1.Wedding Planner คืออะไร ?
Wedding Planner คือ ผู้จัดการและดูแลงานให้สมบูรณ์ที่สุด เปรียบเสมือนวิศวกร โดยทาง Wedding Planner จะดูแลเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยง ดูแลคิวงาน การซักซ้อมขั้นตอนประเพณีต่างๆ ตกแต่งสถานที่ Light and Sound จัดเตรียมอาหาร ประสานงาน ซึ่งคุณไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการเอง ทาง Wedding Planner จะจัดการให้คุณทั้งหมด ไม่ว่างานแต่งของคุณจะเป็นแบบไหน มีแขกจำนวนเท่าไหร่ คุณสามารถยืนต้อนรับแขกและพูดคุยกับผู้ที่มาร่วมงานโดยไม่ต้องปวดหัวกับรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ในงานอีกเลย
2. ทำไมถึงต้องจ้าง Wedding Planner
ข้อดีของการจ้างคือ Wedding Planner คืองานจะ smooth ไปได้สวย เพราะ Wedding Planner จะเป็นคนจัดการควบคุมงานเกือบหมดทุกอย่าง ทำให้ทางเจ้าภาพไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนในวันงานและในขั้นตอนของการเตรียมงาน บ่าวสาวสามารถปรึกษาพูดคุยเพื่อบอกรายละเอียดของงานที่ตนเองต้องการกับทาง Wedding Planner ได้ทุกเรื่อง โดยทาง Wedding Planner จะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อคู่บ่าวสาวเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ ด้วยการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ หากมีปัญหา ทาง Wedding Planner จะเข้ามาช่วยแก้ไขได้ทันท่วงที ในช่วงเวลาที่กระชั้นชิด … วันสำคัญของเราทั้งทีดีกว่าให้บ่าวสาวหน้ามุ่ยหน้างาน เพราะไม่มีใครแก้ไขปัญหาให้นะจ๊ะ
3. Wedding Planner มีหน้าที่อะไรบ้าง
Wedding Planner จะทำหน้าที่ออกแบบและดูแลทุกอย่างภายในงาน ตามที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ บางคู่อาจต้องการให้งานแต่งของตนเองออกมาเรียบง่าย สบายๆ หรือบางคู่ต้องการให้งานแต่งของตนออกมาเรียบหรู ดูดี ไม่ว่างานแต่งแบบไหน หากคู่บ่าวสาวต้องการทาง Wedding Planner ก็สามารถจัดให้ได้ หากคู่บ่าวสาวมีโจทย์ที่ชัดเจนก็จะทำให้งานออกมาได้อย่างลงตัวและถูกใจ เพราะสิ่งสำคัญของงาน คือความพึงพอใจของทั้งเจ้าภาพ ในวันงานทาง Wedding Planner จะควบคุมการจัดงานทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งการจัดสถานที่ ดูแลลำดับพิธีการในงานเลี้ยง ระบบแสงสีเสียง อาหารและการประสานงานต่างๆ ให้ทุกช่วงเวลาของความสุขเป็นไปอย่างราบรื่น
4. งบประมาณ/การคิดราคาของ Wedding Planner
งบประมาณหรือการคิดราคาของ Wedding Planner มีการแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ราคาของงานแต่ละงานจะไม่เท่ากัน ขึ้นกับรายละเอียดของงานนั้นๆ เนื่องจากแต่ละงานทาง Wedding Planner จะทำตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น งานต่างประเทศมักจะคำนวณค่าใช้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ตามจำนวนคน เช่น งบจัดงาน 1000 บ.ต่อคน เป็นอาหาร 50% ตกแต่ง 20 % เครื่องแต่งกาย 20 % อื่น ๆ 10 % แต่รายละเอียดบางอย่างในงานก็ไม่สามารถคำนวณจากจำนวนคนได้ เช่น ราคาเค้ก การตกแต่งเวที เป็นต้น ดังนั้นหากคู่บ่าวสารต้องการงานแบบไหน ทั้งงานเล็กหรืองานใหญ่ คู่บ่าวสาวควรพูดคุยปรึกษากับทาง Wedding Planner ให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อทาง Wedding Planner จะได้คำนวณค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมนั่นเอง
5. วิธีการเลือก Wedding Planner
ให้เลือก Wedding Planner ที่มีทีมงานและมีความพร้อมเพราะจะทำให้เจ้าภาพไม่ต้องเหนื่อยมาก รวมทั้งให้ดูจากโปรไฟล์ของ Wedding Planner นั้นๆ ระยะเวลาในการทำงาน ความน่าเชื่อถือและสำคัญที่สุดคือเรื่องของการบอกต่อปากต่อปาก
6. Wedding Planner ต่างจาก Organizer อย่างไร?
Wedding Planner จะเจาะจงเข้าไปในเรื่องของงานแต่งงานโดยเฉพาะ ต้องมีองค์ความรู้ในเรื่องนี้มากกว่า Organizer คล้ายกับว่าซัพพอร์ท Organizer แต่จริงๆแล้วทำงานควบคู่กัน
7. ขั้นตอนการเตรียมตัวบ่าวสาวของ Wedding Planner
7.1 หาฤกษ์วันที่จะจัดงาน – ในสังคมไทย บางครอบครัวมักจะให้ความสำคัญในเรื่องฤกษ์ยามเป็นอย่างมาก ดังนั้นคู่บ่าวสาวอาจเตรียมฤกษ์งานแต่งไว้ประมาณ 2-3 ฤกษ์ และคำนวณจำนวนแขกไว้ล่วงหน้า จากนั้นจึงแจ้งเรื่องวัน เวลา จำนวนแขก รูปแบบงานเลี้ยงกับทาง Wedding Planner เพื่อพูดคุยปรึกษารายละเอียดต่างๆ ของงานต่อไป
7.2 หาสถานที่ – ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่จะมางาน สามารถเลือกได้ทั้งแบบ indoor และ outdoor แต่หากแขกมีจำนวนมากตัวเลือกสถานที่อาจมีจำกัด โดยเฉพาะเมื่อต้องการใช้งานทั้งสองแบบ สำหรับสถานที่จัดงานนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร เป็นต้น หากได้ฤกษ์และสถานที่ รวมถึงรูปแบบการจัดงานก็สามารถทำการ์ดเชิญได้แล้วค่ะ
7.3 รูปแบบงานเลี้ยง – Theme งานต่างๆในแบบที่เจ้าภาพต้องการ
การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล – Cocktail Party ถือได้ว่า เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะกับคู่บ่าวสาววัยทำงานและที่สำคัญคือแขกที่มาร่วมงานเป็นหนุ่มสาวไฟแรง มีผู้ใหญ่น้อย เนื่องจากเป็นการจัดอาหารเป็นแบบ Finger Food ไม่เน้นในเรื่องของโต๊ะเก้าอี้รับรองแขก เน้นบริการเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ โดยจะจัดบริการอาหาร ประเภทอาหารว่าง อาหารทานเล่นเบาๆ รวมถึงอาหารเรียกน้ำย่อยไว้ให้แขกที่ร่วมงาน เดินเลือกหยิบรับประทานตามชอบ เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยงแขกจำนวนมากและแขกที่มาร่วมงานได้พูดคุยกันได้อย่าง ทั่วถึง เป็น Party ที่สบาย ๆ
การจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน – Chinese Banquet
การจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ – Buffer Party
การจัดเลี้ยงแบบออกร้าน
การจัดเลี้ยงแบบขันโตก – The Khan Toke Banquet
ขอบคุณข้อมูลความรู้ดีๆจาก Chormuang Chiangmai Wedding Planner และ ช่อม่วง ณ บ้านไร่สวนใจแก้ว
ขอขอบคุณรูปภาพจาก
1. Vokeng Photographer
2. ARADA PHOTOGRAPHY
3. Boboa Studio
บ้านไร่สวนใจแก้วคืออะไร
บ้านไร่สวนใจแก้วตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสถานที่จัดงานเลี้ยง งานแต่งงาน สามารถรองรับแขกได้มากกว่า 400 คน ทั้งยังสามารถจัดงานได้ทั้งแบบ indoor และ outdoor และเปิดให้ Organizer อื่นๆสามารถมาเช่าสถานที่ได้อีกด้วย