ไปปายมา…..
หยุดไปเติมพลังที่ปาย แม่ฮ่องสอน ต้นหน้าหนาว นัดเพื่อนรุ่นน้องไปสองคน เริ่มต้นจาก เมืองเชียงใหม่ออกเส้นแม่มาลัยขับรถไปถนนลื่นเป็นระยะ ต้องใช้เกียร์ต่ำเวลาลงเขา ระหว่างทางเจอรถจอดเสียเป็นพัก ๆยิ่งรถตู้บรรทุกคนสัก 8 คน ต้องลงเข็นกันเลยนะครับ ถึง โป่งเดือด เอาเกือบบ่ายสามโมง ลงไปแช่น้ำพุร้อน เห็นญี่ปุ่นแก้ผ้าอาบน้ำอยู่หลายคน เรากลับอายแค่ ถกขากางเกง ลงไปเดินจุ่ม ๆน้ำร้อนแสบผิวดี แต่สักพักเดียวร่างกายปรับตัวได้ก้อจะชินกับความร้อน เอ้อระเหยอยู่นาน เห็นน้องชวน ไปต่อดีกว่า เลย รีบเดินกลับออกมา ระหว่างทางเดินสวนกับหญิงสาวกลุ่ม 1 ประมาณ 5 คนสวยกันทั้งนั้นผิวพรรณดี ใส่ผ้าพันคอซะสวยเลย มีอยู่คนหนึ่งผิวขาวและมีลักยิ้มที่แก้มด้วยน่ารักดี อู๋น้องเราบอก ผมเหมือนหมาเห่าเครื่องบินเลยเนี้ยะ
ขับมาไม่นานก้อเห็นป้าย จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวย ที่สุดเลย ขึ้นไปชมวิวที่ ห้วยน้ำดัง อากาศตอนสี่โมงกว่า หนาวเหลือเกิน เลยแวะหากาแฟสดดื่มตรงจุดชมวิว อยากเข้าห้องน้ำเดินไปดูลองแตะดูน้ำในห้องน้ำ ขอโทษ ยังกะแช่น้ำแข็งไว้ เย็นเจี๊ยบเลยเปลี่ยนใจไม่เข้าเดินกลับมาเหลือเชื่อ เห็นกลุ่มสาว ๆตรงมาซื้อกาแฟเหมือนกัน แสดงว่าเธอแค่แวะดูโป่งเดือดเฉยๆ ไม่ได้แช่น้ำพุเหมือนเราแอบยิ้มให้น้องลักยิ้มแก้มสวย เธอก้อยิ้มตอบ สาวห้าคนกับกาแฟห้าแก้ว ผมรีบบอกให้น้องๆซื้อขนมไปเลี้ยง น้องๆส่ายหน้าเขินบอกพี่เป็นทัพหน้าก่อนเลย ไปก่อนซิ ผมหัวเราะไอ้พวกนี้ ให้เรานำทัพหลวงออกก่อนตลอด เอาวะนาน ๆจะมีพลังทักสาว ๆกลางวันสักทีหน้าแตกคงไม่เป็นไร ผมซื้อขนมไปเกือบสองร้อย หอบไปแล้ว ตรงดุ่ม ๆไปที่โต๊ะ รีบทักทันที
” สวัสดีครับ ผมเอาขนมมาขายครับ” พูดพร้อมอุ้มขนมยื่นให้กลางโต๊ะพวกเธอ สาว ๆในกลุ่ม ยิ้ม ท่าทางเป็นมิตร บอก”เพิ่งเจอพวกพี่ ที่น้ำพุร้อนนี่คะ “ผมเลยหัวเราะแหะ ๆบอก ” ขายถุงละบาทเท่านั้นครับ” ตาแอบสบตากับสาวแก้วบุ๋ม เพื่อนเธอสวนมาคำหนึ่ง” ทำไมไม่ให้ฟรีละคะ “ผมรีบบอก” เอาเหรียญบาทไว้โทรหา ครับ”รีบวางขนมบนโต๊ะสาวๆแล้วรีบบอก “ขอให้เจริญขนม นะครับ ” พวกเธอพากันหัวเราะ ผมรีบถอยหลังกลับมา น้องยกนิ้วให้ผมรีบบอก ใจเต้นยิ่งกว่าอะไรอีกมึง มามะ ยก กาแฟชนซะหน่อย ๆ อากาศหนาวเข้าไส้ ต้องรีบไปเดี่ยวถึงปาย
มืดเกินไปหาที่พักยาก ผมบอกน้องสองคนให้ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านโต๊ะสาว ๆ เห็นขนมยังอยู่ครบ เลยร้องบอก” ฮ้าว ทำไม ไม่ทานขนมครับ ” สาวอีกคนบอก” เก็บไว้เป็นเสบียงคะ ไปไหน คะนั่น ” ไปปายครับ” น้องอู๋เพื่อนผมรีบตอบ ” เหมือนกันเลยคะกำลังจะไปปาย” หนึ่งในนั้นคุยอารมณ์ ดี ผมรีบแทรก ” ไม่รีบไปเดี่ยวมืดนะครับ ถนนลื่นอันตรายมาจากไหนกันครับ” ” กรุงเทพ คะ” คนเดิมเธอบอกอีก โอ้โห สาวห้า คน ขับแจ๊สป้ายแดง จากกรุงเทพ มาปาย ใจถึง จริง ๆ ” งั้นเจอกันที่ปาย นะครับ” ผมลา สาวแก้มบุ๋มไม่พูดอะไรเลยได้แต่แอบอมยิ้ม มองผมเหมือนผมเคยเห็น ที่ไหนมาก่อนบอกไม่ถูก เห็นมือเขี่ย ช้อนกาแฟคนเล่น เคยเป็นไหม เจอใครครั้งแรกแล้ว คุ้น ๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนนึกไม่ออก ความรู้สึก อย่างเดียวกัน กำลังเกิดขึ้น เคยเจอที่ไหนนะ ผมสตารท์รถมาสด้า 3 มุ่งหน้าสู่อำเภอปาย …. กำลังจะไปปาย
ผมถึงปายเอาก้อมืดแล้ว ได้ที่พักที่สวนหม่อนรีสอร์ท ด้านหลังเป็นสนามบินเล็กๆ เอาสัมภาระเข้าห้องพัก ได้ห้องในราคา 500 บาท ดูดีและคลาสิคมาก อาบน้ำก่อนน้ำเย็นที่สุด เพิ่ง ต้นพฤศจิกาหนาวซะแล้ว มาปีที่แล้วเที่ยงหมอกยังไม่จาง เลย อู๋กับชัยหายไปจากห้องแล้ว บอกขอไปดวลเหล้าข้าวโพดกับเจ้าของรีสอรท์ก่อนเมื่อกี้เห็นคุยกันออกรส บอกให้พี่อาบก่อนเดี่ยวร่างกายอุ่น ๆจะมาอาบทีหลัง ผมพยักหน้า พอทำธุระเสร็จแต่งตัวหล่อพร้อมจะลุยตลาดเมืองปาย
ไปเรียกสมาชิกมาอาบน้ำ เจ้าอู๋รีบบอก ” ได้ที่แล้วพี่ล้างหน้าอย่างเดียวก้อพอ” หายไปสักพักเดียวสองคนก้อฉีดน้ำหอมกรุ่นมาผมเปลี่ยนให้ชัยขับเพื่อค่อย ๆบอกเส้นทางผมบอกก่อนเมาไปถ่ายรูป ตรงสะพานปายหน่อยไหม เลยเลี้ยวซ้ายไปทางบ้านออนเหนือ สามนาทีก้อถึง น้ำปายขุ่นขวัก แสงไฟสะท้อนป้าย เด่นชัดตั้งกล้องถ่ายเป็นที่สนุกสนาน แล้วมุ่งหน้าวกกลับมาเดินตลาดหาอะไรกินรองท้องก่อนก้อ เจอร้านฮิต กับข้าวเมืองป้าเฮือนสี่แยกปายหนาว คนเต็ม นั่งรอสั่ง เลยหยิบข้าวคั้นชิ้นมาทานก่อนเพราะเมนูปกติลุงบอกนานนะ คนอื่น ๆอาจไม่รู้แต่ผมเคยมา นานของลุงแปลว่า นานแม้ว คือนานมากๆๆ
อู๋ทนหิวไม่ไหว กับข้าวสามอย่างยังไม่มา มันออกไปซื้อลูกชิ้นรถเข็น มาทิ้งบนโต๊ะ 10 ไม้ ผมกัดไปคำ อยากคายออกทันที แป้งเต็ม ๆเหลือแต่วิญญาณเนื้อลูกชิ้น วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ อู๋สังเบียร์มากิน ผมเอาด้วย พอเริ่มทานเบียร์ คุยกันรอกับข้าว อู๋สะกิดบอกเจอสาว กลุ่มเดิม “กำลังเดินเข้าร้านมาพี่ ” ผมกับชัยหันตามพวกเธอกำลังหาที่นั่ง อู๋บอก” พี่ …ต่อโต๊ะรอ”
เหล้าข้าวโพดแท้ ๆ สั่งให้มันผลุนผลันถลาไปเชื้อเชิญสาวๆไม่รู้มันเล่นของอีท่าไหน พวกเธอกำลังเดินมาตามหลังมันซะด้วย ผมต่อโต๊ะกับชัย แล้วร้องสั่งน้ำเพิ่มอู๋นั่งหัวโต๊ะเปิดฉากแนะนำตัวทันที รู้ชื่อ เธอทั้งห้า น้องมิ้น น้องนาย น้องปิ่น น้องเกด และสาวแก้มบุ๋ม น้องเล็ก
คุยกันได้ความว่ามาจาก มหาลัยรังสิต อยู่ปีสาม อยู่ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ อะไรสักอย่างฟังไม่ถนัด ชอบเพลงสกาและเร็กเก๊มาตามหาผับเร็กเก๊ชื่อดังเมืองปาย ชื่อบีบ๊อบ ตามเว๊ปไซด์พึ่งเคยมาเป็นครั้งแรก น้องมิ้นคุยเก่งที่สุด เป็นธรรมชาติผมเธอถักมัดเปียแบบฝรั่งตามชายหาด น้องนายตากลมใส่แว่น ดูมีน้ำมีนวลที่สุด น้องปิ่นก้อสูงโปร่งขาวผมยาวใส่เสื้อกันหนาวไหมผมมาด้วย น้องเกดผมสั้นจำกำไลเธอได้อย่างเดียว ใส่มาเต็มข้อมือ ส่วนน้องเล็กดูเรียบร้อยยิ้มเก่งพูดน้อยที่สุดในกลุ่ม ทุกคนแซวว่าเป็นหญิงเล็ก
ผมเลื่อนเมนูแนะนำอาหารเหนือ และรวบรัดว่า ” ขอให้สั่งครั้งเดียวนะครับ เพราะร้านนี้ นานแม้วจริง ๆ ป้าทำลุงเสริฟมีเด็กรับออเดอร์ 1 คน ต้องทวนอาหารเสียงดัง ๆเพราะเธอจะเอียงหู ถาม” อะไรนะคะ” เป็นภาษาดอย อาหารสามอย่างมาก่อน ข้าว 1 โถ อู๋ บริการข้าวสาว ๆ ชัยรินน้ำตามที่อู๋สั่ง ผมบอกให้สาว ๆทานก่อนได้เลย เพราะผมกินเบียร์แล้ว รอได้
น้องมิ้นบอก เอาเบียร์ด้วย อู๋ รีบบริการ ผมถามที่ถึงพักน้องเล็ก เธอตอบว่าพักที่ เบวล์วิวล่า ผมบอกแพงไหม เธอบอก 12,000 พักเป็นหลัง 5 คน ผมบอกรีบไปคืนห้องได้ไหม ผมพัก 500 สามคนเองมีน้ำอุ่นด้วย เธอบอกจริงเหรอ มิ้นสวนมา”ห้องจี้งหรีด หรือเปล่า” อู๋บอก” เปล่าเจ๊ ห้องแมลงสาบครับ” ทุกคนหัวเราะเริ่มทานอาหาร มิตรภาพ กำลังเริ่มขึ้น ชัยก้มหน้างุด ๆขี้อาย อู๋ เริ่มหน้าแดง มิ้นก้อพอกัน คุยกันเฮฮา น้องนายถามผับเร๊กเก๊ไปทางไหน สนุกหรือเปล่า ผมบอก ” ตอนนี้ เพิ่ง สองทุ่มกว่า ไปร้านบัพฟาโล่่ก่อนดีกว่า จะพาควายไปส่ง ” ไอ้อู๋รู้ตัว ตอบมา ” ใช่พี่ กำลังหิวหญ้าพอดี ” ทุกคนหัวเราะครืน น้องปิ่น บอกซื้อเสื้อสกรีน ปาย ได้ที่ไหน ผมบอกทานข้าวเสร็จ เดินซื้อของก่อนแล้ว ค่อยไปเที่ยวผับบัพฟาโล่กัน ใกล้ๆเที่ยงคืน ค่อยไปบีบ๊อบร้านเรีกเก๊ชื่อดัง ทุกคนตกลง เห็นด้วย เล็กถามผม ว่าพี่มาบ่อยเหรอคะ ผมบอกมาทุกครั้งที่อ่อนล้ามาชาจร์แบตนะ เธอยิ้มให้บอกครั้งแรกในชีวิตเลย หนีแม่ออกจากบ้านมาไกลที่สุด ผมถามแล้วโทรบอกหรือยัง เธอบอกแม่โทรมาเช็คตั้งแต่ มาถึงแล้ว ผมยิ้มน้อย ๆ อาหารอร่อยขึ้นอีกเยอะเลย เผลอหน่อยเดียว อู๋เป็นสุภาพบุรุษ ไปส่งน้องมิ้นเข้าห้องน้ำซะแล้ว ไฮนีเก้นท่าจะออกฤทธิ์ หรือเพราะเหล้าข้าวโพดกันแน่ …..