เด็กมอฟังทางนี้ เรามีที่อ่านหนังสือมาฝาก Early Bird Study Room and Coffee

#hightlight

  • เปิดบริการทุกวัน 08:00 – 03:00 น. ส่วนช่วงหนึ่งเดือนก่อนสอบจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง

  • ชั้นสอง และชั้นสามคิดค่าบริการ 10 บาท ต่อคน ต่อชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องสั่งเครื่องดื่มก็ได้ (สั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว ฟรี 3 ชั่วโมง 1 ใบเสร็จ ต่อหนึ่งคนเท่านั้น!)

  • มีโต๊ะที่เหมาะสำหรับการอ่านคนเดียวพร้อมสาย LAN

  • นอกจากจะมีดีเรื่องที่อ่านหนังสือแล้ว เครื่องดื่มก็เริ่ดดดด (10 เต็ม 10 จ้าาาาา)เครื่องดื่มจัดหนัก จัดเต็มให้สำหรับทุกเมนู

  • มีที่จอดสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนรถยนต์มีที่สำหรับหน้าร้านประมาณ 2 คัน

อีกไม่ถึงเดือนต่อจากนี้จะถึงช่วงที่ทุกๆคนรอคอย และตื่นเต้นที่สุดในชีวิตเพื่อเป็นตัววัดเกณฑ์ว่า!! ใครจะได้อยู่ต่อ!! หรือใครจะต้อง W ทิ้งมันไป!! แน่นอนนั้นก็คือช่วงสอบเองคร่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา !!!!!!!!!!!!

ช่วงที่ใครต่อใครก็ต้องรีบเช็คว่าแต้มบุญคงเหลือมากน้อยแค่ไหร่ หรือจะต้องไปเติมแต้มบุญที่วัดไหนดี (วัด ดู ยู มีน ?)  แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเราไม่ต้องหันไปพึ่งแต้มบุญ แล้วเปลี่ยนมาเป็นอ่านหนังสือแทนจะดีกว่า แต่เดี๋ยวนี้ต้องยอมรับเลยว่าเด็กมหาลัยขยันจับกลุ่มอ่านหนังสือกันมากขึ้น หรือว่าบางทีชอบไปนั่งร้านเดียวกัน แต่แยกกันอ่าน พอไปนั่งที่ห้องสมุด ก็โดนวางของจองที่ไว้แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของมานั่งสักที หรือจะเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดบ้าง ร้านกาแฟบ้าง แต่เสียงแต่ละร้านก็ดังใช่ย่อยไม่มีสมาธิอ่านเท่าไหร่นัก

เฮลโล่ววววว วันนี้เรามีร้านที่พึ่งเปิดใหม่ซิงๆ สดๆ มาฝากกกกกก “ Early Bird Study Room and Coffee ” ร้านนี้ยังเปิดไม่ถึงเดือน (เปิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560) พิกัดร้านอยู่ซอย 5 บ้านใหม่หลังมอ หรือซอยร้านกาแฟ(โสด) นั้นเองค่าาาาา จิ้มๆลิ้งค์เพจเลย>> Early Bird Study Room and Coffee

ร้านนี้มีก็เหมือนร้านกาแฟทั่วๆไปที่เป็นร้านกาแฟที่มีพื้นที่ให้นักเรียน นักศึกษาอ่านหนังสือ แต่สิ่งที่ทำให้ร้าน Early Bird แตกต่างและฉีกกฎร้านกาแฟทั่วไปก็คือ มีพื้นที่ให้สำหรับนักเรียนนักศึกษาไว้อ่านหนังสือเตรียมสอบ หรือนั่งทำงานได้อย่างเต็มที่ !

โดยปกติร้าน Early Bird นั้นจะเปิดตั้งแต่ 08:00 – 03:00 น. แต่ถ้าเป็นช่วงหนึ่งเดือนก่อนสอบก็จะเปิดในบริการตลอด 24 ชั่วโมง!!!  (ทางร้านก็จะมีพนักงานน่ารักๆ คอยให้บริการเสมอ ป.ล. พนักงานเป็นกันเองมากกกกกก สามารถชวนคุย จีบ(?) ได้เลยไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ)


ส่วนที่จอดรถ ที่จอดรถมอร์เตอร์ไซค์สามารถจอดได้ที่ด้านข้างของร้าน แต่ถ้าเป็นรถยนต์สามารถจอดได้ที่หน้าร้าน (ประมาณสองคัน)

ในร้านนั้นจะแบ่งเป็นโซนให้บริการเป็น 3 ชั้น โดยในชั้นแรกนั้นเป็นโซน Cafe ส่วนในชั้นสอง และชั้นสามนั้นจะเป็นที่ให้สำหรับอ่านหนังสือ Study จะมีบริการทั้งอินเตอร์เน็ต (wifi และ สาย LAN) และน้ำดื่มให้กดฟรี โดยจะมีการคิดค่าบริการ 10 บาท ต่อคน ต่อชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องสั่งเครื่องดื่มก็ได้ โอ๊ยยยยมันเริ่ดดด !! แต่ถ้าสั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว ก็สามารถนั่งฟรีได้ 3 ชั่วโมง (1 ใบเสร็จ ต่อหนึ่งคนเท่านั้น!)

ชั้นหนึ่ง เหมาะสำหรับขาจร แวะมาเม้าท์มอยและจากไป และในชั้นที่หนึ่งนั้นจะเป็นส่วนของการทำกาแฟ และเครื่องดื่มเมนูต่างๆ

บรรยากาศในร้านชั้นหนึ่ง คนก็จะคึกคัก

ชั้นสอง เหมาะสำหรับคนที่จับกลุ่มกับเพื่อน เพื่อมาอ่านหนังสือ จะมีโต๊ะมากกว่า สิบโต๊ะและเก้าอี้ให้นั่ง ทั้งแบบสี่ที่ และสองที่ ไว้ให้สำหรับนักศึกษามานั่งจับกลุ่มทำงาน ถึงแม้ว่าชั้นหนึ่งจะมีเสียงจากการทำกาแฟ แต่ชั้นสองถือว่าเงียบสุดๆ สามารถนำปลั๊กพวงมาต่อเพื่อเสียบชาร์ตอุปกรณ์อิเลกโทรนิคต่างๆได้เลย

ชั้นสาม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบที่แท้ทรู! และคนที่มานั่งทำงานเพียงคนเดียว มีสาย LAN ไว้บริการทุกโต๊ะ เพื่อให้คนที่ต้องการอ่านหนังสือ ทำงานควบคู่ไปกับความรวดเร็วของ Internet


นอกจากการแนะนำโซนอ่านหนังสือแล้ว เราก็จะแนะนำเมนู recommend ที่ในตอนนี้มีอยู่ 4 เมนู บอกเลยว่าแต่ละเมนูเด็ดฟุดๆๆๆๆๆ ยกนิ้วให้เลยเน้ออออออ

Chocolate mint bon bon ให้ความรู้ถึงความเข้มโกโก้ และความสดชื่นจากมิ้นท์

Strawberry bon bon จัดแน่นจัดเต็มกับความหวานอมเปรี้ยว จากสตอเบอร์รี่

Mango bon bon อัดแน่นเต็มที่ไปกับเนื้อมะม่วงที่ชุ่มช่ำ หวาน มัน กำลังดี พร้อมกับเนื้อม่วงที่ชิ้นใหญ่เต็มคำ

Peach bon bon เติมเต็มความหวาน ความหอมไปกับเนื้อ และรสชาติของลูกพีช

ถ้าสังเกต เมื่อเดินไปรอบๆร้านก็จะมีคำคม(?) ภาษาอังกฤษ ไว้เป็นแรงกระตุ้นอยู่หน่อยๆ โดยส่วนตัวแล้วร้านนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเราเลยทีเดียว และในส่วนสุดท้าย ก็อยากให้รักษามารยาทส่วนรวม การใช้เสียง รักษาความสะอาด ความมีระเบียบ ด้วยนะคะ จุ๊บ!!

Relate Posts :