3 ตุลาคม 2561: AIS Academy จัดสัมมนา ACADEMY for THAIS รวบรวมองค์ความรู้แห่งโลกยุคดิจิทัล โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Disruption หลากหลายองค์กรชั้นนำทั้งใน และต่างประเทศ ร่วมเปิดมุมมองและหาคำตอบของการเตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล เพื่อเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้คนไทยพร้อมเติบโตและก้าวไปพร้อมกัน ณ ศูนย์ประชุมอิมแพค ฟอรั่ม, เมืองทองธานี
หลายครั้งที่เราได้รับข่าวสารเกี่ยวกับ Digital Disruption ทั้งที่เกิดขึ้นแบบรุนแรงเฉียบพลัน และแบบค่อยๆ แทรกซึม ท้าทายกรอบความคิดรูปแบบเดิมที่เราเคยประสบความสำเร็จลงไปแบบพลิกฝ่ามือ สำหรับ AIS การเตรียมพร้อมดังกล่าว ตลอดจนความตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมาเป็นเวลากว่า 3 ปี AIS ได้จัดตั้ง AIS Academy ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการเรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ จากทั้งภายในและนอกประเทศ รวมถึง การปฏิวัติองค์กรเพื่อสร้างความพร้อมเข้าสู่โลกแห่งการเปลี่ยนแปลงอันมีผลจาก Digital Disruption ผ่านแนวคิด Anywhere Anytime Any Device สำหรับพนักงานในองค์กร โดยอาศัยการใช้ Digital Platform นำส่งองค์ความรู้ที่หลากหลายไปยังพนักงาน เพราะเชื่อมั่นว่า การรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยียุคดิจิทัล เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนองค์กรและแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง และพันธกิจที่สำคัญเหนือสิ่งใด คือการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมไทย โดยเป็นอีกแรงผลักดันในการสร้างความร่วมมือภาคเอกชน เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของคนไทยให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดผสานกำลังเพื่อสังคมที่เข้มแข็งของการเติบโตร่วมกัน อันเป็นหัวใจสำคัญของการทำ Digital Transformation ขององค์กรในยุคปัจจุบัน
นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ของ AIS ในการดำเนินการทำ Digital Transformation ให้กับพนักงานภายในองค์กร เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ ตลอดจนประสบการณ์ที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติ จึงมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในฐานะสมาชิกในสังคมไทยที่ AIS ไม่อาจละเลยคือ การเป็นแรงขับเคลื่อนด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในยุคดิจิทัลเพื่อคนไทย ด้วยเหตุผลว่า เทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นที่คนไทยสามารถใช้งาน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับศักยภาพมวลรวมของประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ทัดเทียมกับนานาประเทศบนเวทีโลกในทุกมิติ ทั้งหมดนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดงานสัมมนา ACADEMY for THAIs งานสัมมนาเชิงวิชาการระดับนานาชาติที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับสังคมไทยด้วยหลากหลายความรู้ทางเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและสร้างความพร้อมให้เท่าทันนานาประเทศ
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยหนุนเสริมให้คนไทยขยับตัวได้เร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น ได้มองเห็นศักยภาพของตัวเองให้สามารถเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน”
งานสัมมนา ACADEMY for THAIs ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายองค์กรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ธนาคารกสิกรไทย, เมืองไทยประกันชีวิต , Minor International , SEAC , มหาวิทยาลัย Stanford และ MIT ซึ่งล้วนเป็นองค์กรที่มีแนวคิดและมุ่งสร้างความพร้อม ความเข้มแข็งด้าน Digital Transformation ให้กับบุคลากรภายในองค์กรและยึดมั่นร่วมมือกันในหมู่พันธมิตรในการสร้างสังคมให้ยั่งยืน โดยภายในงานได้จัดเสวนาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อปรับมุมมองและเพิ่มความสามารถในการปรับตัวสู่โลกแห่งเทคโนโลยี ส่วนไฮไลท์สำคัญ เราได้รับความร่วมมือจาก South East Asia Center หรือ SEAC ในฐานะศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูงระดับนานาชาติ ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในการคัดสรรวิทยากรผู้มีประสบการณ์ตรงด้าน Digital Disruption เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ได้แก่ Mr.Hau L. Lee / Mr.Rudy De Waele / Dr.Johan Ugander มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่กำลังอยู่ในความสนใจและจะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมจึงได้รับเกียรติจากวิทยากรอีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจที่ได้เรียนรู้และปรับตัวเท่าทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อาทิ ดร.สุพจน์ ศรีนุตพงษ์ ผู้อำนวยการโครงการภาครัฐ บริษัท ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด, คุณพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด, คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com ร่วมพัฒนาองค์ความรู้และส่งเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีครั้งนี้ไปด้วยกัน
“งานสัมมนา ACADEMY for THAIs ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่ คนไทยจะได้รับฟังและเรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี นวัตกรรม ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและในระดับภาคธุรกิจมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนได้เตรียมความพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถปรับใช้เทคโนโลยีได้อย่างมั่นใจ” นางสาวกานติมา กล่าวสรุป