เราจะข้ามฟ้ามา…เชียงใหม่ไปฉางซา จองไปกับแอร์เอเชีย 8

เชียงใหม่ไปฉางซา จองไปกับแอร์ นกบางชนิด ต้องบินเป็นคู่ หากเปรียบข้าพเจ้าเป็นนก ข้าพเจ้าคง….วันนี้ฝนตก วันนี้ฝนตก

จากพยากรณ์อากาศที่ดูกันไว้ก่อนมาว่าฉางซาฝนจะตกแทบทุกวัน แต่ผ่านมาหลายวันก็ไร้วี่แววของฝนมีแต่ความร้อนเป็นส่วนใหญ่แต่แล้วเช้าวันสุดท้ายฝนก็โปรยปรายลงมา เราเดินหาอาหารและหาซื้อของฝากกันนิดหน่อย

s__7618578
มื้อเช้า

ซึ่งก็คงไม่พ้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่นที่เราเห็นร้านขายเหล้าพวกนี้กระจายอยู่ทั่วไปมาก็หลายวันแล้ว แต่ก็ไม่รู้อีกว่าไหไหนโอ่งไหนรสชาติมันเป็นยังไง อันไหนเรียกว่าอร่อย การปรึกษาเจ้าถิ่นน่าจะดี เลยเลือกให้เธอถามสาวๆ เจ้าของโฮสเทลที่เราพักนั่นล่ะ ว่าเหล้าที่ขายๆ กันนี่ อันไหนจัดว่าเด็ดสุด

ปรากฎคำตอบที่ได้คือ ร้านที่ขายเหล้าในไหใหญ่ๆ พวกนั้นถือว่าธรรมดาไป เดี๋ยวแนะนำของเด็ดเฉพาะของที่นี่ แกก็ชี้นิ้วบอกทางให้เดินไป เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา มองหาธง อะไรสักอย่างแล้วจะเจอร้านอาหารร้านหนึ่งให้เดินเข้าไปในร้านแล้วไปถามเค้าเลย ว่าขอแบ่งซื้อเหล้าที่ทางร้านอาหารนี้ผลิตเองเป็นเหล้ากีวี่


เราก็เดินคลำทางกันไปกว่าจะเจอร้านดังกล่าวก็นานอยู่  เดินเข้าไปแย๊บคุยลุงเจ้าของร้านว่าเราได้รับคำแนะนำมาอย่างนั้นอย่างนี้ แกก็ทำท่าทางไม่ไว้ใจเหมือนมาโดนล่อซื้อยา จนสักพักแกก็เดินออกนอกร้านหายไปครู่ใหญ่ กลับมาพร้อมขวดแกลลอนบรรจุเหล้ากีวี่ที่ว่า การซื้อขายให้อารมณ์เหมือนซื้อสะเอียบจากสุดสะแนนสมัยก่อนเลย
ได้เหล้ามาแล้วตอนแรกกะจะเอาไปกรอกขวดแสงโสมฝากเพื่อนๆ ที่บ้านก็ดูจะเสียชาติที่มาถึงจีน เลยต้องไปจัดหาแพ็คเกจหน่อยเดินหาซื้อน้ำเต้ากันอีก คิดว่าบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามน่าจะทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น

img_2348
บรรจุภัณฑ์

นอกจากเหล้าแล้วก็ควรจะมีอย่างอื่นบ้างให้ลูกเด็กเล็กแดงกินบ้าง ก็คงไม่พ้นขนมถั่วที่เขาตีๆ ทุบๆ ตัดใส่ถุงขายกันอยู่ทั่วไป

img_20160805_095841
ให้ชิมก่อน
img_20160805_100136
แผนกทุบ
img_20160805_095606
บ๊ายบาย สาวๆ ตีเจมเบ้

เราเช็คเอาท์ร่ำลาจากถ่ายรูปกับสาวๆ ที่โฮสเทลและไม่ลืมแวะไปร้านกาแฟของเพื่อนใหม่พูดคุยกันนิดหน่อยก่อนมาหาแท็กซี่ให้ไปส่งท่ารถ ฝนโปรยหนาเม็ดขึ้นเราถึงท่ารถก่อนเวลามองหาว่ามันต้องไปซื้อตั๋วอะไรตรงไหนและรีบจัดการให้ทันเวลาที่คำนวณไว้

s__7618579


s__7618580

สถานีขนส่งคล้ายๆ ที่รอรถของนครชัยแอร์ คือ เป็นตัวอาคารที่มีประตูให้เดินผ่านออกเป็นช่องๆ ด้านบนประตูจะมีป้ายไฟบอกว่าขณะนั้น รถคันนั้นจะเดินทางไปที่ไหน เรานั่งมองชานชาลาที่ 1 ยังไม่ใช่ฉางซาของเรานั่งแกร่วรอกันต่อไป รอไปจนใกล้เวลาที่รถของเราจะออกก็ยังไม่มีใครเรียกเลยเดินไปถามพนักงานหน้ามู่ตู้ ก็ได้คำตอบว่ายังไม่มาให้นั่งรอไปก่อน
s__7618582
สถานีขนส่งเฟิ่งหวง
กลับมารอๆ จนเวลามันเลยมาจะชั่วโมงแล้ว คันอื่นเค้าก็ออกไปกันหมดแล้ว จางเจี่ยเจี้ย นี่ไปกันไม่รู้กี่คันละ แล้วฉางซาทำไมไม่มาสักที ก็เดินไปถามอีกก็โดนไล่ให้กลับมานั่งอีกบอกว่ารถมันเลท ใจเราเริ่มแป้วๆ เพราะกลัวทุกอย่างจะเลทกันหมดแล้วเราจะไม่ทันเช็คอินเครื่องบิน
จนเวลาเลยไปทั้งสิ้นชั่วโมงกว่า รถไปฉางซาถึงเดินทางมารีบวิ่งขึ้นรถและภาวนาขอให้มันรีบๆ ไปให้มันถึงๆ สักที
s__7618590
บรรยากาศริมทาง

ระหว่างทางจากเฟิ่งหวงไปตัวฉางซาฝนโปรยปรายไม่หยุด

5174218141664
ความวุ่นวายยังไม่จบ เมื่อรถเริ่มเข้าตัวเมืองฉางซาเจ้าหน้าที่บนรถที่มายืนพูดๆ อะไรก็ไม่รู้มากมายก็เริ่มขายของขายแพ็คเกจนั่นนี่ก่อนสุดท้ายจะมาบอกว่ารถคันที่เรานั่งมานั้น มันจะไม่ไปจอดในที่ที่มันควรจะจอด คือ จะไปจอดอีกที่หนึ่ง ซึ่งเราก็งงกันสิว่าแล้วเราจะนั่งรถอะไรต่อไปให้ถึงสนามบิน
พอลงรถได้ก็ถามคนแถวนั้น เขาบอกว่าแถวนี้มันมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ให้นั่งรถจากนี่ไปลงสถานีอะไรอีกที่หนึ่งแล้วจะมีรถไฟฟ้าแบบแอร์พอร์ตลิงค์วิ่งตรงเข้าสนามบินเลยแต่ประเด็นคือ ตอนนั้นเวลาจะทุ่มแล้วละไอ้รถที่ไปสนามบินมีถึงแค่ 2 ทุ่ม ก็เลยไม่รู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลมันจะทันไหมเพื่อจะไปเช็คอิน 3 ทุ่มเพราะเครื่องบินเราออก 5 ทุ่ม
s__7618602
วิ่งไปสถานีรถไฟฟ้า
s__7618611
ใช้บนรถไฟฟ้า
s__7618614
ก่อนขึ้นรถ

หลังลงรถยังสถานีที่ว่าแล้วซึ่งก็คือสถานีอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ ก็วิ่งตาเหลือกมองหาทางไปสนามบินป้ายก็ดันเขียนว่า สนามบินฮวงหัว เราก็เอาแล้วไง ไอ้เมืองนี้มันมีกี่สนามบินกันนะ เพราะถ้าพลาดเครื่องนี่ความวินาศทั้งหลายจะตามมาเนื่องเพราะเราไม่มีเงินสำรองจะซื้อตั๋วกลับกันแล้วถามไปถามมาก็ได้ว่า มันคือสนามบินเดียวกันนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นรีบไปซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถไปซะเวลาจะ 2  ทุ่มแล้วซึ่งเราก็ทันแบบฉิวเฉียด

s__7618612
ป้ายบอกไป Huanghua Airport
s__7618619
ไปสนามบิน
s__7618618
ลุ้น
s__7618617
ไปสนามบินกัน
เมื่อถึงสนามบินเราก็ต้องได้วิ่งกันอีก อะไรมันจะต้องวิ่งกันขนาดนี้ วิ่งตรงไปที่เคาน์เตอร์แอร์เอเชียหวังว่าจะทันเช็คอิน ไปถึงอ้าว!! ปิด ชิบหายแล้วไม่ทันหรือยังไงกันนี่ เงียบเชียวเดินมองหาว่าจะถามใครได้บ้างก็เจอเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งเลยตรงไปถามว่าเราไม่ได้มาช้าไปใช่ไหมเพราะนี่เพิ่งจะเลย 2 ชั่วโมงก่อนบอร์ดดิ้งไทม์ไปนิดเดียว ได้คำตอบว่า เคาน์เตอร์ยังไม่เปิดเลยจ้ะ อีกสักพักใหญ่ๆ นะ โอเค เราได้ถอนหายใจกันยาวๆ ครั้งแรกสรุปว่าได้กลับแน่นอนแล้ว โล่ง เวลาที่เหลือต่อจากนี้เอาไปใช้หาอาหารกันเถอะมื้อสุดท้ายก่อนกลับไทย
s__7618621
มื้อสุดท้ายก่อนจากแผ่นดินจีน
เราเดินหาร้านอาหารแถวๆนั้น มี KFC มีอะไรอีกเยอะแยะ แต่ส่วนใหญ่ก็ทยอยปิดเพราะว่าเริ่มดึก
เข้าไปร้านนึงเพราะยังเปิดอยู่ ความชุลมุนวุ่นวายยังคงเช่นเดิมคุ้นตา โหวกเหวกโวยวาย แม่ตะคอกลูกที่ไม่ยอมกินข้าว ญาติคนอื่นคุยกันเสียงดัง บางทีก็รู้สึกเกินจะทน ตั้งแต่สมัยอยู่ที่ไทยแล้วนักท่องเที่ยวจีนเค้ามาประพฤติตัวไม่คุ้นตาเรา
พอเรามาอยู่ในถิ่นเค้าที่ยิ่งเจอเรื่องราวเหล่านี้เป็นธรรมดา รู้สึกว่ามันหนักหนากว่ากันเยอะ ทั้งๆ ที่เราก็คิดว่าเรารักษามารยาทอย่างดี แต่มาพลันคิดอีกทีว่าเฮ้ย มันไม่ใช่เลย
เรื่องวัฒนธรรมวิถีชีวิต ที่อยู่กันคนล่ะพื้นที่บางทีมันเปรียบเทียบกันไม่ได้แฮะ มารยาทของเรากับมารยาทของเค้ามันอาจจะคนล่ะนิยามกันเลย เพราะเราแตกต่าง แตกต่างกันตั้งแต่เกิด ตั้งแต่ภาษา วัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมวิธีคิดให้คนในสังคมนั้นเป็นคนที่มีนิสัยของสังคมนั้น เพราะงั้นอะไรที่แรกเจอแล้วขัดหูขัดตา หรือผิดไปจากวิถีเรา เราก็จะมองว่าประหลาด ไม่ถูกต้อง เอาเข้าจริงๆ มันก็ตัดสินกันไม่ได้แม้แต่สังคมไทยบ้านเราเองหรือเชียงใหม่เอง จริงๆ เมื่อก่อนคนก็มีน้ำใจให้กันมากกว่านี้ หลายๆ แยกบนถนนแต่ก่อนไม่มีไฟแดง เวลารถมาเจอกันก็จะชะลอให้กัน ให้ฝั่งตรงข้ามไปก่อน เดี๋ยวนี้มีไฟแดงแล้ว พอไฟแดงแล้วเรายังพุ่งเข้าหาพร้อมบีบแตรเข้าหากัน วิถีสังคมมันจึงเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่ส่วนใหญ่เห็นเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงก็ไม่มีอะไรมากกับการเดินทางครั้งนี้ ไปอยู่ในวิถีชีวิตที่แปลกไป โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คและเว็บไซต์ที่คุ้นเคยใช้ไม่ได้ อาหารการกินไม่คุ้นลิ้น จนรู้สึกแตกต่าง แต่มีบางสิ่งที่เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ว่าชาติใดภาษาใดนิยมชื่นชอบและใช้มันก่อมิตรภาพได้นั่นคือเสียงดนตรี
ทริปนี้ คงเป็นทริปแรกๆ ในรอบหลายปี ที่ฉันไม่ได้ออกบินคนเดียว แต่ก่อนนิยมชมชอบการเดินทางคนเดียวมากๆ แต่พบว่ารอบนี้การเดินทางเป็นคู่ก็มีข้อดีบางอย่างที่ถ้าไปคนเดียวย่อมไม่อาจได้รับความรู้สึกนี้แน่ๆ
s__7618623
นกบางชนิด ต้องบินเป็นคู่ หากเปรียบข้าพเจ้าเป็นนก ข้าพเจ้าคง….
เป็นนกกระจอกขี้เหงาที่หลงคิดไปบ้างว่าตัวเองเป็นอินทรี

ChaHarmo : คือบุคคลที่ทำอะไรไปเรื่อยไปเตื่อยไม่เป็นชิ้นไม่เป็นอันแต่ก็สุขใจดี
ดำเนินชีวิตไปแล้วแต่สายลมโชคชะตาและบางปรารถนาส่วนตัวจะชักนำ
รักเสียงดนตรี หนังสือ ผู้คน ความแตกต่างและการเดินทาง
ติดตามเรื่องราวต่างๆเพิ่มเติมกันได้ในที่เหล่านี้
ChaHarmo
Chaharmo
ChaHarmo

Relate Posts :