ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี เสน่ห์ของปายก็ยังไม่เคยจางหาย เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยขุนเขาและแหล่งท่องเที่ยวหลากสไตล์ที่ยังคงความเฉพาะตัวให้ทุกท่านได้แวะเข้าไปทักทาย ปายในปัจจุบันหลายท่านอาจจะคิดว่าเอ้าท์ไปแล้ว เชยไปแล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าปายในฤดูฝนนั้นสวยงามไม่แพ้ฤดูหนาว เพราะมีข้อดีทั้งอากาศเย็นสบาย ผู้คนไม่พลุกพล่าน อีกทั้งยังได้เห็นวิวสวยงามของท้องทุ่งนาเขียวขจี มีที่ไหนน่าสน ตามเจ๋งมา!
1. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง – เทือกเขาสูงตระหง่าน งามตาทะเลหมอก
พิกัด : ถนนเชียงใหม่ – ปายเบอร์โทร : 053-263910 และ 053-248491
ท่ามกลางถนนที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดหลายพันโค้งจากเชียงใหม่ไปปาย หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่ามีอุทยานที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตา เฉกเช่นที่ “อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัยครอบคลุมหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นอำเภอแม่แตง เชียงดาว เวียงแหงและอำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ในฤดูหนาวยังสวยงามไปด้วยทะเลหมอกในยามเช้าและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยระดับประเทศกันเลยทีเดียว
ห้วยน้ำดังในฤดูฝนนั้นสวยงามจับตาจริงๆ อีกทั้งยังมีอีกหลายสถานที่น่าท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นห้วยน้ำรู น้ำตกห้วยน้ำดัง โป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้ร่วมผจญภัยกัน
นอกจากนี้ยังมีสถานที่พัก เต็นท์ สิ่งอำนวยความสะดวกและร้านค้าต่างๆ (มีที่ชาร์ตแบตให้บริการ) ค่าธรรมเนียมค่าเข้าอุทยาน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2558 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ในวันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 25 บาท เด็ก 10 บาท ค่ารถมอเตอร์ไซด์ 20 บาท ค่ากางเต้นท์ 30 บาท
2. กองแลน – แกรนแคนยอนเมืองปาย
พิกัด : กิโลเมตรที่ 90 ถนนเชียงใหม่ – ปาย
“กองแลน” อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวต่างชาติ เนื่องจากทัศนียภาพของหุบเขาที่สูงต่ำสลับกันไป เกิดจากการยุบตัวของดินและการกัดเซาะด้วยลมและฝน จึงทำให้เกิดร่องลึกและหน้าผาสูงชัน คล้ายแกรนแคนยอนในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเป็นที่มาของปายแคนยอนนั่นเอง
3. จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล – สวยตรึงตราตรึงใจสุดๆ
พิกัด : ผ่านหมู่บ้านสันติชลขึ้นไป ประมาณ 1.6 กิโลเมตร ต.เวียงใต้ อ.ปาย
อีกหนึ่งสถานที่ชมทะเลหมอกสวยติดอันดับท็อปฮิตของประเทศคงต้องยกให้ “หยุนไหล” ที่ซึ่งเราสามารถมองเห็นทะเลหมอกในตอนเช้าได้แบบฟินาเล่ ยิ่งคืนไหนที่ฝนตก ช่วงเช้าเตรียมตัวตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตีห้ากันได้เลย เพราะที่นี่จะเต็มไปด้วยหมอกขาวโพลน ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆของพระอาทิตย์ที่ขึ้นตอนเช้าตรู่ จึงเป็นอีกหนึ่งความ Unseen ที่คุณไม่ควรพลาด
ใครที่ไม่ได้พกกล้องคู่ใจไป พี่แจ็ค สแปร์โรว์ คนดังเมืองปาย เค้าเตรียมพร้อมอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพครบเซ็ทในราคาใบละ 40 บาท นอกจากนี้ด้านบนยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก ลานกางเต๊นท์ ห้องน้ำ และร้านค้าคอยบริการนักท่องเที่ยว ค่าเข้าชม ท่านละ 20 บาท พร้อมชาร้อนๆให้จิบ 1 ชุด ส่วนการเดินทางหากไม่มีรถสามารถขึ้นรถบริการได้ที่หมู่บ้านสันติชล ราคาเหมาคัน 300 บาท/10 คน
4. Thom’s Elephant Camp – ประสบการณ์สุดแจ่มที่ต้องลอง
พิกัด : 107 ม.2 ต.แม่ฮี้ อ.ปายเบอร์โทร : 089-8519066 / 053-065778
หนึ่งกิจกรรมที่เรียกความตื่นเต้นสุดพลัง คือ การขี่ช้าง หลายท่านอาจจะเคยขี่มาแล้ว แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่เคย เจ๋งแนะนำให้ลอง เพราะมันทั้งตื่นเต้นและสนุกสนาน วินาทีที่ช้างเดินไปอาจจะรู้สึกถึงความโคลงเคลง แต่ก็ทำให้เราได้มีโอกาสสัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติรอบเมืองปายได้แบบ Exclusive กันเลยทีเดียว
กิจกรรมมีหลากหลายแพ็กเก็จให้เลือกไม่ว่าจะเป็นนั่งช้างสัมผัสธรรมชาติครึ่งวันหรือเต็ม ซึ่งจะขี่ช้างชมธรรมชาติอย่างเดียวหรือพาช้างเล่นน้ำก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการล่องแพไม้ไผ่ เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา ห้องพักสไตล์บังกะโล ที่ตั้งแคมป์และบ่อน้ำแร่ให้บริการ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thomelephant.com/price/
5. วัดศรีดอนชัย – วัดแห่งแรกของเมืองปาย
พิกัด : 18 ม. 8 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย
“วัดศรีดอนชัย หรือ วัดหลวงสะหรี๋บัวบาน” วัดแรกของเมืองปายสไตล์ศิลปะพม่า สร้างโดยพะก่าหม่องซอในยุคแรก หลังจากได้นำทัพพม่ามาตั้งที่บ้านดอนแห่งนี้ และได้สร้างวัดชื่อ วัดบ้านดอนจองใหม่ (หรือวัดใหญ่) ต่อมาพระเจ้าติโลกราช เจ้าผู้ครองนครพิงค์เชียงใหม่ ได้มีพระบัญชาให้เจ้ามหาชีวิตศรีใจยาหรือเจ้าศรีใจย์ ได้นำช้างพลายเผือก ๒ เชือกและเหล่าเสนาทหารยกทัพจากนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เพื่อมาตีเมืองแห่งนี้จนชนะ พม่าก็ถอยทับกลับไปและเผาวัดจนมอดไหม้ พระองค์จึงทรงสร้างวัดขึ้นใหม่สไตล์ล้านนา โดยชื่อวัดว่าวัดศรีดอนชัย มีที่มาจากคำว่าศรีชัย เป็นชื่อของเจ้าศรีใจย์ คำว่าดอน เป็นชื่อของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่เนินสูงกว่าแม่น้ำนั่นเอง
ส่วนที่มาของเมืองปายก็มีที่มาจากช่วงศึกสงครามเช่นกัน โดยช้างพลาย 2 ตัวได้หลุดหนีเข้าป่าและพบเจอบริเวณแม่น้ำปายปัจจุบัน จึงตั้งชื่อเป็นอำเภอปาย เพราะมีที่มาจากคำว่าจ๊างปาย ในภาษาเหนือนั่นเอง” พ่อหนานจันทร์ อินต๊ะสาร ปราชญ์ล้านนาผู้บอกเล่าเรื่องราวให้เราฟัง
6. Village Farm – สามเกลอจอมยุ่ง
พิกัด : 205 ต.แม่ฮี้ อ.ปายเวลาเปิด – ปิด : 09.00-17.00 น. ทุกวันเบอร์โทร : 090-9806590
“Village Farm” ฟาร์มเล็กๆในเครือของโรงแรมปายวิลเลจ ที่มีครบทั้งไร่องุ่น สวนดอกไม้ และสามเกลอตัวยุ่งอย่างเจ้าแพะ แกะและกระต่ายที่พร้อมให้เยี่ยมชมในพื้นที่กว้างขวางหลายสิบไร่ จึงเป็นหนึ่งจุด Check -in สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและสัตว์เลี้ยงแสนรัก ราคาบัตรเข้าชมช่วง High Season ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ส่วนช่วง Low Season คิดครึ่งราคา
7. วัดพระธาตุแม่เย็น
เห็นวิวเมืองปาย 360 องศา
พิกัด : หมู่บ้านแม่เย็น อ.ปาย
อยากเห็นปายในมุมสูงพร้อมจูงมือคนรู้ใจขึ้นบันไดไปไหว้พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของเมืองปาย ต้องขึ้นมาที่ “วัดพระธุาตุแม่เย็น” ตั้งอยู่บนเขาทางทิศตะวันออกหลังหมู่บ้านแม่เย็น เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองปายที่ทุกเย็นจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศมากราบไหว้พระพุทธรูป “พระพุทธโลกุตระมหามุนี” พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ และชมวิวยามพระอาทิตย์ตกดินเคลียเคล้าไปกับเทือกดอยจิกจ้องของเมืองปาย
8. ถนนคนเดินปาย – ถึงมาสายก็ยังได้เดิน
พิกัด : ถนนชัยสงคราม ใจกลางเมืองปายเวลาเปิด – ปิด : 17.00-24.00 น. ทุกวัน
“ถนนคนเดิน” หนึ่งจุด Check -in ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าหากเทียบปัจจุบันกับอดีตเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมา ถนนเส้นนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งในเรื่องร้านค้าที่เป็นธุรกิจมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นร้านขายของแฮนด์เมด ร้านรถเช่า ร้านนั่งชิล รวมถึงนักท่องเที่ยวที่แน่นขึ้นถนัดตาโดยเฉพาะชาวจีน
9. ปั่นจักรยานบ้านแม่ฮี้ –
ผ่านท้องทุ่งอันสวยงาม
พิกัด : แม่ฮี้ – วัดทรายขาว
หนึ่งกิจกรรมที่เจ๋งแนะนำสำหรับคนที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของปายในฤดูฝน นั่นคือ “การปั่นจักรยานในช่วงเช้า” เพราะมันคือความสุขเล็กๆที่คุณจะได้สัมผัสความงดงามของท้องทุ่งนาเขียวขจีตลอดสองข้างทางพร้อมกับการสูดอากาศสดชื่นยามเช้าให้ชุ่มปอด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความ Unseen ที่ไม่อาจลืมเลือน
เส้นทางปั่นที่เจ๋งแนะนำนี้มีระยะทางแค่ 8 กม. ซึ่งเราจะเรียกว่าเส้นทาง 4020 แม่ฮี้-วัดทรายขาว โดยเริ่มต้นจากโรงแรมเมดิโอบริเวณกลางเมือง ปั่นไปตามทางผ่านทางขึ้นวัดพระธาตุแม่เย็น เลี้ยวขวาผ่านหน้าบ้านกะทิสด เกสต์เฮ้าส์น่ารักๆ ลัดเลาะไปตามทุ่งนา ผ่านวัดทรายขาว ซึ่งระหว่างทางนั้นเราจะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านย่านนั้นกำลังปลูกข้าว ใส่ปุ๋ยกันอย่างใกล้ชิด และลัดเลาะถนนลูกรังผ่านโรงแรมดิเอีย รีสอร์ท และกลับมาจุดจอดจักรยานที่โรงแรมเมดิโอ
10. สะพานประวัติศาสตร์ปาย –
ไม่มา Check -in ถือว่าไม่ถึงปาย
พิกัด : หลักกิโลเมตรที่ 88 บ้านท่าปาย ต.แม่ฮี้
จุด Check -in โด่งดังที่แขกไปใครมาเป็นอันต้องมาเยือนที่นี่ทุกครั้งคือ “สะพานประวัติศาสตร์ปาย” สร้างขึ้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงสเบียงอาหารและอาวุธข้ามจากเมืองปายเข้าไปตีพม่า แต่ก็พ่ายแพ้และเผาสะพานทิ้ง ชาวบ้านจึงสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ก็เกิดอุทกภัยพัดพาสะพานเสียหาย ซึ่งตอนนั้นประจวบเหมาะกับสะพานนวรัฐที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นโครงเหล็กเดิมถูกรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่ จึงนำมาสร้างที่ปายและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในปัจจุบัน
11. จุดชมวิวดอยกิ่วลม – หมอกห่มดอย
พิกัด : ถนนปาย – ปางมะผ้า
“จุดชมวิวดอยกิ่วลม” แหล่งพักสายตาของนักเดินทางเพราะคุณจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของอำเภอปางมะผ้าและอำเภอปายแบบพาโนราม่า จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งหนึ่งของเมืองแม่ฮ่องสอน จุดชมวิวมีให้เลือก 2 จุดคือ วิวด้านล่างติดถนนและด้านบน ซึ่งต้องขับรถขึ้นไปอีกประมาณ 1 กม. แต่รับรองว่าจะต้องทึ่งกับความสวยงามของธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
วิวสวยงามจากฝั่งปางมะผ้า เมื่อมองจากจุดชมวิวด้านบน แต่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการขับขี่รถขึ้นไป เพราะถนนค่อนข้างแคบและลื่น แต่ถ้าหากใครไม่อยากขึ้นมาด้านบน ด้านล่างก็มีจุดสวยๆให้ชมไม่แพ้กันและนอกจากนี้ยังมีบริการห้องน้ำ ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึกจำหน่ายด้วย
จบทริปสั้นๆสำหรับการตะลุยเที่ยวเมืองปายในฤดูฝนที่คุณอาจยังไม่รู้ว่ามัน Unseen มากจริงๆ หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวอย่าลืมกระซิบบอกเจ๋งบ้างนะ และต้องขอบคุณสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจปายและการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนที่สนับสนุนการเดินทางครั้งนี้ด้วย ส่วนใครกำลังตามหาร้านอาหารในปาย คลิกได้เลย