8 ร้านขนม รอบโลกไอเทมเด็ด เสร็จที่เดียวที่เชียงใหม่

ไม่ต้องตระเวนไปรอบโลกเพื่อหา ร้านขนมเด็ด สุดอร่อยของแต่ละประเทศมาลองทาน แค่ตระเวนไปทั่วเชียงใหม่ก็ได้ลิ้มรสชาติแบบต้นตำรับที่ไม่ต่างกันมาก ซึ่งแต่ละร้านก็มีไอเทมน่าสนใจให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ และอรรถรสรีวิวราวกับได้ไปเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว


1. Mara No Ocha – ไทซอง ขนมรูปปลาสอดไส้

ขนมไทซองหรือครัวซองต์ไทยากิสอดไส้ ของว่างสุดฮิตของคนญี่ปุ่น

ขนมไทซองหรือครัวซองต์ไทยากิสอดไส้ ของว่างแบบสตรีทฟู้ดรูปปลาสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟแก่ชาวเชียงใหม่เป็นแห่งแรก ซึ่งย้ายจากฮาโกะทาวน์ บริเวณวัดขะจาว มาเปิดที่ถนนนิมมานเหมินท์ โดยขนวัตถุดิบและอุปกรณ์มาจากแดนอาทิตย์อุทัย เพื่อให้ได้รสชาติแบบดั้งเดิมมากที่สุด แต่ก็ไม่ลืมเพิ่มรสชาติใหม่ๆ ให้คนบ้านเราได้เลือกทานอย่างถูกปาก ทั้งไส้ถั่วแดงญี่ปุ่น ไส้เผือก-เกาลัด ไส้อัลมอนด์-พีนัทบัตเตอร์ และไส้เบคอนชีส ทำแบบสดๆ ร้อนๆ ตัวต่อตัวตามสั่ง ใช้เวลารอประมาณ 7 นาที นอกจากนี้ยังมีโมจิย่าง ทานคู่กับน้ำตาลทรายแดง โรยด้วยผงถั่วเหลือง ให้ลองสั่งทานอีกด้วย ชื่อร้านแปลว่า ‘ชาของฉัน’ ขนมทั้งหลายจึงเป็นของหวานที่คนญี่ปุ่นมักทานคู่กับชานั่นเอง

ไทซองไส้ถั่วแดงญี่ปุ่น 60 บาท และไทซองไส้เบคอนชีส 65 บาท
โรยด้วยน้ำตาลคาราเมล ได้ความหวานกรอบกรุบ เพิ่มอรรถรสในการทานยิ่งขึ้น

2. Kyoto Soft – ไอศกรีมรสถ่านไม้ไผ่

  • พิกัด กาดมาลิน หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • เวลาเปิด-ปิด 17.00-22.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 089-4335333
  • Facebook Kyoto-Soft
ไอศกรีมสีดำรสถ่านไม้ไผ่เป็นที่ถูกอกถูกใจวัยรุ่นอยู่ตอนนี้

ไอศกรีมสีดำแปลกตาที่กำลังเป็นที่นิยมหน้ากาดมาลินในบรรดานักศึกษาอยู่ ณ ตอนนี้ คงไม่พ้นไอศกรีมสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งชื่อจากเมืองเกียวโต ที่เจ้าของตั้งใจสะท้อนให้เห็นถึงความนุ่มนวลสไตล์คนญี่ปุ่นที่ยังคงวิถีชีวิตอันเรียบง่าย เช่นเดียวกับความละมุนและรสชาติของไอศกรีม ที่มีให้เลือกทั้งรสวานิลลาถ่านไม้ไผ่ญี่ปุ่น วานิลลาชาเขียว และทูโทนที่เป็น 2 รสชาติมาผสมกัน จากการสอบถามได้ข้อมูลว่าที่เลือกไอศกรีมเป็นรสวานิลลาถ่านไม้สีดำ เพราะต้องการให้เป็นอะไรที่แปลกใหม่ต่างจากซอฟท์ไอศกรีมทั่วไป อีกทั้งเมื่อสีดำเมื่อตัดกับสีเขียวของชาเขียว ทำให้ไอศกรีมดูโดดเด่นขึ้น และใช่ว่าจะมีดีแค่สีดำเท่านั้น เนื้อไอศกรีมยังมีรสสัมผัสของถ่านไม้นิดๆ อีกด้วย

รสวานิลลาถ่านไม้ไผ่และรสวานิลลาชาเขียว ราคาโคนละ 25 บาท
นักศึกษาแวะเวียนมาซื้อกันตลอด

3. Memo Nimman – คิทแคทและไอศกรีมฮอกไกโด

  • พิกัด นิมมานเหมินท์ซอย 11
  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-21.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 095-6788181, 084-0066669
  • Facebook Memo Nimman Soi 11
คิทแคทรสชาติต่างๆ ชิ้นละ 30 บาท 4 ชิ้น 100 บาท

ไม่ต้องไปตามล่าหาขนมสุดพิเศษถึงญี่ปุ่นอีกต่อไป ในเมื่อร้านของฝากนิมมานฯ แห่งนี้ รวบรวมขนมเด็ดๆ ที่หาซื้อได้เฉพาะในญี่ปุ่นมาไว้ใกล้ๆ แค่นี้ ทั้งคิทแคทรสชาติพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น เช่น ชาเขียว ฟักทอง สตรอเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ช็อตเค้ก ดาร์กช็อกโกแลต ฯลฯ ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 30 บาท กูลิโกะแบบพิเศษ ป๊อกกี้ Rainbow ป๊อกกี้ไซส์ใหญ่ที่มีถึง 7 รสชาติในกล่องเดียว ทั้งช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ วานิลลา ชาเขียว ส้ม และกล้วย รวมไปถึงสินค้ายอดนิยมของคนไทยอย่างไอศกรีมเมจิ ทั้งรสชาเขียว ไอซ์โซดา และฮอกไกโดวานิลลา ราคาตั้งแต่ 29-45 บาท แต่ตัวที่ฮิตติดตลาดสุดๆ ต้องยกให้ไอศกรีมนมฮอกไกโด ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาซื้อเป็นประจำ


ไอศกรีมฮอกไกโดราคาโคนละ 125 บาท มีไอศกรีมและขนมจากญี่ปุ่นให้เลือกเพียบ
เห็นหน้าร้านแบบนี้ตรงปรี่เข้าไปได้เลย

4. เค้กไต้หวัน – เค้กวานิลลาห่อไข่

  • พิกัด ถนนหมื่นด้ามพร้าคต ใกล้สี่แยกไฟแดงทางไปโลตัสคำเที่ยง
  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-24.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 053-814113
  • Facebook Caketaiwan
เค้กไต้หวัน ชิ้นละ 32 บาท

ร้านเค้กที่เปิดมานานกว่า 10 ปี ค่อยๆ เป็นที่รู้จักในบรรดานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎและชาวบ้านละแวกนั้น เมนูเด่นของร้านคือเค้กไต้หวัน เค้กวานิลลาเนื้อนุ่มห่อด้วยไข่แผ่นบางที่ทานแล้วเข้ากันสุดๆ แค่ชิ้นเดียวก็อยู่ท้อง ในราคาเพียง 32 บาทเท่านั้น ถือว่าไม่แพงเลย ที่ร้านยังมีทาร์ตไข่ เค้กปอนด์ เค้กชิ้น จำหน่ายในราคาไม่แพงให้เลือกซื้อกันอีกด้วย

ผ่าครึ่งเค้กไต้หวันเป็นเค้กวานิลลาเนื้อแน่น และทาร์ตไข่ 22 บาท

5. Cheevit Cheeva – บิงซู น้ำแข็งใสสไตล์เกาหลี

  • พิกัด ถนนศิริมังคลาจารย์ซอย 7 อยู่ที่เดียวกับ Cheeva Spa
  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-21.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 087-7278880
  • Facebook Cheevit Cheeva
บิงซูรสสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก 169 บาท

เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็กลายเป็นร้านฮิตฮอตมาแรงสำหรับบรรดานักตามล่าร้านเด็ดในเชียงใหม่ไปเสียแล้ว กับคาเฟ่เรือนกระจกที่ตั้งใจให้ผู้มาเยือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติสีเขียวและหอมกลิ่นดอกไม้แห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะบริการเมนูน้ำผลไม้และสมูตตี้เพื่อสุขภาพอันเป็นซิกเนเจอร์แล้ว ยังมีเมนูที่เป็นนางเอกของร้านอย่างบิงซู เกล็ดน้ำแข็งใสรสนมสไตล์เกาหลี ที่มีความละเอียดกว่าน้ำแข็งใสทั่วไป โดยใช้อุปกรณ์นำเข้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทำให้เกล็ดน้ำแข็งออกมานุ่มละมุนราวกับหิมะ ได้รสชาติของนมยิ่งขึ้น และเมื่อนำมาปรุงด้วยซอสสไตล์โฮมเมดให้ถูกปากคนไทยยิ่งขึ้น ยิ่งอร่อยอย่าบอกใคร บิงซูที่นี่มีให้เลือก 3 รสชาติ ได้แก่ สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ช็อกโกแลต และข้าวเหนียวมะม่วง ถ้วยหนึ่งขนาดพอเหมาะสำหรับ 2-3 คน รับรองว่าได้ลองทานแล้วจะติดใจ และหายสงสัยว่าทำไมคนถึงนิยมกันนัก

ราดซอสสไตล์โฮมเมดแบบนี้ อร่อยถึงใจ นอกจากนี้ยังมีเค้กขายด้วย
มากันเป็นกลุ่มแล้วรุมกันกินแบบนี้ ได้อารมณ์สุดๆ

6. Kurtosh – บ้านเค้กปล่องไฟสไตล์ฮังการี

  • พิกัด โครงการ Think Park ถนนนิมมานเหมินท์
  • เวลาเปิด-ปิด 11.30-22.00 น. หยุดวันอาทิตย์
  • โทรศัพท์ 083-6647506
  • Facebook Kurtosh C.M.
Mr.Miro กำลังทำทูร์คอชด้วยความตั้งใจ

คูร์ทอช หรือที่ภาษาฮังการีเรียกว่า Kurtos Kalacs (คำว่า Kurto ในภาษาฮังการีแปลว่า ปล่องควัน และ Kalas แปลว่า ขนม) ถือเป็นขนมปังอบที่เก่าแก่ที่สุดของฮังการี มีต้นกำเนิดเมื่อปี ค.ศ.1723 ที่เมืองทรานซิลเวเนีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศฮังการี ถือเป็นโชคดีของคนเชียงใหม่ที่ไม่ต้องตีตั๋วเครื่องบินไปหาชิมถึงที่โน่น เมื่อ Mr.Miro ชาวฮังกาเรียน ที่มาอยู่เชียงใหม่ได้ 2 ปีครึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเปิดร้านขนมคูร์ทอชสไตล์ต้นตำรับให้คนบ้านเราได้ทานที่ Think Park เมื่อวัตถุดิบทุกอย่างสามารถหาได้ในเชียงใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำขนมอันเป็นเอกลักษณ์ของฮังการี โดยจำหน่ายทั้งแบบเป็นชิ้นหรือที่เรียกว่า Rings แบบเต็มแท่งหรือ Full Size และแบบแซนด์วิช แบ่งเป็นรสหวาน ได้แก่ ลูกเกด+ซินนามอน ช็อกโกแลต+มะพร้าว ช็อกโกแลต+อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง+คาราเมล ช็อกโกแลต+ถั่ว เมล็ดทานตะวัน+คาราเมล รสเค็ม ได้แก่ งา+หอมใหญ่ ชีส+แฮม ชีส+มะกอกดำ และรสพิซซ่า ทำสดใหม่ ใช้เวลารอเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ราคารสหวานชิ้นละ 25 บาท รสเค็มชิ้นละ 30 บาท และรสพิซซ่าชิ้นละ 35 บาท ส่วนแบบ Full Size รสหวานแท่งละ 95 บาท รสเค็มแท่งละ 110 บาท  ใครอยากรู้ว่ารสชาติของขนมอันเก่าแก่ของฮังการีเป็นอย่างไร ตามไปลองชิมกันได้

คูร์ทอชรสช็อกโกแลต+อัลมอนด์ และช็อกโกแลต+มะพร้าว ชิ้นละ 25 บาท รสชีส+แฮม และชีส+มะกอกดำ ชิ้นละ 30 บาท
ทำสดใหม่ทีละชิ้น มีที่ให้นั่งทานในโซนในร้านและนอกร้าน

7. หวานละมุน – เค้กสไตล์ฝรั่งเศส

  • พิกัด ชั้น 2 โซนเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
  • เวลาเปิด-ปิด 10.00-21.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 053-288662
Exotic มูสเสาวรส สอดไส้ราสเบอร์รี่ 135 บาท

ถ้าพูดถึงร้านเค้กสไตล์ฝรั่งเศส หลายคนอาจจะลืมนึกถึงร้านขนมไทยสุดอร่อยแห่งนี้ไป แต่สำหรับขาประจำที่มาแวะทานคงไม่แปลกใจหากจะพูดว่านอกจากขนมไทยแล้ว หวานละมุนยังมีเค้กสไตล์ฝรั่งเศสที่รสชาติสุดยอดไม่แพ้กันให้เลือกทานกันด้วย ซึ่งเค้กฝรั่งเศสนั้นจะต่างจากเค้กแบบอื่นตรงที่เนื้อเค้กจะมีมูสแทรกอยู่เป็นส่วนใหญ่ โดยเนื้อเค้กมักใช้ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมหลัก แล้วเติมวัตถุดิบอื่นๆ เข้าไปเพื่อสร้างความแปลกใหม่ ให้ความเด่นเฉพาะตัว ในขณะที่มูสซึ่งทำจากครีมหรือวิปปิ้งครีม ทำให้เลี่ยนง่าย ผลไม้จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อใช้ตัดความเลี่ยนและเพิ่มสีสันน่ารับประทาน ซึ่งรูปลักษณ์อันสวยงาม น่าสนใจ ก็เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเค้กสไตล์ฝรั่งเศสด้วย


เวลาทานให้ตัดครึ่งแล้วทานทั้ง 2 รสชาติในครั้งเดียว Dark Chocolate Mousse มูสช็อกโกแลตเข้มข้น 135 บาท
นอกจากขนมไทยแล้ว ที่ร้านมีเค้กและขนมฝรั่งเศสให้เลือกทานเพียบ

8. SHOP US – กาเร็ตต์ ป๊อปคอร์น

  • พิกัด ทางเข้า Fashion Zone โครงการ Star Avenue อาเขต
  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-21.00 น. ทุกวัน
  • โทรศัพท์ 096-2862236
  • Facebook Shop US
ป๊อปคอร์นที่นิยมไปทั่วโลก และเพิ่งมาเปิดสาขาในเมืองไทยเมื่อปีที่แล้ว

ข้าวโพดคั่วสุดฮิตที่กลายเป็นกระแสบูมสุดๆ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา กับกาเร็ตต์ ป๊อปคอร์น ที่มีต้นตำรับอยู่ที่เมืองชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา โดยร้านแรกก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1949 หรือเมื่อ 66 ปีที่แล้ว แต่ยังคงความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่นิยมหิ้วจากประเทศสิงคดปร์และมาเลเซีย ก่อนจะมีสาขาที่ 40 ที่กรุงเทพฯ แต่ชาวเชียงใหม่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะเราสามารถหาซื้อได้ชอปแห่งนี้ และถือเป็นแห่งเดียวในเชียงใหม่ที่จำหน่ายอย่างเป็นกิจจะลักษณะ มีตู้แช่ป๊อปคอร์นอย่างดี  พร้อมจำหน่ายป๊อปคอร์น 5 รสชาติ ทั้งรสชาติซิกเนเจอร์อย่าง Chesse Corn Caramel Crips และ Chicago Mix ที่รวมทั้ง 2 รสชาติไว้ด้วยกัน แบ่งขายเป็นไซส์ S ราคา 220 บาท ไซส์ M ราคา 300 บาท และไซส์ L ราคา 350 บาท รวมทั้งรสชาติสุดพิเศษอย่าง Macadamia Caramel Crisp และ Almond Caramel Crips แบ่งขายเป็นไซส์ S ราคา 320 บาท ไซส์ M ราคา 450 บาท และไซส์ L ราคา 500 บาท

กาเร็ตต์ป๊อปคอร์นที่เก็บไว้ในตู้แช่อย่างดี มีให้เลือกทุกไซส์ ไซส์ M ราคา 300-450 บาท และไซส์ L ราคา 350-500 บาท
เห็นหน้าร้านแบบนี้ แวะเข้าไปได้เลย

ท่านใดมีร้านขนมที่น่าสนใจ แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที

Relate Posts :