งานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 11 Money Expo Chiangmai 2016 จัดโดย วารสาร ”การเงินธนาคาร” วันที่ 18-20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มียอดเงินสะพัดในงานกว่า 13,600 ล้านบาท สินเชื่อบ้านทำนิวไฮกว่า 8,800 ล้านบาท สินเชื่อ SMEs กว่า 2,300 ล้านบาท ประชาชนแห่ซื้อกองทุนรวม ประกันชีวิต ประกันภัย สลากออมทรัพย์ เพิ่มผลตอบแทน พร้อมให้ความสนใจใช้บริการนวัตกรรมทางการเงินการลงทุนผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น
นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสาร “การเงินธนาคาร” ประธานจัดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 11 Money Expo Chiangmai 2016 ภายใต้แนวคิด “Digital Life Digital Money ชีวิตดิจิทัล การเงินดิจิทัล” ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2559 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เปิดเผยว่า ยอดธุรกรรมการเงินภายในงาน 3 วัน มีมูลค่ารวมกว่า 13,668 ล้านบาท โดยมียอดผู้สมัครใช้บริการกว่า 24,000 ราย จากประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางมาใช้บริการทางการเงินและการลงทุนเป็นจำนวนมากกว่า 70,000 ราย
นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฏ์ รองประธานจัดงาน เปิดเผยถึงยอดธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นภายในงานว่า สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน มาเป็นอันดับ 1 รวมวงเงินกว่า 8,853 ล้านบาทจากอัตราดอกเบี้ยต่ำที่จูงใจ โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำถึง0% และอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 1-2 ปี นอกจากนี้ธนาคารที่ร่วมออกบูธในงาน ยังมีการอนุมัติสินเชื่อเบื้องต้นอย่างรวดเร็วทำให้ผู้กู้รู้ผลทันทีภายในงาน ผู้กู้ยังได้รับเงื่อนไขพิเศษเฉพาะในงานนี้ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการประเมินราคา ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ เป็นต้น รวมทั้งแคมเปญรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษด้วย ช่วยให้ผู้ผ่อนบ้านมีภาระต่อเดือนลดลง
สินเชื่อ SMEs มีเจ้าของธุรกิจยื่นขอกู้ในงานสูงเป็นอันดับ 2 รวมวงเงินกว่า 2,300 ล้านบาท จากอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ธนาคารแต่ละแห่งนำมาให้บริการเฉพาะในงานมหกรรมการเงิน Money Expo เชียงใหม่เท่านั้น โดยมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำสุด 3.5% ต่อปี และให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 20 ล้านบาท มีระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 12 ปี ผู้ขอกู้มีทั้งการกู้ไปลงทุนในธุรกิจใหม่ ขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เพราะเศรษฐกิจเชียงใหม่ยังไปได้ดีมาก นักท่องเที่ยวยังเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่กันอย่างคึกคัก รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนระดับกลางถึงบนด้วย โรงแรมเต็มทุกแห่ง ทำให้ธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ร้านอาหาร ร้านค้า ขายดีไปด้วย จนร้านอาหารหลายร้านไม่รับจองโต๊ะทางโทรศัพท์
ด้านผลิตภัณฑ์การออมและการลงทุน นางสาวภาคนี เปิดเผยว่า ปีนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ ประชาขนหันมาลงทุนระยะยาวในกรมธรรม์ประกันชีวิตประกันภัยและแบงก์แอสชัวรันส์มากขึ้น มียอดเงินลงทุนรวมกันกว่า740ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 3 แบบประกันที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนคือ ประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้นที่ได้รับเงินคืนปีละ 10-20% ประกันบำนาญเพื่อการวางแผนเกษียณ และใช้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยสูงและสลากออมทรัพย์ รวมวงเงินกว่า 260ล้านบาท
การลงทุนในกองทุนรวมมาเป็นอันดับ 5 วงเงินกว่า 460 ล้านบาท กองทุนเด่นที่ขายดีในงาน ได้แก่ กองทุน RMFและ LTF ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และหักลดหย่อนภาษีได้
ส่วนบริการทางการเงินอื่นๆ นางสาวภาคนี เปิดเผยว่า มีผู้สมัครใช้บัตรเครดิตสูงเป็นอันดับ 4 กว่า 7,000ใบวงเงินอนุมัติกว่า 600 ล้านบาท และสินเชื่อบุคคลอีกกว่า 2,300 ราย วงเงินกว่า200ล้านบาท
งานมหกรรมการเงิน Money Expo เชียงใหม่ ครั้งที่ 11 ในปีนี้ยังมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินการลงทุนดิจิทัลมาให้บริการในงานอีกด้วย เช่น บริการอนุมัติสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตนอกสถานที่ Digital Solution Engagement (DSE) ใช้เพียงบัตรประชาชนและสลิปเงินเดือนก็ทราบผลอนุมัติได้ทันที หุ่นยนต์ที่ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการ OOM-BOTและยังมีการเปิดตัว แอพพลิเคชั่นการลงทุนหุ้นและกองทุนรวมและโปรแกรมจัดพอร์ตการลงทุนNTER ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนนักลงทุนเป็นจำนวนมาก
ผู้เข้าชมงานยังให้ความสนใจเข้าฟังสัมนาเรื่องกลยุทธ์การลงทุนอย่างคับคั่งโดยให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินส่วนบุคคลและการบริหารการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี และยังมีกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ให้ความสนใจช่องทางการลงทุนดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เช่น อินเตอร์เน็ต เทรดดิ้ง และแอพพลิเคชั่นเทรดหุ้นบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตซึ่งเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
[wpgmza id=”136″]