดให้เพื่อนมันเปิดร้านลาบที่นั่น มันก็เลี้ยงแบบเต็มที่ ลาบ ส้า หลู้ ย่าง เราก็ได้ขี่รถชมธรรมชาติเหมือนออกทริป ร้อนบ้างอะไรบ้างแต่มีความสุข นี่คือสิ่งที่ผมได้มากกว่าการตัดผม ราคาก็คิดเท่าเดิม 150 บาท “เพราะเป้าหมายของผมไม่ใช่เงิน เน้นเงินอย่างเดียวมันไม่เวิร์คหรอกครับ เน้นความสุขดีกว่า”

ลูกค้าที่อยู่ไกลถ้าเราได้ไปออกทริปก็จะไปตัดให้ อย่างล่าสุดไปอบรมที่อ่างข่าง สะเมิง ก็พกปัตตาเลี่ยนไปด้วย ส่วนลูกค้าต่างจังหวัดกำลังคิดอยู่เพราะเรื่องระยะทาง เวลาและหลายๆอย่าง ถ้าลงตัวมากขึ้นไปตัดแน่นอนครับ

เคยตัดผมให้ผู้หญิงบ้างไหม

เคยผ่านผู้หญิงมา 5 คน เอ้ยไม่ใช่ ตัดมา 5 คนครับ (ฮา) เป็นน้องๆพริตตี้พิธีกรที่รู้จักกัน ผมตัดเล็มปลายอย่างเดียวเพราะผมผู้หญิงตัดยาก ตัดออกมาคนสวยทุกคนครับ เพราะหน้ามันสวยอยู่แล้ว (ฮา)

ถึงตอนนี้ตัดผมไปกี่หัวแล้ว

นับคร่าวๆ รวมหัวที่ตัดซ้ำก็ประมาณ 500 – 600 ครั้ง ผมเริ่มทำตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ตัดให้เพื่อนพี่ดีเจในกลุ่มมักกระสรรค์ก่อน ทำได้ดีก็ตัดให้ลูกค้ามากขึ้น บางวัน 5 หัว บางวัน 13 หัว เกือบอ้วกเพราะมันเยอะเกิน หลังๆมาผมเอาแบบพอดีๆ 5 หัวพอละ “ผมทำงานเอาความสุขนำ ไม่ได้เอาเงินนำ ถ้าผมตัดแค่ 5 หัวต่อวันแล้วงานทุกอย่างออกมา Perfect กับตัดวันละ 13 หัว แต่งานออกมาไม่ดีสักอย่าง ผมเลือกอย่างแรกดีกว่า” กาโน่บอกกับเราพลางหยิบอุปกรณ์ทั้งปัตตาเลี่ยนเล็กใหญ่ หวี กรรไกรที่ยัดแน่นอยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ของเขาออกมาเตรียมตัดผมให้กับทีมงานของเรา


ทำไมถึงชอบอาชีพตัดผม รู้ตัวเองว่าชอบตัดผมตอนไหน

เริ่มจากการชอบตัดผมตั้งแต่ชั้น ม.3 ตอนนั้นผมเล่นบาส ทรงผมต้องฮิปฮอป กันลายเท่ๆ คิดว่ามันไม่ยากหรอกมั้ง แม่ยังเคยตัดให้เลย ตอนนั้นคือแบบทรงกะลาครอบ คิดภาพออกมั้ย เอาวะลองดู เริ่มจากตัดให้ตัวเอง ตัดให้เพื่อนๆ เป็นอย่างนั้นประมาณ 2 ปี จนขึ้นชั้น ม.5 ก็หยุดตัดผมเพราะไปทำงานดีเจ  จนกระทั่งปีที่แล้วมีโอกาสไปเรียนตัดผมเพิ่มเติมที่วิทยาลัยสารพัดช่าง เขาสอนความรู้พื้นฐานทั่วไป เรียนได้ประมาณสามเดือน ก็ตัดสินใจออกมาทำร้านของตัวเอง ส่วนที่ตัดแนววินเทจเพราะเทรนด์กำลังมาแรงและผมเองก็ชอบแนวนี้

ปัญหาของการทำอาชีพตัดผมมีอะไรบ้าง

อย่างแรกเลยคือปัญหาเรื่องอุปกรณ์ บางวันปัตตาเลี่ยนพังผมก็ใช้กรรไกรแทน มันตัดได้แต่ช้าและไม่เนี๊ยบเท่าปัตตาเลี่ยน บางวันรถเสียก็ต้องเอาเข้าอู่ อย่างช่วงนี้ฝนตกหนักเลย ถ้าลูกค้าตั้งใจที่จะตัดกับเรา ผมจะใส่หมวกกันน็อคใส่เสื้อกันฝนไปเลยครับ มันไม่มีอะไรยาก และอีกปัญหาที่เจอคือ  ปัญหาเส้นผม บางคนผมเส้นบางแต่อยากเช็ต ผมต้องพยายามบอกเค้าว่าเฮ้ยเอาแบบนี้ดีกว่ามั้ยพี่ เหมือนเป็น Hair Stylist ส่วนตัว ผมตัดครั้งนึงอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพราะผมตั้งใจทำให้ดีที่สุด ระหว่างนั้นเราก็พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ผมมองว่ามันเป็น Moment ที่ดีนะ

คนไทยไม่ตัดผมวันพุธ คุณหยุดวันพุธไหม

ความเชื่อนี้เท่าที่ผมรู้คือ ในสมัยนั้นทุกวันพุธจะเป็นวันที่พระมหากษัตริย์ตัดผม เขาจะเรียกช่างฝีมือดีที่สุดมาตัดในวัง ดังนั้นชาวบ้านทั่วไปจึงไม่มีสิทธิ์ตัดผม แต่ตัวผมเองตัดทุกวันครับ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์ขอหยุดไปเที่ยวพักผ่อนคลายสมองบ้าง

เคยท้อใจบ้างไหม แบบว่าโดนสกัดดาวรุ่ง แล้วคุณทำยังไง

มีครับ พี่ในแก๊งผมเลย แกคือพี่โจโจ้ คนที่ปลุกปั้นให้ผมเป็นดีเจ เมื่อก่อนผมอ้วน 80 กิโลกรัม ลดลงมายี่สิบกิโลใช้เวลาแค่เดือนเดียว กับคำพูดที่ว่า “มึงจะแดกเหี้ยอะไรหนักหนา ขี้เป็นทองแล้วมั้ง” ผมตัดสินใจลดน้ำหนักทันที ทุกอย่างอยู่ใจ ช่วงที่ผมจะออกจากงานเพื่อมาทำอาชีพตัดผม มีเพื่อนบอกว่า “มึงจะออกจริงๆหรอ ทำไปสักเดือนเดียวมึงก็เบื่อแล้วแหละ” คำพูดนี้ทำให้ผมปรี้ดมาก ตั้งแต่นั้นมาผมก็พยายามพิสูจน์ตัวเองว่าเราก็ทำได้ มันไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย จนวันนึงผมออกทีวี มีคนรู้จักมากขึ้น เขาก็ยอมรับ ความท้อใจไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีหรอกครับ เวลาท้อผมจะมีวิธีของผมคือ เขียนลงไปในกระดาษให้หมดแล้วบอกถึงสาเหตุ วิธีแก้ให้เลย มันก็ช่วยได้เยอะ “ความสุขความทุกข์ อยู่ที่เราหมด เราต้องปล่อยวาง ทำอะไรทำให้เต็มที่ Work Hard Play Hard แล้วมันจะดีเอง”

สำหรับคนที่อยากเป็นช่างตัดผมมืออาชีพ คุณจะแนะนำอะไรเขาบ้าง

ลองทำเลยครับ หาหัวมาลองอาจเป็นหัวเพื่อน หัวแฟน หัวญาติสนิทมิตรสหาย หรือแม้แต่หัวตัวเองก็ได้ ทำครั้งที่ 1 ไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องทำครั้งที่ 2 3 4 5 เพื่อให้เราได้พัฒนาฝีมือ ให้เวลากับมันเยอะๆ ค้นหาทดลองไปเรื่อยๆ ว่าอันไหนเราทำแล้วเรามีความสุข อย่างตัวผมเวลาได้เหลาหัวแล้วผมมีความสุข ลูกค้าก็แฮปปี้ มันดีทั้งสองฝ่าย “อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองเจ๋งตัวเองเก่ง อย่าใช้เงินนำ ต้องใช้ใจนำ”

เรื่องราวชีวิตของ  Humans of  Chiang Mai คนต่อไปจะเป็นใคร ติดตามกันได้ที่นี่ และถ้าหากใครมีบุคคลแห่งแรงบันดาลใจที่อยากแนะนำ ก็อย่าลืมแวะมาเม้นท์มาแชร์ให้เราได้รู้ตามช่องคอมเม้นท์ด้านล่าง หรือ

  
เจ๋งจะได้ตามไปเจาะลึกกันอย่างทันท่วงที  ราตรีสวัสดิ์ครับพี่น้องชาวเชียงใหม่

Relate Posts :