โดยวันนี้ CMTT มีภาพบรรยากาศภายในงานมาฝากกันด้วยครับผม
ทีมงานจาก Click Radio FM นอกจากหน้าตาดีกันทุกคนแล้ว ยังเป็นกันเองแบบสุดๆเลยฮะ
ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันครับ
ถ่ายกับร่วมกับสื่อมวลชนภายในงานครับ
ดูแล้วมาคุยกัน!
“ความเจริญเข้ามาในชีวิตมากขึ้นเท่าไหร่ ธรรมชาติก็ยิ่งถอยห่างออกไปเรื่อยๆ” หนังแนวใหม่ๆ ของไทยที่ไม่ค่อยได้เห็นนักอย่างแนว Road movie ที่พาเราไปดูธรรมชาติของธิเบตที่งดงาม พอมารวมกับมุมมองดีๆ ของหนังก็ช่วยเสริมให้ภาพเด่นขึ้นอีกเยอะ แม้ว่าการสำนึกผิด การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีงาม จะเป็นสิ่งที่ชาวทิเบตให้ความสำคัญ แต่หนังถ่ายทอดมาให้เรารับรู้ได้ผ่านตัวละครของทั้งสองคน ที่อาจจะดูกระโดด แรงผลักดันบางอย่างยังขาดเหตุผล หรือปูพื้นมาไม่มากพอ หรือบุคลิกของตัวละครสองคน ไม่น่าทำให้เชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเองไปขนาดนั้นได้ โดยเฉพาะตัวละครของ “ทิน” (แม้จะแอบขโมยซีน ซันนี่เกือบทั้งเรื่อง) หนังอาจไม่ทำให้เราเชื่อถึงศรัทธาของตัวละครเท่าไหร่ และปมปัญหาที่ขมวดกันอิรุงตุงนังก็ดูไม่ค่อยน่าเชื่อและขาดอารมณ์ร่วมไปเยอะ เรียกง่ายๆ ว่าหนังมันไปไม่สุดทางที่ควรจะไปได้
แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูแบบผมอิ่มเอมแบบเร้าอารมณ์ คือแกนหลักของหนังไม่ได้จมอยู่แค่กับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อย่างเดียวแต่ยังลงลึกไปถึงสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญชีวิต อย่าง ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทำไมคนเราต้องห่างกันก่อนถึงจะคิดถึงกันได้ ทำไมคนเราไม่พูดบอกกันตรงๆ เวลารู้สึกอะไร ทำไมคนเราทำผิดแล้วถึงไม่กล้าสารภาพ เราจะทำยังไงที่จะลบความรู้สึกผิดต่างๆ ที่ฝังลึกในจิตใจ ความรักหรือความศรัทธาจะเยียวยาเราได้ไหม เราจะให้อภัยคนที่ทำผิดต่อเราหรือตัวเราเองได้รึเปล่า และเราจะใช้ชีวิตยังไงให้คุ้มค่ากับเวลาที่เหลืออยู่ นี่เป็นประเด็นใหญ่ที่สุด และยอดเยี่ยมที่สุดที่หนังเรื่องนี้สร้างความสุขเล็กๆ ให้เราได้เก็บไปคิดหลังจากหนังจบไปแล้วได้//