เที่ยวเชียงดาว 2 วัน 1 คืน ก่อนลมหนาวมาเยือน กอดเมฆยอดดอย

เที่ยวเชียงดาว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคชะตานำพาให้เป็นไป แต่คือความตั้งใจล้วน ๆ ที่จะเก็บกระเป๋า สวมรองเท้าผ้าใบ ฝ่าสายฝนปรอย ออกเดินทางไป เที่ยวเชียงดาว ในช่วงฤดูฝนแบบนี้ เพราะอะไรนะหรือ…เพราะเชียงดาวในช่วงเวลานี้คือช่วงที่ดีที่สุดสำหรับท่องเที่ยว ทั้งสภาพอากาศที่เย็นสดชื่น ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก ทำให้มีเวลาซึมซับกับบรรยากาศของ เมืองถ้ำสวย ดอยสูง ต้นกำเนิดสายน้ำปิง แบบส่วนตัวมากกว่าช่วงไหน ๆ

ถ้าใครอยากจะออกลุยทริปสั้น ๆ 2 วัน 1 คืนด้วยกัน เตรียมเพลงโปรดสุดโรแมนติกและเสื้อกันลมให้พร้อม แล้วกระโดดขึ้นรถมาด้วยกันเลย…

เส้นทางร่มรื่น ถนนลาดยาง ขับไปไม่นานก็ถึงเชียงดาว

การเดินทางไปเที่ยวเชียงดาวครั้งนี้ต้องขอบคุณ AIS (Advanced Info Service) ผู้สนับสนุนและบริษัทโตโยต้าล้านนา ที่ให้รถ Toyota Fortuner 3.0V AT 2WD ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาใช้ในการเดินทาง ซึ่งเส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปเชียงดาวกว่า 72 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางราบเรียบตลอดสาย 4 เลนบ้าง 2 เลนบ้าง ผ่านเส้นทางขึ้นดอยเพียงครั้งเดียว ออกเดินทางประมาณ 8.30 น. ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงก็ถึง เรียกว่าสะดวกสบายและเร็วทันใจจริงๆ แต่ก่อนจะเข้าตัวเมืองเชียงดาว ขอแวะทานอาหารเช้ากันก่อนสักแป๊บ….


ข้าวแฝ่

ร้านอาหารเหนือ บรรยากาศสบาย แวะมาได้ ไม่ต้องรอให้เป็นทางผ่าน
ร้านอาหารเหนือยอดนิยมที่เปิดบริการจะครบ 10 ปีแล้ว ถือเป็นร้านอาหารอันดับต้นๆ ที่คนเดินทางไปยังปาย แม่แตง ฝาง และเชียงดาว ต้องแวะมาทานประจำ เดิมเป็นร้านกาแฟ (ข้าวแฝ่ แปลว่า กาแฟ เป็นคำที่ใช้ในสมัยรัชกาลที่ 3) ต่อมาขยายเป็นร้านอาหาร โดยเน้นเมนูอาหารเหนือประยุกต์ที่รสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไป คนภาคกลางหรือชาวต่างชาติทานได้ แถมติดใจแน่นอน

ชุดขันโตก 450 บาท ข้าวซอยทงคัตสึ 65 บาท ไข่ม้วนข้าวแฝ่ 120 บาท
ที่พูดอย่างนี้เพราะตอนแรกทางร้านจัดเซ็ตขันโตกมาให้แอบตกใจมาก เพราะมีทั้งแกงปลี ฮังเล ลาบคั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว เกรงว่ารสชาติจะจัดเกินไปสำหรับอาหารเช้าหรือเปล่า แต่พอทานก็โอเคเลย โดยเฉพาะจิ้นทอด ที่ทานเข้ากับทุกอย่าง จานต่อมาเป็นอาหารฟิวชั่น ไข่ม้วนข้าวแฝ่ ผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับไทย ข้างในไข่ม้วนเป็นข้าวคลุกน้ำพริกลื้อ ส่วนเมนูจานเดียวมีข้าวซอยทงคัตสึที่เป็นเมนูยอดนิยมของสาขานิมมานเหมินท์ ถึงหลายคนจะมองว่าร้านนี้เป็นร้านแวะทางผ่าน แต่ถ้าตั้งใจจะมาทานมื้อดีๆ ก็แนะนำเช่นกัน
  • พิกัด กม.34 ก่อนถึงปั๊มเชลล์ตลาดแม่มาลัย ใกล้แยกบายพาส อ.ปาย
  • เวลาเปิด-ปิด 08.00-17.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 053-842299, 089-4359911

กาแฟฮิมน้ำ@แก่งปันเต๊า

หลังร้านติดแม่น้ำปิง มุมถ่ายรูปชั้นดี ส่วนโซนที่นั่งก็หันหน้าเข้าหาวิวภูเขา
ขับรถต่อมาอีก 45 นาที ก็ถึงหมู่บ้านแก่งปันเต๊า หมู่บ้านแรกของเชียงดาว จอดรถแวะพักทานกาแฟและถ่ายรูปที่นี่เสียหน่อย ร้านนี้เพิ่งเปิดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เห็นหน้าร้านดูเป็นร้านกาแฟธรรมดา แต่ด้านหลังติดแม่น้ำปิง จัดมุมให้นั่งดื่มกาแฟริมน้ำแบบชิลล์ ๆ เหมาะแก่การถ่ายรูปอวดเพื่อน ๆ มาก

ฮาเซลนัทคอฟฟี่ 65 บาท เค้กชาเขียว 70 บาท ไก่ทอดเกลือ 79 บาท
นอกจากเครื่องดื่มและเค้กแล้ว ยังมีอาหารแบบจัดเต็มอย่างต้มยำทะเลน้ำข้น ปลาผัดฉ่า ยำรวมมิตรทะเล ให้สั่งทานด้วย
  • พิกัด หมู่บ้านแก่งปันเต๊า ตรงด่านตรวจแก่งปันเต๊า
  • เวลาเปิด-ปิด 07.00-19.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 053-046112

ตลาดแก่งปันเต๊า

ช่วงที่ไปเป็นช่วงของอะโวคาโดพอดี
เดินออกมาจากร้านกาแฟฮิมน้ำก็เจอตลาดขายผลไม้ข้างทางหรือ ตลาดแก่งปันเต๊า ตลาดแห่งนี้มีมานานกว่า 50-60 ปี ขายกันตั้งแต่เช้าจนถึงตะวันตกดิน ของที่ขายก็พืชผลตามฤดูกาล อย่างช่วงนี้เป็นอะโวคาโด หน่อไม้ เซียนท้อ ส้มโอ เสาวรส เห็ดตับเต่าหรือเห็ดห้า แม่ค้าบอกว่าเดือนหน้าเงาะจะเริ่มมา ช่วงหน้าหนาวก็เป็นบัวหิมะ ส่วนช่วงหลังเข้าพรรษาจะมีด้วงกว่าง

 หน่อไม้ก็เป็นอีกสินค้าประจำฤดู ส่งรูปไปอวดคนในเมืองเสียหน่อย
ตอนนี้ขอเช็คสัญญาณมือถือสักหน่อย โชคดีที่ใช้ AIS 3G ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ชัดเจนเต็มเปี่ยมแม้ว่าจะอยู่กลางภูเขาก็ตาม เลยส่งรูปโดยใช้อินเตอร์เน็ต 3G รวดเร็วทันใจ ไปถามที่บ้านจะเอาของฝากอะไรไหม สุดท้ายได้อะโวคาโด 3 กิโลกรัม 100 บาทติดไม้ติดมือไป
พิกัด หมู่บ้านแก่งปันเต๊า อยู่ติดกับด่านตรวจแก่งปันเต๊า

ถ้ำเชียงดาว

ทางไปถ้ำเชียงดาว สองข้างทางร่มรื่นมาก
จุดหมายแรกที่ตั้งใจจะไปเช็คอินคือ ถ้ำเชียงดาว เพราะการมาเที่ยวช่วงต้นฤดูฝนแบบนี้ นักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปที่ดอยหลวงสัญลักษณ์เมืองเชียงดาว เนื่องจากฝนตก อาจเกิดอันตรายได้ แต่การมาเที่ยวถ้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาวก็ถือว่ามาใกล้ที่สุดแล้ว (ปลอบใจตัวเอง)

ชาวบ้านกำลังช่วยกันเข็นฐานพระพุทธรูปเข้าไปในถ้ำพอดี หน้าวัดมีสมุนไพรขายเต็มไปหมด
พอเข้าสู่ดงไม้เขียวครึ้มอันเป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเชียงดาวก็ต้องขยับเสื้อกันลมให้แนบตัวขึ้นอีกนิด บริเวณหน้าวัดมีบรรดาคุณย่าคุณยายจากชมรมอนุรักษ์สมุนไพรถ้ำเชียงดาวนั่งขายสมุนไพรกันเต็มไปหมด เดินเข้าไปในบริเวณวัดมีทั้งพระเจ้าทันใจ อาศรมฤาษีอุคันธะ ให้ผู้มีศรัทธากราบไหว้บูชา

สระมรกตน้ำใสแจ๋ว ทางเข้าไปถ้ำเชียงดาว
หน้าทางเข้าถ้ำมีสระมรกตซึ่งเกิดจากธารน้ำใสที่ไหลออกมาจากถ้ำ กลายเป็นสระน้ำใสสีเขียวมองเห็นตัวปลาแหวกว่ายอย่างชัดเจน หลังจากจ่ายเงินค่าบัตรบำรุงค่ากระแสไฟฟ้าชมถ้ำพระนอนคนละ 20 บาทแล้ว ก็เตรียมตัวลุยกันเลย

กลุ่มแม่บ้านที่เป็นไกด์ประจำถ้ำ และภายในถ้ำพระนอนที่สามารถเดินชมด้วยตัวเอง
ภายในถ้ำเชียงดาวแบ่งเป็น 3 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำพระนอน ถ้ำแก้ว และถ้ำมืด สำหรับถ้ำพระนอนถ้าจ่ายค่าบัตรแล้วสามารถเดินเข้าชมได้เลย เส้นทางชมถ้ำยาวประมาณ 360 เมตร แต่ถ้ำแก้วและถ้ำมืดต้องมีไกด์ถือตะเกียงนำทางจึงจะเข้าไปได้ ซึ่งบรรดาไกด์ทั้งหลายก็คือกลุ่มแม่บ้านอาสาสมัครเชียงดาวที่ทำหน้าที่นี้มาหลายสิบปีแล้ว ค่าบริการอยู่ที่ 100 บาทต่อกลุ่มคณะ 5 คน บรรดากลุ่มแม่บ้านยังบอกว่ามาเที่ยวถ้ำช่วงนี้กำลังดี เพราะถ้าเข้าหน้าฝนอาจลื่นและเป็นอันตรายได้ ส่วนหน้าหนาวนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก ไม่เป็นส่วนตัว เราจำได้ตอนเด็ก ๆ ว่าที่นี่มีถ้ำน้ำด้วย เพิ่งรู่ตอนนี้ว่าถ้ำน้ำปิดไปนานหลายปีแล้ว เนื่องจากออกซิเจนในนั้นมีน้อยมาก หากใครมีโรคประจำตัวเข้าไปอาจเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

เช็คอินเสียหน่อย ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว สัญญาณชัดแจ๋วเหมือนอยู่ในเมือง
  • พิกัด ถนนบายพาส (เส้นเลี่ยงเมือง) เดินทางจากหมู่บ้านแก่งปันเต๊าประมาณ 30 นาที

เที่ยวถ้ำเชียงดาวเสร็จก็มุ่งหน้าสู่ที่พักไปเก็บข้าวเก็บของกันก่อน


เชียงคำหลวงรีสอร์ท

รีสอร์ทบรรยากาศร่มรื่นส่วนตัวมาก ตั้งอยู่บนเส้นบายพาส สังเกตป้ายชัดเจน
เราเลือกพักที่ เชียงคำหลวงรีสอร์ท รีสอร์ทร่มรื่นซึ่งมีเนื้อที่กว่า 60 ไร่ แต่มีห้องพักเพียง 13 ห้องเท่านั้น แบ่งเป็นเรือนแฝดกับเรือนหลังใหญ่ เรียกว่าส่วนตัวสุด ๆ

ด้านหน้าเรือนแฝด ที่พักคืนนี้

ภายในห้องพัก Deluxe ที่เป็นเรือนแฝด

พวกเราพักที่เรือนแฝดซึ่งเป็น ห้อง Deluxe ราคาช่วงนี้ (มีนาคม-กันยายน) คืนละ 2,500 บาท/ห้อง ซึ่งห้องใหญ่กว้างขวางมาก พื้นเป็นพื้นไม้สักสะอาดเนี้ยบ เตียงนุ่มนอนสบาย หมอนใช้หมอนขนเป็ดนอนแล้วฝันดีแน่ๆ ภายในห้องพักมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทันสมัยครบครัน แถมมีระเบียงชมวิวแบบส่วนตัวสุดๆ เรียกว่าประทับใจมาก

บ้านหลังใหญ่กับห้องต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม

ไหน ๆ ก็มาเยือนทั้งทีเราเลยขอทางรีสอร์ทเข้าไปชมห้องพักอื่น ๆ กันบ้าง ซึ่งทางรีสอร์ทก็ใจดีพาไปชมบ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศของเจ้าของรีสอร์ท เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เปิดเข้าไปเจอห้องโถงกว้างอันหรูหรา ตกแต่งอย่างสวยงาม มีเตาผิงที่ใช้ได้จริง ส่วนห้องพักมี 5 ห้อง ทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และ Triple Room ที่นอนได้ 3 คน เหมาะกับกลุ่มครอบครัวหรือกลุ่มคณะที่มาพักแบบเหมายกหลัง

  • พิกัด ถนนบายพาส (เส้นเลี่ยงเมือง) ห่างจากถ้ำเชียงดาวประมาณ 2-3 กิโลเมตรโทรศัพท์ 053-388333, 081-671-9069, 085-0102929

เดินเที่ยวชมรีสอร์ทเสร็จแล้ว ก็เริ่มอยากออกไปเที่ยวเชียวดาวบ้างแล้วสิ…



มะขามป้อม Art Space

ทางไปมะขามป้อม Art Space เป็นวิวทุ่งนาขนาบข้าง

ขับรถมาแถวบ้านดง เราเห็นป้ายงานศิลปะของ มะขามป้อม Art Space เลี้ยวตามป้ายเข้ามาตามทุ่งนาประมาณ 200 เมตรก็เจอกับบ้านไม้ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะสีสันสดใส

บรรยากาศของความเป็น Art Space ตั้งแต่ป้ายจนถึงร้าน

เดินเข้าไปเจอมุมคาเฟ่ให้นั่งชิลล์ ๆ เพียบ ภายในบ้านเป็นโถงกว้างสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ชั้น 2 เป็นแกลเลอรี่จัดนิทรรศการหมุนเวียน ด้านหลังเป็น Gooseberry Shop จำหน่ายสินค้าที่เป็น Recycle Art และพวกงานฝีมือต่าง ๆ

ภายในตัวอาคารที่เป็นโถงโล่ง ชั้นบนเป็นแกลเลอรี่

เดินชมจนทั่วก็ออกไปสูดอากาศสดชื่นยามบ่ายของเชียงดาวที่กลางทุ่งนา พร้อมเช็คสัญญาณมือถือเสียหน่อย ตอนแรกตั้งใจจะมาทานเกี๊ยวซ่าสไตล์ยูนานอันขึ้นชื่อของที่นี่ แต่เสียดายเพิ่งหมดไป เลยสั่งบราวนี่มาทานแทน

ถ่ายรูปวิวสวยๆ แล้วเตรียมทวิตอวดเพื่อน กับบราวนี่สักชิ้นก่อนเดินทาง

นั่งเล่นนั่งถ่ายรูปสักพัก มองนาฬิกาเหลือเวลาอีกพอประมาณกว่าจะถึงเวลามื้อเย็น ออกไปหาที่เที่ยวอีกสักหน่อยดีกว่า

  • พิกัด บ้านดง ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว
  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-17.30 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 089-6883978

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์

รูปปั้นไก่ชนที่มีคนมาถวายตั้งอยู่เต็มสถูปเจดีย์
ขับรถจากบ้านดงมาเมืองงาย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็ถึง พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานว่าครั้งหนึ่งพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรม ณ เมืองงายแห่งนี้ ก่อนจะยกทัพต่อไปยังเมืองอังวะ ประเทศพม่า เพียงแว้บแรกที่เข้ามาก็เห็นรูปปั้นไก่ชนจำนวนมหาศาลทุกไซส์ทุกขนาด ห้อมล้อมเจดีย์ฐาน 8 เหลี่ยมเต็มไปหมด เนื่องจากพระนเรศวรรักการชนไก่ เวลาคนมากราบไหว้บูชาก็เลยเอารูปปั้นไก่ชนมาถวายนั่นเอง

ด้านหลังเป็นค่ายหลวงจำลอง สามารถเดินขึ้นชมด้านในได้

ด้านหลังมี ค่ายหลวงจำลอง ที่สร้างขึ้นโดยกรมศิลปากร ภายในมีพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระสุพรรณกัลยา ประดิษฐานอยู่ให้กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล เรามาถึงที่นี่ตอนประมาณ 4-5 โมงพอประมาณ ก็เห็นชาวบ้านในชุดกีฬามารวมกลุ่มกันวิ่งและออกกำลังกายบ้าง เพราะที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดย่อม มีต้นไม้ร่มรื่น มีอ่างน้ำพร้อมเรือให้พายด้วย สักพักเมฆฝนดำครึ้มตั้งเค้ามาแต่ไกล เลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาไปหาอะไรทานกันได้แล้ว ก่อนที่ฝนทำท่าจะไม่ดีไปมากกว่านี้

  • พิกัด ต.เมืองงาย
  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-17.00 น. ทุกวัน

เสน่ห์ดอยหลวง

เสน่ห์ดอยหลวงเชียงดาว มาถึงคราวที่ฝนลงพอดี

ออกมาได้ไม่ทันไรก็เจอกับพายุฝนเข้าให้ แม้ว่าจะไปถึงที่ร้านอาหารทันตามเวลาที่จองโต๊ะไว้ แต่เนื่องจากฝนตกหนักมากเลยต้องนั่งรอในรถสักพัก แน่นอนว่าโต๊ะกลางแจ้งที่เห็นวิวที่สวยที่สุดของร้านก็เป็นอันต้องย้ายไปนั่งในที่ร่มที่เป็นซุ้มแทน

คุณผึ้ง-มณีมุกดามาศ โฮสเตสผู้ดูแล แม้ว่าฝนจะตกแต่ก็สู้ตาย

โชคดีที่เรามีโฮสเตสสาวสวยผู้คล่องแคล่ว คุณผึ้ง-มณีมุกดามาศ ปิงเมือง อดีตนางนพมาศเชียงดาวปี 46 รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน คอยต้อนรับเราเป็นอย่างดี ระหว่างที่รออาหารคุณผึ้งก็เล่าให้ฟังว่าที่นี่เปิดมานาน 5 ปี แล้ว ช่วงเทศกาลพฤศจิกายนถึงมกราคม คนจะเยอะเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวช่วงฤดูหนาว แต่ถ้าเป็นช่วงนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าประจำที่มาจากฝาง และขาจรที่หลงฤดูมาอย่างพวกเราบ้าง ที่นี่มีดนตรีโฟล์กซองให้ฟังด้วย ดนตรีเริ่มเวลา 18.00-21.00 น. แต่ละวันก็เล่นเพลงไม่ซ้ำแนวกัน วันจันทร์-อังคาร จะเป็นเพลงคันทรีย์สากล วันพุธ-พฤหัส เป็นเพลงลูกกรุงไทยและสากลคลาสสิก วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เป็นเพลงเพื่อชีวิตและโฟล์กซองคำเมือง คุยกับคุณผึ้งได้สักพัก อาหารก็มาเสิร์ฟพอดี


ยำตะไคร้กุ้งสด 130 บาท ปลาช่อนหลงห้วย 250 บาท ผัดฉ่าปลาคัง 150 บาท ปลาทับทิมทอดสมุนไพร 250 บาท
เมนูที่นี่เน้นอาหารไทย จานเด็ดประจำร้านคือปลาหลงห้วย ซึ่งมีให้เลือกทั้งปลาช่อน ปลานิล และปลาทับทิม เป็นปลาทอดในน้ำมัน ราดด้วยน้ำยำรสเปรี้ยวหวานปนเผ็ดนิด ๆ คล้ายแป๊ะซ๊ะแต่ไม่มีผัก ต่อด้วยยำตะไคร้กุ้งสด ที่สดและอร่อยมาก ขนาดคนที่ไม่ชอบทานตะไคร้ยังติดใจและต้องชม อีกเมนูประทับใจคือปลาทับทิมทอดสมุนไพร ที่ขนสมุนไพรมาแบบเต็ม ๆ

ฝนหยุด ฟ้าเรื่มมืด ได้มุมสวยวิวดี

ทานไปสักพักฝนก็เริ่มขาดสายพอเดินเล่นได้ ที่ร้านมีมุมสวนสวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะอยู่เหมือนกัน เมื่อท้องอิ่ม ฟ้ามืด เราก็พร้อมจะตระเวนราตรีกันแล้ว จากการสอบถามคุณผึ้ง เธอบอกว่าไนท์ไลฟ์ของที่นี่จะไม่ค่อยหวือหวามาก เต็มที่ก็คือร้านนั่งดื่มและร้านคาราโอเกะ ซึ่งในเมืองก็จะมีร้านคาราโอเกะหยอดเหรียญและร้านเหล้าแถว ๆ ปั๊มน้ำมันปตท. ส่วนอีกโซนคือริมดอยรีสอร์ทที่จะเป็นผับและมีเล้าจน์คาราโอเกะด้วย หลังจากตกลงกับคณะเดินทางแล้ว คิดว่าลองตระเวนแถวในเมืองน่าจะดีกว่า

  • พิกัด เส้นบายพาส สายใหม่ทางไปเชียงใหม่-ฝาง ถนนเลี่ยงเมือง
  • เวลาเปิด-ปิด ร้านกาแฟ 07.00-17.00 น. ร้านอาหาร 10.00-21.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 094-7820311

หน้าปั๊มสโมสร

หน้าปั๊มสโมสร ร้านเหล้าแห่งเดียวในตัวเมืองเชียวดาวที่เราพบ

หลังจากขับรถวนไปมาก็ตัดสินกันใจว่า โอเค…จะแฮงก์เอ้าท์กันที่นี่แหละ เพราะเท่าที่สำรวจมาร้านนี้เป็นร้านเดียวที่ค่อนข้างเปิดตัวชัดเจนว่าเป็นร้านเหล้าให้คนมานั่งดื่มเบียร์กัน ด้วยความที่อยากสัมผัสอารมณ์แบบคนในพื้นที่จริง ๆ เราเข้าไปนั่งสั่งเบียร์สั่งกับแกล้มมาทานเล่น เห็นมีร้านขายปลากหมึกย่างอยู่ข้าง ๆ เลยเดินไปสั่งมาเพิ่มสมทบ

ไส้ตันทอดกระเทียม 69 บาท ปลาหมึกปิ้งตัวละ 30 บาท สั่งมาทานแกล้มเบียร์เย็นๆ
จากการสังเกตคนที่มาที่นี่คือคนในท้องที่และเหมือนทุกคนจะรู้จักกันหมด คือเป็นร้านสำหรับคนในเมืองเชียงดาวมาพักผ่อนพบปะกันยามดึกทำนองนั้น เราก็นั่งคุย นั่งเล่นมือถือ นั่งฟังคอมโบ้เพลงไทยกันสักพักก็คิดว่ากลับที่พักดีกว่า พรุ่งนี้จะออกไปสำรวจตลาดเช้ากัน
  • พิกัด ในเมืองเชียงดาว ตรงข้ามกับปั๊มปตท.
  • เวลาเปิด-ปิด 17.00-24.00 น. หยุดวันอาทิตย์

ตลาดสดเทศบาลเชียงดาว

ตลาดเช้าหรือตลาดเทศบาลเชียงดาว ขายผักราคาถูก
หลังจากนอนอิ่มหลับสบาย ก็ลุกขึ้นมาเตรียมตัวลุยตลาดเช้าเข้าสู่วิถีชาวบ้านของที่นี่แล้ว ตลาดสดเทศบาลเชียงดาว เป็นตลาดสดที่จำหน่ายผัก อาหารพื้นเมือง และกับข้าวปรุงสำเร็จ ผักที่ขายที่นี่ก็เป็นผักทั่วไป เช่น ผักบุ้ง ใบจันทร์ หน่อไม้ แต่ราคาค่อนข้างถูก สอบถามแม่ค้าถึงรู้ว่าส่วนมากปลูกในพื้นที่โดยคนท้องถิ่น ทำให้ขายในราคาไม่แพงได้

กบปิ้ง จิ้นทอด แคบไข และโจ๊กหมู ใครชอบแบบไหนซื้อทานได้เลย

คุณลุงกำลังทำตำขนุนสดๆ ร้อนๆ หอมมาก
ส่วนของกินมีทั้งแคบไข ถั่วเน่าแข็บ จิ้นทอดสไตล์คนเมือง ตำขนุน กบย่าง ยำผักกาดดอง รวมทั้งขนมหวาน ให้เลือกซื้อไปทานเป็นมื้อเช้า แต่เราเห็นร้านเก่าแก่ร้านหนึ่งน่าสนใจเลยเดินเข้าไปลองของเสียหน่อย

ไข่ลวก 2 ฟอง 10 บาท กาแฟร้อน ไมโลร้อน แก้วละ 15 บาท ไม่พลาดที่จะเช็คอินเก๋ๆ
ร้านที่ว่าคือร้านที่ติดป้ายว่า เค้ก กาแฟ คุ้กกี้ แต่เอาจริง ๆ แล้วขายแค่กาแฟร้อน ไมโลร้อน และไข่ลวกเท่านั้น บรรยากาศของร้านเหมือนกับสภากาแฟของคนท้องถิ่น ที่มีบรรดาคุณลุงคุณอาผู้สูงวัยมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ และเสวนากันเรื่องปัญหาบ้านเมือง สังคม เศรษฐกิจ อะไรทำนองนั้น คุณลุงเจ้าของร้านบอกว่าร้านนี้เปิดมานานกว่า 30 ปีแล้ว เมื่อก่อนมีเค้กขายด้วยแต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร เลยขายแค่กาแฟร้อนกับไข่ลวก ส่วนเค้กก็รับทำตามออเดอร์แทน ร้านของคุณลุงเปิดตั้งแต่ตี 4 จนถึง 10 โมงเช้า ใครอยากกินไข่ลวกอร่อย ๆ กับเครื่องดื่มร้อน ๆ อุ่นท้องตอนเช้า ก็แวะเวียนหาคุณลุงได้
  • พิกัด ถนนสายหลัก เชียงใหม่-ฝาง ห่างจากที่ว่าการทำเภอเชียงดาวไปประมาณ 500 เมตร
  • เวลาเปิด-ปิด 01.00-10.00 น. ทุกวัน

อาหารเช้าที่เชียงคำหลวงรีสอร์ท

มุมระเบียงที่เห็นทิวไม้สัก อาหารเช้าแบบ American Breakfast และผลไม้
กลับจากตลาดเช้า รู้สึกยังไม่อิ่มท้องเท่าไร เลยแวะห้องอาหารของรีสอร์ท สั่งอาหารเช้าทานเสียหน่อย อาหารเช้าที่นี่ไม่ได้มาเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ให้ตักเอง แต่เป็นการสั่งแล้วทำทีละจาน ทำให้สามารถกำหนดเวลาทานมื้อเช้าเองได้ ซึ่งตัวเลือกก็มี American Breakfast ตามมาตรฐานสากลที่มีไข่ดาว ไส้กรอก แฮม สลัดผัก ออมเล็ต อีกตัวเลือกคือข้าวต้มหมู นอกจากนี้ยังมีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ น้ำส้มคั้น และผลไม้ตามฤดูกาล เสิร์ฟให้ด้วย นั่งทานตรงระเบียงของห้องอาหาร ชมวิวป่าสักที่ตัดแต่งให้ขึ้นเป็นเส้นตรงสักพัก ก็กลับห้องเก็บของ เช็คเอ้าท์ เตรียมตัวไปหาอะไรทานกันต่อ

ร้านข้าวขาหมูเชียงดาว (เจ้าเก่า)

คุณยายบุญยัง รัตนไชยศรี เจ้าของร้าน กับข้าวขาหมูอันเลื่องชื่อ

แวะมาเชียงดาวก็ต้องมากิน ขาหมูเชียงดาว อันลือเลื่อง เราแวะร้านต้นตำรับเจ้าแรกของเชียงดาวที่ขายมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 ซึ่งเป็นสูตรเตาถ่านดั้งเดิมมานานกว่า 60 ปี ใช้ถ่านก้อนใหญ่ตุ๋นหมูนานกว่า 4 ชั่วโมง ถึงได้รสชาติเข้มข้น เป็นเอกลักษณ์ โดยเคล็ดลับของร้านเก่าแก่แห่งนี้อยู่ที่การใช้ซีอิ้วปรุงรสจนสีออกมาเข้มข้น น่าทาน ต่างจากขาหมูอื่น ๆ ที่ใส่สีปรุงแต่ง ข้าวขาหมูเชียงดาวแห่งนี้ยังเป็นเจ้าเดียวกับขาหมูที่เชียงดาวอินน์ ครัวเชียงดาว และสาขากาดข่วงสิงห์อีกด้วย

ร้านตั้งอยู่ซอยทางเข้าวัดอินทาราม

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเชียงดาวถึงมีร้านข้าวขาหมูมากมายขนาดนี้ เลยถามคุณยายเจ้าของร้าน คุณยายเล่าว่าเมื่อก่อนเนื้อหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 16 บาท คนที่เดินทางจากเชียงใหม่จะไปฝางแวะผ่านทางมาก็มักจะหาของอะไรหนักท้องกินก่อนไปต่อ พอข้าวขาหมูของคุณยายเป็นที่ติดใจของนักเดินทาง ก็เลยมีเจ้าอื่น ๆ ทยอยเปิดร้านตามมา

  • พิกัด ถนนสายหลัก เชียงใหม่-ฝาง ทางเข้าวัดอินทาราม
  • เวลาเปิด-ปิด 06.00-18.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 053-455093

ครัวเฮือนลุงคำ

หลู้เลือด 50 บาท และลาบควายดิบ 60 บาท

ก่อนกลับเชียงใหม่ ขอสัมผัสรสชาติของลาบเชียงดาวที่เขาร่ำลือกันหน่อยสิ พอดีมีคนแนะนำว่าที่ ครัวเฮือนลุงคำ ขึ้นชื่อเรื่องลาบมาก แล้วพอดีเป็นจุดผ่านของทางกลับด้วย เลยขอแวะเสียหน่อย บรรยากาศร้านเป็นร้านแบบบ้าน ๆ ส่วนของร้านอาหารอยู่ใต้ถุนสูงของบ้านหลังใหญ่

คุณอีฟ-วิไลลักษณ์ อุ่นเรือง ลูกสาวเจ้าของร้านคนสวยกับเมนูที่ภูมิใจนำเสนอ

เจอลูกสาวเจ้าของร้านคนสวยเลยเข้าไปทักทาย พูดคุยกันได้ใจความว่าร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 เป็นร้านอาหารที่ผันเปลี่ยนตัวเองตลอดจากหมูกระทะ มาเป็นคาราโอเกะ แต่ที่ไม่เปลี่ยนและอยู่ยงคงกระพัน ขายมาตลอดคือลาบ จุดเด่นอยู่ที่น้ำพริกลาบสูตรของลุงคำ (ซึ่งเป็นตัวละครลึกลับ ไม่เกี่ยวกับคนในครอบครัวเจ้าของร้านแต่อย่างใด) เป็นพริกลาบที่กลิ่นไม่คาวและเข้มข้นกว่าที่อื่น เมนูเด็ดคือลาบควายดิบและไส้อั่ว รสชาติใช่สุด ๆ ถูกปากขาประจำคนในพื้นที่มาก เมื่อได้ลาบมาเติมพลังขากลับเชียงใหม่ ก็โบกมือบายบายเชียงดาวกันตรงนี้เลยก็แล้วกัน

  • พิกัด ถนนโชตนา เชียงใหม่-ฝาง เลยสามแยกบายพาส ผ่านโตโยต้าล้านนา ก่อนถึงปั๊มปตท.
  • เวลาเปิด-ปิด 07.00-20.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 089-2614546
  • https://goo.gl/maps/w5NUoQFVhxgLnSe6A


ขอขอบคุณ AIS (Advanced Info Service) ที่ให้การสนับสนุน และ บริษัทโตโยต้าล้านนา ที่เอื้อเฟื้อรถ Toyota Fortuner สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เชียงดาวที่ลมหนาวยังไม่มาเยือน มีเสน่ห์แบบกันเองและให้ความเป็นส่วนตัวได้ดีจริง ๆ จะมาเที่ยวแบบ Slow Life ก็ดี จะจัดทริปแบบเช้าไปเย็นกลับกับเพื่อน ๆ ก็เหมาะ หรือใครอยากจะอยู่สัมผัสอิ่มเอมกับบรรยากาศของเมืองแห่งดอยหลวงนาน ๆ ชาร์ทพลังให้ชีวิต ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกของการเที่ยวเชียงใหม่แบบง่าย ๆ ที่ใครก็ไปได้อย่างน่าสนใจเช่นกัน หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะ…เชียงดาว

เชียงดาวชายแดน ถ้ำสวย ดอยสูง พระสถูปเมืองงาย ต้นกำเนิดสายแม่ปิง

Relate Posts :