ชาวเชียงใหม่แสดงจุดยืนค้านการรื้อพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ผืนสุดท้ายใจกลางชุมชนประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่

เชียงใหม่ (16 สิงหาคม 2559) – วานนี้ องค์กรภาคประชาชนกว่า 30 องค์กร จากชุมชนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา เครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และตัวแทนองค์กรศาสนาต่างๆ หลายศาสนา รวมพลังกันอย่างไม่แบ่งแยกพรรคพวก ณ ใจกลางเมืองเชียงใหม่เพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนคัดค้านการรื้อพื้นที่     สีเขียวสาธารณะขนาด 9 ไร่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ผืนสุดท้ายใจกลางชุมชนประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ เพื่อนำไปสร้างโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมและร้านค้า  
                                                                                                                       
ดร. เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีเชียงใหม่ กล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ผืนสุดท้าย และเป็นพื้นที่สาธารณะกลางเมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้มีการจัดประมูลเพื่อให้บริษัทเอกชนเข้ามาใช้พื้นที่ ทดแทนพื้นที่สีเขียวด้วยป่าคอนกรีต นำตึกขนาดใหญ่เข้ามาแทนป่าไม้ธรรมชาติ จึงได้มีการรวมตัวกันเพื่อคัดค้าน และพิทักษ์พื้นที่สีเขียวแห่งนี้ โดยทำให้กรมธนารักษ์ได้ยกเลิกการนำที่ดินแปลงนี้มาใช้รองรับโครงการดังกล่าวแต่ก็ยังมีแนวคิดในการใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงนี้ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด อยากขอให้หารือภาคประชาชนก่อนการนำพื้นที่มาใช้ประโยชน์ใดๆ
1
เราน่าจะช่วยกันอนุรักษ์ที่ดินผืนนี้ไว้ให้เป็นธรรมชาติที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลานี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ในช่วงการเฉลิมฉลอง 720 ปี และกำลังจะได้รับการเสนอชื่อเป็นเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก” พื้นที่สีเขียวนี้ อยู่ในย่านช้างคลานซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ และเป็นพื้นที่ของรัฐในการดูแลของกรมธนารักษ์
2
ดร. เขมกร ไชยประสิทธิ์ รองคณบดี คณะบริหารธุรกิจ ม. เชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ปีละมากกว่า 9 ล้านคน เชียงใหม่กำลังเผชิญกับการพัฒนาด้านวัตถุ และมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด การเติบโตที่เร็วเกินไปนี้กำลังคุกคามทรัพยากรธรรมชาติและเสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่” 
 ดร. เขมกร กล่าวต่อไปว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานราชการอย่างกรมธนารักษ์มีแนวคิดที่จะทำลายสภาพแวดล้อมสีเขียวใจกลางเมืองผืนสุดท้ายนี้ โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาจัดการโครงการ เราขอเรียกร้องให้ท่านอธิบดีกรมธนารักษ์ช่วยรักษาพื้นที่สีเขียวผืนนี้ให้คงอยู่ต่อไป
6
ดร. เขมกร กล่าวว่า ที่ดินแห่งนี้เป็นของแผ่นดิน ซึ่งควรที่จะถูกอนุรักษ์ไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียว ให้เป็นปอดใจกลางเมืองที่สำคัญอย่างยิ่งของคนเชียงใหม่ “การกระทำเช่นนี้เป็นการอ้างนโยบายที่ดีของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนโยบายประชารัฐของรัฐบาลชุดนี้ส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง แต่กลับเปิดโอกาสที่จะนำเอาพื้นที่สีเขียวที่ทดแทนไม่ได้อีกแล้วมาใช้พัฒนาเป็นอาคาร ซึ่งการรวมกลุ่มพลังประชาชนในครั้งนี้ เป็นการรวมตัวจากทั้งคนในชุมชน นักวิชาการ เครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เราเห็นด้วยกับการที่กรมธนารักษ์ได้ยุติโครงการนี้ไปก่อน และเรายืนยันว่า เราจะยืนหยัดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต และจะรักษาพื้นที่สีเขียวแห่งนี้ให้เป็นสมบัติของลูกหลานเราต่อไ ดร.เขมกร กล่าว
 1
ด้าน นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา เชียงใหม่ และอาจารย์แพทย์โรคหัวใจผู้มีความสามารถระดับประเทศคนหนึ่ง ได้ให้ความเห็นว่า
“หากมีการสร้างป่าคอนกรีตกลางเมืองเช่นนี้ นอกจากการทำลายปอดของเมืองแล้ว ยังจะซ้ำเติมปัญหาจราจรบนถนนเจริญประเทศที่ติดขัดอยู่แล้วให้แย่ลงไปอีก  นอกจากนี้ปริมาณมลพิษทางอากาศก็จะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก นี่จึงเป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างไม่เหมาะสมอย่างแท้จริง”
นายแพทย์รังสฤษฎ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจนอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนการสร้างและปกป้องพื้นที่สีเขียวภายในชุมชน แนวคิดเบื้องต้นของกรมธนารักษ์ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สวนทางกับนโยบายของรัฐ แต่ยังไม่เคยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย”

Relate Posts :