พาไปชิมร้านอาหารสไตล์อเมริกันที่ร้าน The Duke’s Restaurant

info. สาขา 1 ไนท์บาซาร์ สาขา 2 ตรงข้ามริมน้ำปิง
เวลาให้บริการ 11.00-23.00 น

ไม่ได้เขียนเรื่องของตัวเองซะนาน วันนี้มีโอกาสเลยขอสักหน่อย สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้เองผมมีนัดทานอาหารกับลูกค้าผู้น่ารักท่านหนึ่ง ซึ่งแกก็ใจดี มีจิตกุศล ขออาสาพาตัวผมไปทานร้านอาหารสไตล์อเมริกัน ที่มีชื่อร้าน ว่า The Duke’s Restaurant โลเคชั่นคือ ตรงข้ามริมแม่น้ำปิง เส้นทางก็หาไม่ยากครับ คือ เมื่อลงสะพานนวรัฐมา ก็ให้เลี้ยวขวาไป ตรงไปเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ หน้าร้านสีเขียว หาไม่ยาก

โดยร้านนี้ผมได้ยินชื่อเสียงมานานมากครับ ขับรถผ่านไปมาแถวนี้ก็ออกบ่อย แต่ไม่เคยมีโอกาสมารับประทานแบบจริงจังเสียที สรรพคุณทีเด็ดของร้านนี้ที่เล่าลือกันก็คือ “มันใหญ่มาก” เพราะเมนูของร้านนี้แต่ละอย่างไม่มีจัดมาให้แบบหยุมหยิม กลัวเสียดายของกันเลย เรียกว่าจัดหนัก จัดเต็ม คำใหญ่ทุกจาน ทุกชิ้น… ว่าแล้วก็ลองสั่งมาลองกันเลยดีกว่าครับ

ก่อนเมนูที่สั่งไป จะมาเสริ์ฟ เขาจะยกขนมปังฟอคคาชาหนานุ่ม มาเสิร์ฟรองท้องให้เราก่อน ขนมปังจะออกแนวนุ่มๆ แต่ตรงขอบจะแข็งหน่อย ปาดเนยที่เตรียมมาหน่อย อร่อยใช่ได้ครับ ดูจากความใหญ่ของขนมปังแล้ว แค่จานแรกก็รู้สึกเริ่มแน่นท้องแล้วฮะ


อันนี้เป็นเมนูแรกครับ มันคือ บาบีคิว ซี่โครงหมู หรือ Bone Ribs Half Rack  สนนราคาอยู่ที่จานละประมาณ 300-400 กว่าบาท ผมจำไม่ค่อยได้พราะไม่ได้จ่ายเงินเอง จานนี้เสริ์ฟมาคู่กับสลัดโคลสลอว์และขนมที่หน้าตาเหมือนขนมหม้อแกง ทีเด็ดจานนี้อยู่ที่เนื้อซี่โครงชิ้นมหึมา ทั้งๆที่สั่งมาแบบครึ่งเดียว

ขอบอกไว้เลยครับ เห็นชิ้นใหญ่ๆแบบนี้ขอบอกว่ากระดูกเล็กนิดเดียว เนื้อล้วนๆที่ลูกค้าได้กินอิ่มเต็มคำแน่นอน อีกทั้งเนื้อติดซี่โครงร้านนี้นิ่มยุ่ยมากก ไม่มีเหนียวใช้แค่ส้อมอันเดียวก็สามารถถลกเนื้อมาซัดเข้าปากได้อย่างอเร็ดอร่อยรับประกันความคุ้มค่าครับ ราคานี้ไม่ได้เห็นในซิสเลอร์แน่นอน ข้อเสียมีอย่างเดียวคือมันจืด ใส่ซอสมะเขือเทศลงไปก็ยังไม่ได้ดีกรี ต้องโรยเกลือไปนิดหน่อย อร่อยแน่ครับ

จานที่2 เป็นสเต็กเนื้อเซอร์ลอยครับ เขียนติดเมนูว่า sirloin rump  เป็นเนื้อที่อยู่ระหว่างส่วนขาหลังและเนื้อส่วนล่าง ผมสั่งมาแบบ medium คือสุกปานกลาง ส่วนน้ำราดมีให้เลือก 4แบบตามใจชอบ รสชาติของเนื้อนุ่มหวานใช้ได้ครับ เสียอย่างเดียวมันจืดมาก(อีกแล้ว) ซอส มัสตาร์ด เพิ่มรสชาติยังไงก็ยังจืดอยู่ //จานนี้เสริ์ฟมาพร้อมสลัด สามารถเลือกน้ำได้ตามใจชอบครับ ราคาเมนูนี้มีให้เลือกตามขนาดสเต็กส์ครับ ของผมขนาดเล็ก ราคาจะอยู่ที่ 495 บาท


เมนูสุดท้ายเป็นแซนวิซทูน่ากินคู่กับสลัดผักขมครับ แซนวิซผมได้ชิมนิดเดียว ยังไม่ถึงรสที่จะสาธยายได้เท่าไหร่ แต่ผักขมร้านนี้ ขมสมชื่อครับ เรียกว่าขมปี๋เลยทีเดียว ไม่เหมือนผักขมบ้านเราออกหวานๆหน่อย

บรรยากาศภายในร้านออกแนวมืดสลัวครับ ผมไปตอนกลางวัน มีสามโซน คือ ด้านนอก ด้านใน และด้านในฝั่งขวามืออีกที
ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 11.00 – 23.00 น. มีสองสาขาคือ ไนท์บาร์ซ่า กับ ตรงข้ามริมน้ำปิงครับ โดยรวมอาหารร้านนี้นอกจากความมหึมา บวกกับปริมาณที่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย ในส่วนของรสชาติถือว่าใช้ได้เลยครับ เสียอย่างเดียวในส่วนของจำพวกสเต็ก ต่อมรับรสของผมบอกว่าจืดไปหน่อย อาจไม่ถูกปากคนไทยบางคน แต่มั่นใจว่ารับรองถูกจริตชาวต่างชาติแน่นอน อีกทั้งไปสืบทราบมาว่าเจ้าของเป็นคนต่างชาติ รสชาติเป็นออริจินัลหายห่วงแน่นอน ใครมีเพื่อนฝูงเป็นชาวต่างชาติแนะนำให้พาไปลองได้ไม่เสียหาย เงินไม่หล่น ยิ่งถ้าเทียบกับราคาอาหารพวกนี้บนห้างถือว่าถูกกว่า และอร่อยกว่าแน่นอนครับ

ป.ล. เมนูร้านนี้เป็นภาษาอังกฤษหมดครับ ถ้าเผลอไป แล้วอ่านไม่ออกก็ถามพนักงานได้ครับ

ป.ล. 2 เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้เป็นจำพวกพิซซ่าครับ เที่ยวนี้ที่ผมไป ไม่มีโอกาสได้ลอง ถ้าใครมีโอกาสแวะไปก็มาบอกเล่ารสชาติกันให้ฟังด้วยนะครับ^^

Relate Posts :