“เราอยากให้คนเชียงใหม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” โกวิท ทาตะรัตน์ ผู้ก่อตั้งรีวิวเชียงใหม่ เปิดแนวคิดการทำสื่อออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ

โกวิท ทาตะรัตน์ ผู้ก่อตั้ง รีวิวเชียงใหม่ เปิดใจครั้งแรกกับแนวคิดการทำสื่อออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ

ตื่นเช้า เลื่อนหน้าเฟส อัพสเตตัส ตามข่าวสารผ่านทวิตเตอร์ อัพรูปลงไอจี แชทไลน์กับเพื่อนรู้ใจ ส่วนหนึ่งชีวิตประจำวันของหลายคนที่หันมาเสพข่าว แชร์เรื่องราวผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น คนเชียงใหม่และคนที่มาเที่ยวเชียงใหม่ก็เช่นกัน

วันนี้เราจะพาไปพบกับสื่อออนไลน์ที่คนกำลังให้ความสนใจ “รีวิวเชียงใหม่” หนึ่งในสื่อออนไลน์ที่นำเสนอทุกเรื่อง ทุกมุมในเชียงใหม่ ผ่านเว็บไซต์ แฟนเพจ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ไลน์ มีผู้ติดตามรวมทุกช่องทางมากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน แล้วรีวิวเชียงใหม่ นำเสนอเรื่องราวพวกนี้ไปทำไม ต้องการยอดไลค์? แค่นั้นหรือ?

“เราอยากให้คนเชียงใหม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” คือคำตอบของ “โกวิท ทาตะรัตน์” ผู้ก่อตั้ง รีวิวเชียงใหม่


ขอเริ่มต้นการสัมภาษณ์โดยถามถึงที่มาของรีวิวเชียงใหม่

ผมอยากจะทำสื่อที่เป็นสื่อออนไลน์ แต่มีความชั่งใจอยู่ว่าจะทำเป็นสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อออนไลน์ดี คิดว่าจะทำทั้งคู่ในตอนนั้น แต่ก็ตัดสินใจว่า อนาคตสื่อออนไลน์น่าจะมา สื่อสิ่งพิมพ์ก็จะลดลง ก็เลยตัดสินใจทำสื่อออนไลน์ 100% ก็ทำมาประมาณ 5 ปีแล้วครับ สื่อที่เราคิดจะทำเป็นสื่อคล้ายๆ นิตยสารออนไลน์

เราอยากทำเป็นเรื่องที่มีประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน มากกว่าจะเป็นข่าวทั่วไป


ทำไมถึงชื่อ “รีวิวเชียงใหม่”

อันนี้เป็นเรื่องตลกมาก เป็นเรื่องฮานิดหนึ่ง ตอนที่เราทำครั้งแรก เราจดโดเมนที่ชื่อว่า Chiangmai Thai Travel คือมันยาวมาก ไปคุยกับใครก็นึกว่าบริษัททำทัวร์ ทำไปได้ปีหนึ่ง มันไม่ค่อยเวิร์ค ก็มีพี่คนหนึ่งเขาแนะนำว่า เห้ย! เปลี่ยนชื่อเถอะ เขาก็แนะนำชื่อว่า รีวิวเชียงใหม่


เป้าหมายของรีวิวเชียงใหม่คืออะไร

พอมันมี feed back จากคนดู เรารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ด้วย เช่น เรารณรงค์เรื่องรถติด คนก็อาจจะใส่ใจกันมากขึ้น หรือว่าเราอยากให้ไปอุดหนุนร้านเล็กๆ ของท้องถิ่น คนก็ไปกัน อนาคตเราก็อยากเป็นสื่อที่ดีของเชียงใหม่

จริงๆ เราอยากเป็นสื่ออันดับหนึ่งเลยแหละ แต่อยากเป็นอันดับหนึ่งที่มีคุณภาพด้วย เพราะว่าเรามองว่าเพียงการได้ยอดไลค์หรือยอดแชร์ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ถือว่ายังน้อยไป  ถ้าผู้คนไม่ได้อะไรจากเราเลย เราถือว่าเรายังไม่ถึงเป้าหมาย

เด็กๆ ที่ติดตามเรา นักศึกษา อยากให้รู้ว่าเชียงใหม่ก็มีดีนะ ไม่เห็นต้องไปอยู่กรุงเทพฯ เลย ที่นี่มีงาน มีสิ่งดีๆ ให้เราทำ มันรู้สึก suffer เหมือนกันนะ ที่เห็นคนเก่งๆ ต้องไปอยู่กรุงเทพฯ คือเชียงใหม่มีคนเก่งเยอะ แต่ส่งออกไปอยู่ที่อื่นกันหมด แล้วทำไมไม่มาอยู่ที่บ้านเราวะ มีงานให้ทำ มีสื่อดีๆ มีข้อมูลดีๆ ตั้งเยอะแยะ


พี่คิดว่าในมุมมองของคนที่ตามรีวิวเชียงใหม่ ถ้าพูดถึง “รีวิวเชียงใหม่” จะนึกถึงอะไร

เขาก็จะนึกถึงสื่อท้องถิ่นที่ไม่เชย สื่อท้องถิ่นที่มันเท่ๆ ที่มันแบบ วัยรุ่นก็เสพได้ คนมีอายุก็เข้าถึง

อยากให้เขาพูดถึงว่าเขาตามรีวิวเชียงใหม่แล้วเขารู้สึกว่ามันเท่ว่ะ แบบเขาได้รับสิ่งดีๆ ทุกวัน การตามรีวิวเชียงใหม่แล้วทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น


คือรีวิวเชียงใหม่ไม่มีเรื่องดราม่า เรามีแบบสิ่งดีๆ ของเชียงใหม่ เรื่องน่าสนุกสนาน เวลาพูดคำว่าดี อย่าไปคิดว่าเราเป็นเว็บทำบุญเหรอ ไม่ใช่นะ เราหมายถึงอาหารที่ดีและมีประโยชน์เนี่ย นอกจากจะมีประโยชน์แล้ว มันต้องน่ากินด้วย เราทำ content ของเราให้เป็นอย่างนั้น ให้มันน่าอ่านและมีเสน่ห์ด้วย


รีวิวเชียงใหม่ เริ่มต้นจากโซเชียลช่องทางไหน

รีวิวเชียงใหม่ เริ่มต้นครั้งแรกมาจากเว็บไซต์เลยครับ เพราะว่าในวันที่เราเริ่มทำเนี่ย ช่องทางโซเชียลมีเดียยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่ เราเริ่มจากการทำเว็บไซต์ แล้วก็ในสมัยนั้นมันมีช่องทางแค่เว็บไซต์ ผู้คนจะค้นเจอจากการ search google น่ะครับ ค้นคำว่าร้านอาหารเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่พักเชียงใหม่ ก็จะเจอเว็บไซต์เรา แต่ว่าตอนหลังๆ เนี่ย โซเชียลมีเดียเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น เราก็เริ่มใส่ใจในการทำแฟนเพจมากขึ้น พอทำแฟนเพจแล้วเราก็ขยับไปทำทวิตเตอร์ แล้วตามด้วยไอจี เพราะว่าผู้คนที่ติดตามแต่ละช่องทาง เขามีพฤติกรรมที่ต่างกันครับ


คิดว่าช่องทางไหนเป็นที่นิยมมากที่สุด

สำหรับคนไทยนะครับ Facebook เป็นที่นิยมมากที่สุดครับ สำหรับคนเชียงใหม่ก็แปลก แล้วก็อินดี้กว่าคนอื่น ก็คือเขาใช้ทวิตเตอร์กันเยอะมาก อินสตาแกรมเนี่ยเป็นสิ่งที่มาแรงในอนาคต คนที่มีผู้ติดตามในอินสตราแกรมเยอะๆ ก็จะเป็นคนที่ได้เปรียบ


ตอนนี้มีแอพพลิเคชั่นรึยัง

ยังไม่ได้ทำครับ แต่ก็มีแผนว่าจะทำอยู่ ถ้าจะเปิดแอพพลิเคชั่นแล้วอ่านเรื่องราวต่างๆ คงไม่ใช่เพราะสามารถอ่านจากเฟสบุ๊คได้อยู่แล้ว ถ้าเปิดแอพ รีวิวเชียงใหม่แล้วมันแจ้งรถติดหรือแจ้งร้านอาหารดีๆ ที่มีส่วนลด ก็น่าจะคุ้มค่าที่จะเปิดดู


อะไรที่อยากจะทำเพิ่มสำหรับรีวิวเชียงใหม่

มันจะมีการเปิดหมวดหมู่ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในเว็บไซต์ด้วย ที่เราทำอยู่ตอนนี้คือหมวดอสังหาริมทรัพย์ครับ หมายถึงการีวิวที่พักอาศัย ที่พักน่าเช่าหรือว่าทำเลค้าขายอะไรแบบนี้ครับ คือปกติเราก็มีหมวดที่พักอยู่แล้ว แต่ว่าหมวดที่พักเนี่ย เราทำเรื่องโรงแรม เกสเฮาส์ซะมากกว่าสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ แต่หมวดที่เปิดใหม่จะเป็นหมวดสำหรับคนที่จะมาอยู่จริงๆ แต่ก็อาจจะมีโหมดอื่นๆ ตามมาอีกครับ


Office อยู่ที่ไหน

ชื่อ the brick space ถ.ศิริมังคลาจารย์ ซอย 13 ที่นี่เป็น Co-working space ก็คือมีหลายบริษัทมาเช่าออฟฟิศอยู่ที่นี่ รีวิวเชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในนั้น


มีพนักงานกี่คน

6 คนครับ


รับเด็กฝึกงานไหม

เรารับเด็กฝึกงานตลอดครับ เด็กๆ ที่ฝึกงานจากเราไปส่วนมากก็เป็นคนใช้ได้เหมือนกัน ถ้าจะฝึกก็ยื่นเรื่องมาที่คุณดาวเลยครับ ([email protected])


เลือก content ที่จะมาลงรีวิวยังไง

มีอยู่ 2 ส่วนครับ เป็นเนื้อหาที่เราตั้งใจทำขึ้นมาเองกับเนื้อหาที่เป็นสปอนต์เซอร์ด้วย ยอมรับเลยครับมีสปอนเซอร์แน่นอน แต่ว่าสปอนเซอร์ในเว็บของเราก็มีไม่มากครับ ผมว่า 95% น่าจะเป็น content ที่เราทำขึ้นเองมากกว่า content ที่ทำกันเองก็มาจากการคิดกันของทีมงาน

เราโฟกัสไปที่กิจการที่เป็นประโยชน์ต่อคนเชียงใหม่ เช่น ร้านป้าคำ ร้านลาบยอง ร้านป้าวุ้นอะไรอย่างนี้ บางร้านเขาแก่แล้วจะให้มานั่งทำแฟนเพจก็คงไม่ใช่ เราอยากมีส่วนช่วยให้เขาค้าขายดีขึ้น


การคัดเลือกคนมาทำงานที่รีวิวเชียงใหม่

ดูหน้าตาก่อนครับ อันนี้พูดเล่นนะครับ เราเนี่ยแปลกอย่างหนึ่งคือ ตั้งแต่บริษัทเปิดมาแล้ว คนที่จะสมัครงานกับเรา เราไม่ดูวุฒิการศึกษาเลย มันบอกอะไรไม่ได้นัก ไม่ใช่ว่าต้องเป็นคนที่จบนิเทศแล้วถึงจะมาหาเรา อย่างผมก็ไม่ได้จบนิเทศ ไม่มีความเกี่ยวข้องด้านพวกนี้เลย

ผมเชื่อว่าเราอยากจะทำงานอะไร อยากจะเป็นอะไรซักอย่างเนี่ย เราฝึกฝนได้ โลกยุคนี้มันมีเครื่องมือเยอะ หลายคนที่เป็นตากล้องเก่งๆ ที่ผมรู้จัก เขาก็ไม่ได้จบการถ่ายภาพมาอาศัยมีใจรัก เขาก็หาทางถ่ายรูปของเขาเอง กล้องสมัยนี้มันไม่ได้แพงอะไร แล้วก็ถ่ายอัพขึ้น IG สร้างโปรไฟล์ของตัวเองเอาไปสมัครงาน เราชื่นชมคนอย่างนี้มากกว่า

มากกว่าคนที่จบมาตรงสาย ไม่เคยทำงานแล้วก็ไม่พยายามทำ แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะทำ แล้วคิดว่าจะมีคนทดลองให้เขาทำ ซึ่งในโลกยุคนี้มันเป็นไปได้ยาก คือคนที่จะยอมเสี่ยงกับคุณ น่าจะน้อยนะ เด็กหลายคนที่มาคุยกับผม ผมก็บอกเขาว่า เรียนอยู่ปี 3 ปี 4 ก็สร้าง portfolio ไว้เลย อยากเป็นตากล้องก็ไปถ่ายเยอะๆ อยากเป็นนางแบบก็ไปเรียกตากล้องมาถ่ายเยอะๆ เอาซักอย่างหนึ่ง จบมาก็เอา portforlio นี้ไปยื่นเลย ก็มาสมัครงานกับเราได้


ส่วนมากเราจะรับคนที่เป็น blogger นะฮะ คือคนที่จบในตัว คือเขียนเรื่องได้ ถ่ายรูปได้พอสมควร เล่าเรื่องได้มีความคิดสร้างสรรค์ เราไม่ได้ใช้คำว่านักเขียนหรือว่า บ.ก.หรือว่าเป็นตากล้องไปเลยก็ต้องทำได้หลากหลายเพราะบริษัทมันเล็กน่ะครับหรือตำแหน่งอื่นก็ได้ บางทีเราก็รับสมัคร AE มั่ง AE ก็คือคนขายงานนะ ส่วน admin ก็จะเป็นแม่บ้านคอยดูแล office หมายถึงว่าคนดูแลความเรียบร้อยของพวกเรา


Skill ที่ควรมีในการทำงาน

Skill ที่ควรมีคือ Skill ในการเล่าเรื่องน่ะครับ การเล่าเรื่องมันสำคัญมากตรงที่ว่า ถ้าเราเอาเรื่องเดียวกัน นิทานก็ได้ไปเล่าให้เด็กฟัง โดยคนเล่าต่างกัน ปฏิกิริยาของเด็กก็จะต่างกัน นิทานเรื่องเดียวกันเลย แสดงว่าการเล่ามีผลมาก เพราะฉะนั้นเนี่ย คนที่เขาเล่าเรื่องเก่งหรือเล่าเรื่องเป็นเนี่ยก็จะมีความได้เปรียบ การเล่าเรื่องเป็นแล้วก็การมีความคิดสร้างสรรค์น่ะฮะ ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้คือการสังเกต ว่าสิ่งต่างๆ รอบตัวเป็นยังไง แล้วก็ช่างสงสัย สงสัยไปหมด สงสัยทุกอย่าง คือตั้งคำถามกับทุกอย่าง ผมว่าคนอย่างนั้นน่าจะเหมาะสมที่ทำงาน ในสายงานที่ต้องใช้ความคิดแล้วก็ใช้ความรวดเร็วด้วย

แล้วก็ทักษะในการใช้งานโซเชียลมีเดียก็สำคัญมาก แต่ก็ใช่ว่าคนที่เล่น Facebook เป็นจะทำงานได้นะ คือเล่นยังไงไม่ให้มันทำร้ายตัวเอง คือเราไม่รู้ว่าสิ่งที่คุณพูดเนี่ย มันถูกแฉไปบนโลกออนไลน์ มันเก็บไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว แต่คนที่เขาเล่นเป็นเนี่ย เขาเล่นเพื่อสร้างสรรค์ได้นะครับ เขาเล่นเพื่อสร้างตัวตน เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของเขาได้ อันนี้น่ะครับเขาเรียกว่าเล่นเป็น


รีวิวเชียงใหม่ได้เงินมาจากไหน

คือเราทำงานเป็นสื่อนะ จริงๆ รายได้ของสื่อมันมาจากไม่กี่ทางครับ โดยส่วนมากมันคือรายได้จากการโฆษณา โฆษณาเราก็มีหลายแบบมันมีแบนเนอร์คือป้ายโฆษณาในเว็บไซต์ จากการจองโรงแรมบ้าง ถ้ามีคนกดจองโรงแรมจากเว็บของเรา หรือว่ารายได้จากการรับรีวิวสินค้าหรือบริการบ้าง เราก็จะเอารายได้พวกเนี่ย มาเป็นเงินเดือนพนักงาน ค่าเช่า office แล้วก็เป็นเงินเก็บของบริษัทเอาไว้ขยายกิจการ


พี่มีใครเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานไหม

ผมชอบ Steven Paul Jobs ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มุ่งมั่นจะทำอะไรแล้วเนี่ย เขาทำได้ดี ทุ่มเททั้งกายและใจ ผมคิดว่าเขาคงคิดงานตลอด 24 ชั่วโมง คือเขาทำเหมือนไม่ทำแล้วก็ไม่ทำเหมือนทำ คือเวลาพักผ่อนของเขา เขาคงนั่งกินข้าวแล้วก็คงคิดงานไปด้วย ถ้าเราทำชีวิตได้อย่างนั้น ชีวิตเราจะแฮปปี้มากเลย เพราะเราไม่ต้องตอกบัตรเข้าทำงานด้วยซ้ำไป เราเข้างานหรือไม่เข้า เราก็ทำงานอยู่ดี

ทุกวันนี้ผมชอบไปปั่นจักรยานเพราะว่าปั่นแล้วมันคิดอะไรออก ผมรู้สึกว่าการที่มีคนที่เขามุ่งมั่นทำงาน รู้สึกว่าทำให้เราได้ inspiration แล้วก็ผมชอบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลด้วยใช้ทุกอันเลย คือมันใช้ง่าย เขาทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ผมก็อยากทำเรื่องยากๆ ที่คนอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ทำไมต้องใช้ภาษาให้มันยาก เราพูดไปเลยว่า ผมคิดอย่างนี้ ผมคิดอย่างนั้น ทำไมคนเรามันไม่ง่ายๆ ตรงๆ อย่างรีวิวเชียงใหม่เราจะใช้ภาษาที่เป็นภาษาพูด เป็นกันเอง เพราะว่าผมไม่ได้ทำเว็บราชการ อยากพูดก็พูดมาเลย คือเข้าใจว่าทุกคนมีเวลาน้อย เอาจุดไคลแม็กซ์ขึ้นเลยดีกว่าไหม เปิดมาเลยอะไรสำคัญก็ว่ามาเลย สรุปมาให้เลย 3 บรรทัดจบ คุณชอบอ่านแต่ไม่มีเวลา เรารู้ รูปสวยก็ดูไป อะไรอย่างเนี่ยครับ

Content ดีๆ มันมีให้เสพเยอะ เราเข้าใจคนนั้นดีเลยไม่อยากกวนเวลาคนอ่านมาก เราก็พยายามให้มันกระชับและเรียบง่าย


อยากฝากอะไรถึงแฟนรีวิวเชียงใหม่ไหม

ผมก็ทราบนะครับว่าแฟนๆ ที่ Follow เรามี account อยู่เยอะ มี 4 แสนกว่า account ครับ ก็คงมีหลายช่วงอายุคนน่ะฮะ คงจะมีเด็กตั้งแต่อายุ 15 ถึงอายุ 50 ปี ผมคิดว่าเราคือผู้เสพ รับข่าวสารกันมาเยอะแล้ว คราวนี้ช่องทางในการสื่อสารเรามีเยอะ ทั้งแฟนเพจ inbox ที่ส่งเข้ามาหรือว่าจะคอมเม้นใต้เรื่องก็ได้ หรือว่า twitter ก็รีกันหรือว่าจะเมนชั่นหากันหรือ message หากันก็ได้ แม้แต่อินสตาแกรมก็มาเม้นอะไรกันได้ ผมกำลังจะบอกว่า ผมอยากให้มันเป็นสื่อสารแบบ two way communication ระหว่างกัน มากกว่าที่ผ่านมา ผมคิดว่า feed back จากคนดูมีประโยชน์กับเรามากกว่า เขาอยากให้เราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้นะ หรือว่าเรื่องไหนที่เราทำแล้วไม่ชอบมากๆ เลย อยากตำหนิก็ยินดี ถ้าคุยกันผมว่าคุณน่าจะอย่างนี้นะ ผมฟังทุกอัน

เอาจริงๆ ผมอ่านทุกคอมเม้นเลยในแฟนเพจน่ะครับ บางคอมเม้นเป็นร้อยๆ ผมก็อ่าน ถ้าตอบเองได้ก็ไปตอบ ผมว่าทุกคนก็มีความคิดที่อยากเห็นเชียงใหม่ดีขึ้นทั้งนั้นแหละ เรารับฟังความคิดเห็นของคุณมา เราก็กระจายออกไป  เพื่อให้คนไปทำร่วมกันไปสร้างเชียงใหม่ให้มันน่าอยู่


คำถามสุดท้ายอุปสรรคในการทำงานมีอะไรบ้าง

มีเยอะครับ ยกตัวอย่างเช่น ทีมงานงอแงไม่เข้าใจอะไรอย่างนี้ครับ แบบว่าบางทีเราสื่อสารกับทีมงานมันก็เป็นเรื่องยาก บางทีทีมงานก็อาจจะยังไม่เก็ท หรือว่ายังไม่เข้าใจแต่เข้าใจแต่เขาก็มีความพยายามดี บางเรื่องก็อาจจะยังไม่โดนหรือว่าไม่ค่อยปังซักเท่าไหร่ แต่เราก็กำลังแก้ไขกันอยู่ โดยที่ทีมงานเราอาจจะต้องประชุมกันให้มากขึ้น ปัญหาอย่างอื่นก็มีมั้งครับ เช่น ตังค์ไม่พอ ถ้าสปอนเซอร์สนใจก็ติดต่อมาเลยครับ เรารับโฆษณาครับพูดกันตรงๆ เลย แต่ก็มาคุยกันว่าจะทำโฆษณายังไงให้มันสร้างสรรค์ดีกว่าไหม อย่าคิดเลยว่าอันไหนเป็นโฆษณา อันไหนเป็น Content เพราะว่าถ้าโฆษณามันดีอ่ะ คนก็ดู

อนาคต รีวิวเชียงใหม่ จะเติบโตไปในทิศทางไหนจะมีอะไรใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์ ก็ต้องติดตามกันนะฮะ

[wpgmza id=”129″]

Relate Posts :