แม่น้ำสายน้อยไหลเคลื่อนไป แต่เงาดวงดาวในน้ำนั้นไม่ได้ตามไปด้วย
เราย้ายที่พักจากห้องพักริมน้ำไปที่โฮสเทลชื่อ He Fong Youth Hostel ที่มีแมว “ถัง ควัน” มาเชิญชวนเราไว้ ที่ใหม่ห้องใหญ่กว้างขวางดี บรรยากาศดูเป็นกันเองมี 3-4 ชั้น ชั้นล่ะ 2-3 ห้อง มีพื้นที่ส่วนกลางให้นั่งเล่น มีเกมให้เล่น มีหนังสือให้อ่าน แล้วก็มีคนเดินสูบบุหรี่กันได้ภายในจ่ายตังค์เซ็นนั่นนี่เสร็จ ก็ออกมานั่งรอเหมือนห้องนั่งเล่นด้านหน้า มีทีมเจ้าของนั่งอยู่ 2 คน มองหาแมวหายไปไหนละไม่รู้
เธอไปนั่งคุยกับ 2 สาว ฉันนั่งคุยกับอากาศ มองไปมองมาเห็นมีเบียร์วางอยู่หลายขวดแสดงว่าที่นี่น่าจะมีปาร์ตี้ได้ มีกีตาร์วางอยู่ตัวหนึ่ง ฉันหยิบมาเล่น ก็เล่นๆ เพลงที่คุ้นเคย 2 สาวเจ้าของเกสต์เฮาส์ตื่นเต้นกันมาทันทีมานั่งล้อมวงตั้งใจฟังและถ่ายรูปเอาจริงเอาจัง กรี๊ดกร๊าดอะไรกันก็ไม่รู้ ฉันฉุกคิดขึ้นมาว่าใกล้ๆ ที่พักนี้มี live house อยู่ที่หนึ่งนี่นาที่เดินผ่านแล้วเอะใจกับชื่อแปลกๆ “the Future in Valley”เลยถาม 2 สาว เธอทั้งคู่ยิ้มกว้างแล้วบอกว่าคืนนี้จะพาไปเที่ยวนะ แล้วจะบอกเจ้าของร้านว่าให้ฉันขึ้นไปแจมได้เลย … ว้าว … สุดท้ายก็ได้เล่นดนตรีที่นี่แฮะ
เราเดินเล่นเตร็ดเตร่หาอาหารเหมือนเช่นเคย เมืองมันก็มีอยู่เท่านี้ ในตัวเมืองที่เดินๆ กันตั้งแต่หน้าเมืองถึงท้ายเมือง ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรมากร้านค้าก็เหมือนๆ เดิม แต่ด้วยความที่เราอยู่ที่นี่มา 4 วัน จนเอาไปเอามาเริ่มจะคุ้นหน้ากับผู้คนแถวๆ นั้นบ้างแล้ว เค้าคงงงว่าไอ้นักท่องเที่ยว 2 คนนี้มันมาอยู่แถวนี้ทำไมนาน
เราเดินเข้าซอยเล็กซอยน้อยบ้างแทนที่จะไปยังแหล่งนักท่องเที่ยวบริเวณริมแม่น้ำ ก็พบว่าแถวนี้มีมุมสงบให้เดิน ให้นั่ง ให้ยืนมองเยอะกว่าแถวๆ ริมแม่น้ำ ตรงนี้ยังมีของประดับเล็กๆ น้อยๆ ราคาถูก มีอาหารเครื่องดื่มที่ไม่เกร่อเหมือนโซนนั้น มีอาม่า อาอี๊ นั่งขายของ มีร้านเล็กๆ น่ารักเก๋ๆ ของวัยรุ่นเปิดเรียงรายอยู่ มีร้านน้ำหอม มีร้านดอกไม้ มีร้านขายเหล้าขายน้ำเต้า เดินเล่นรอเวลาจนค่ำๆ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีก็ถึงไลฟ์เฮ้าส์ เจ้าของโฮสเทลแนะนำเราให้กับที่นี่แล้ว ผู้คนยังบางตาเพราะยังหัวค่ำอยู่ เราสั่งเบียร์มาดื่มกิน ปล่อยหน้าที่พูดคุยสื่อสารเป็นของเธอไป
ฉันนั่งมองบรรยากาศ ฟังเพลงที่ร้านเปิดอยู่สักพักก่อนจะขึ้นไปเล่นดนตรี เช่นเคย เพลงเดิมๆ ที่เคยเล่นที่ไทย เล่นมากี่ปีก็ไม่รู้ แต่พอนำมาบรรเลงในสถานที่ใหม่ๆ ผู้ฟังใหม่ๆ บรรยากาศก็พลันสดใหม่ขึ้นมาได้ ฉันเลือกเล่นเพลงฮิตๆที่คิดว่าคนจีนน่าจะรู้จัก เช่น imagine, all my loving, heart of gold, fly me to the moon ก็เล่นๆปนๆกันไปสะเปะสะปะ ก่อนจะขอลาลงมานั่งกินเบียร์ต่อ ผู้คนในร้านซึ่ง 80% ก็เป็นพนักงานในร้านนั่นล่ะ นั่งสนทนากับทางร้านอีกสักพักก่อนจะขอตัวกลับก่อน วันนี้ได้ดื่มเบียร์ฟรีและทางร้านก็บอกว่าพรุ่งนี้มาอีกนะ โอเค ฉันรับปาก พรุ่งนี้คืนสุดท้ายที่จีน ฉันจะมาเล่นดนตรีอีก
อยู่เฟิ่งหวงมา 5 วันแล้ว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคล้ายๆ กับเวลาตัวเองไปอยู่ที่ปายเลย คือ ก็รู้ว่าปาย มีอะไรให้เที่ยวบ้างแต่จริงๆ ก็ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลยเดินวนไปวนมาอยู่ไม่กี่ที่ดูนั่นดูนี่ละก็กลับมานอนกลิ้ง กลางคืนไปในที่ที่มีเบียร์ มีเสียงดนตรี กรึ่มๆ ก็กลับมานอน ตื่นเช้าหากาแฟกินหาหนังสืออ่านมีอยู่แค่นี้มาที่นี่ก็ทำตัวคล้ายๆ กัน
บ่ายวันนี้ วันสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิตเต็มๆวันก่อนที่พรุ่งนี้ก็จะกลับไทยแล้ว วันก่อนเราเดินผ่านแว๊บๆเห็นมีร้านกาแฟร้านหนังสือเล็กๆอยู่ร้านนึงด้านหลังที่พัก ยังมองข้างในไม่ชัดแต่ก็เห็นความน่าสนใจของที่นี่เล็ดลอดออกมา วันนี้เลยตั้งใจจะเข้าไปสักหน่อย
ป้ายหน้าร้านชื่ออะไรประมาณ Paradise Happiness นี่ล่ะ เดินเข้าไปในร้านก็ให้เกิดความรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากเพราะตั้งแต่มาจีนเกือบ 10 วัน ยังไม่เจอร้านไหนมีบรรยากาศแนวนี้เลยคุ้นๆ ตา คล้ายๆ ร้านกาแฟหรือร้านหนังสือที่บ้านเราหลายๆ ที่ร้านเล็กๆ เป็นไม้ๆ มีบาร์ขายเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ ด้านในมีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่ง มีโปสการ์ด ของทำมือขาย มีหนังสือวางบนชั้น
ตามส่วนต่างๆ ของร้านมีรูปถ่ายซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของร้านคู่รักชายหญิง ตามที่เที่ยวต่างๆ จากภูมิประเทศแล้วน่าจะเป็นทางเนปาล ธิเบต อะไรแถบๆ นั้น บางรูปก็เป็นรูปทริปจักรยานทัวริ่ง เดาดูว่าเจ้าของร้านนี่น่าจะอารมณ์ศิลปินพอสมควร ชอบดนตรี เดินทาง ถ่ายรูปและวรรณกรรมที่ชั้นหนังสือ มีมูราคามิเวอร์ชั่น ภาษาจีนวางเรียงกันอยู่หลายเล่ม ทำให้รู้ว่าเออ.. เรากับเจ้าของร้านนี่น่าจะคุยกันรู้เรื่องอยู่นะ สั่งกาแฟร้อนไปโดยไม่ได้คาดหวังถึงรสชาติอะไรแล้ว
กาแฟที่รสชาติดีที่สุดในทริปนี้
ระหว่างรอกาแฟมองเห็นกีตาร์แขวนอยู่ 2-3 ตัว ฉันเลยขอหยิบยืมมาเล่นได้ไหม นั่งเล่นก๊องๆ แก๊งๆ เจ้าของร้านสาวเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วก็รวดนั่งฟัง ปรบมือ ถ่ายรูป แล้วก็บอกว่าชอบๆ เล่นอีกๆ เอาเข้าไปก็เล่นไปสักพักแล้วก็บอกเค้าว่าคืนนี้ ฉันจะมีเล่นที่ร้าน the Future in Valley เค้าก็บอก อ๋อ ดีเลยๆ รู้จักดีๆ เดี๋ยวจะไปดูนะ เราก็ยิ้มให้แล้วจ่ายตังค์ เริ่มรู้สึกว่าจะได้เพื่อนใหม่ๆ เพิ่มอีกแล้ว ที่สำคัญกาแฟที่นี่มีรสชาติใกล้เคียงกับที่กินมาตลอดชีวิต
ตกเย็นเราออกไปเดินหาอะไรกินกัน ฉันค่อยๆ เดินค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศและทบทวนความคิดความรู้สึกตัวเอง
“นักเดินทาง .. กับบางสถานที่ บางการเดินทางบางสถานที่เรามักจะมีความประทับใจ ประทับใจจนอยากกลับไปอีกกับบางการเดินทางบางสถานที่เราอาจจะไม่รู้สึกชื่นชอบใดๆ ให้ไปอีกคงไม่ไป บางความประทับใจ อาจมิใช่เพราะสถานที่ แต่อาจเป็นเพราะเราเดินทางกับใคร หรือ ได้พบปะกับใคร จะมีนักเดินทางคนใดไหม ที่เดินทางไปตลอดชีวิต โดยไม่ได้หยุดอยู่ปักหลักอยู่ที่ไหนเลยมีนกตัวไหน ที่จะบินไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดทำรัง”
คืนสุดท้ายที่นี่ ฉันเล่นดนตรีอย่างมีความสุข ได้ชมนักดนตรีประจำร้านเล่นด้วย บังเอิญเหลือเกินมีเพลงหนึ่งที่ฉันเคยได้ยินเมื่อนานมากไม่ต่ำกว่า 10 ปี น้องนักดนตรีคนนี้แกเล่นขึ้นมาเพราะมาก
มีน้องๆ ชาวจีนมานั่งคุยกับเรา เค้าบอกชื่นชอบเธอมาก ฉันงง ฉันเล่นดนตรีแต่น้องท่านนี้ไปชื่นชอบเธอ คุยกันสนุกสนานแลก ID Wechat กัน
คู่รักเจ้าของร้านกาแฟมานั่งชมและพูดคุยกัน ฉันชวนเค้ามาเที่ยวไทยและเชียงใหม่ อยากพาเค้าขึ้นดอยสูงไปดูทางช้างเผือกและทุ่งนาบนดอย ทั้ง 2 รับปากจะหาโอกาส
ค่ำคืนนี้เสียงดนตรีของฉันยังคงใช้แลกเบียร์ได้ดีอยู่ นอกจากแลกเบียร์แล้วเสียงดนตรียังนำมาซึ่งเพื่อนใหม่เสมอๆ ฉันเชื่อมาเสมอและเชื่อยิ่งขึ้นเรื่อยๆว่าเสียงดนตรีเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเกิดเพื่อน …
พรุ่งนี้แล้วสินะ นก 2 ตัวนี้จะต้องบินกลับถิ่นฐานแต่ใช่ว่าการเดินทางจะหยุดบางทีอาจจะเพิ่งเริ่มต้น
ChaHarmo : คือบุคคลที่ทำอะไรไปเรื่อยไปเตื่อยไม่เป็นชิ้นไม่เป็นอันแต่ก็สุขใจดี
ดำเนินชีวิตไปแล้วแต่สายลมโชคชะตาและบางปรารถนาส่วนตัวจะชักนำ
รักเสียงดนตรี หนังสือ ผู้คน ความแตกต่างและการเดินทาง
ติดตามเรื่องราวต่างๆเพิ่มเติมกันได้ในที่เหล่านี้
ChaHarmo
Chaharmo
ChaHarmo
He Fong Youth Hostel ชาฮาโม ที่กินฉางซา ที่พักฉางซา เชียงใหม่ไปฉางซา เที่ยวต่างประเทศ เฟิ่งหวง เมืองโบราณ เราจะข้ามฟ้ามา แอร์เอเชีย โฮสเทลฉางซา