จะพาทุกท่านไปนั่งชิวริมคูเมืองกันที่ร้าน “Mixology Burger Bar” ครับ หลายๆคนอาจจะเคยผ่านแต่ไม่รู้ว่านี่คือ เป็นร้านอะไร เค้าขายอะไร ราคาเท่าไรทำไมต้อง Burger Bar เก็บคำถามเหล่านั้นไว้ในใจ แล้วเดี๋ยวผมจะพาทุกๆ คนมาไขข้อสงสัยกันถึงที่ร้านเลยทีเดียว เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านก็จะพบกับป้ายร้านขนาดใหญ่ทำจากเหล็กทั้งดุ้นพร้อมตีตราประทับว่า “MIXOLOGY” พอเข้ามาภายในร้านจะพบกับสไตล์การแต่งร้านที่เราอาจจะไม่คุ้นเคยกันซักเท่าไร เนื่องจากภายในร้านตกแต่งด้วย Loft Style ที่ดูออกจะดิบๆ (ใครที่ไม่รู้จักมีคำอธิบายตอนท้ายนะจ๊ะ) แต่ว่ากลับจัดวางสิ่งต่างๆ ได้อย่างลงตัวบวกกับ กลิ่นอาย และ บรรยากาศแบบบาร์ในเมืองผู้ดี พร้อมกับการต้องรับจากผู้คนภายในร้านและเจ้าจูเนียร์ หมาน้อย PR Manager ประจำร้านแห่งนี้ ที่นั่งภายในร้านก็มีให้เลือกในหลายแบบแล้วแต่ความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหลบมุม ที่นั่งส่วนตัวบนชั้นลอย หรือนั่งชมวิวของคูเมืองและความเคลื่อนไหวของเมืองเชียงใหม่
จากนั้นเราก็ได้มานั่งคุยกับ ‘พี่บี’ หนึ่งในจำนวนหุ้นส่วนทั้ง 4 คน โดยถามคำถามที่ผมสงสัยมากๆนั่นคือ ทำไมต้อง Mixology Burger Bar ที่ร้านขายเบอร์เกอร์ เป็นหลักเหรอครับ !!??ซึ่งทาง พี่บีก็ได้บอกกลับมาว่า “Mixology มันคือศัพท์ทาง Cocktail ทีหมายถึงศาสตร์แห่งการผสมผสานสิ่งต่างๆให้เข้ากัน ส่วนที่ใช้คำว่า Burger Bar นั้นก็เพราะ ทางร้านนี้มี เบอร์เกอร์เป็น Signature” นั่นเอง ส่วนสาเหตุที่มาเปิดร้านตรงนี้แต่ไม่เปิดที่นิมมานฯสถานที่ยอดฮิต นั่นก็เพราะแถวนั้นไม่ค่อยมีต้นไม้ และ ไม่ชอบความแออัดยัดเยียดของชีวิตย่านนิมมานฯ (เรื่องนี้ผมเห็นด้วยเต็มๆเลย)
หลังจากที่นั่งคุยกันอยู่ซักพักอาหารในแบบผสมผสานจานแรกก็มาเสริฟถึงโต๊ะ จานนี้มีชื่อว่า “Burgerลาบ” เป็นการผสมระหว่างอาหารไทยอย่าง ข้าวเหนียว และ ลาบ เข้ากับอาหารยุโรปนั่นคือเบอร์เกอร์นั่นเอง โดยสูตรของลาบนั้นเป็นสูตรที่ตกทอดมาจากคุณพ่อของพี่บีโดยตรงเลย ข้าวเหนียวร้อนๆ ประกบกันโดยมีใส้ตรงกลางเป็นลาบมาพร้อมกับแคบหมูติดมันเล็กน้อย กินเพลิน เคี้ยวมัน เลยล่ะครับ จานนี้
จานต่อมามีชื่อว่า “Calamari” ซึ่งเป็น หมึกกล้วยหั่นเป็นแว่นชิ้นพอดีคำ จากนั้นก็นำไปชุบแป้งที่ผสมกับเบียร์เพื่อให้ได้แป้งที่กรอบมากขึ้น จากนั้นก็ทอดจนกรอบได้ที่แล้วจึงค่อยนำมาเสด็จน้ำมัน ก่อนนำมาเสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน ขอบอกว่าฟินจ่ะ จานนี้
จานนี้ถือว่าเป็นอาหารฟิวชั่นที่น่าสนใจอีกจานเลยครับถ้าไม่บอกก็คงดูไม่ออกเลยว่านี่คือ “สปาเกตตี้น้ำพริกอ่อง” ที่เปลี่ยนจาก
สปาเกตตี้ราดซอสมะเขือเทศเข้มข้นในสไตล์อิตาเลี่ยน มาเป็นราดซอสมะเขือเทศที่รสชาติอ่อนโยนในสไตล์ล้านนา แต่แฝงไว้ด้วยความเข้มข้นของรสชาติ มาพร้อมกับแคบหมู ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียวครับกับการผสมผสานในจานนี้
มาถึงอาหารจานสุดท้ายครับ จานนี้บอกเลยว่า… เน้นๆ เนื้อๆ กับ “Crying Tiger Steak”
สเต็กเนื้อนุ่มย่างแบบ Medium ทำให้เนื้อสเต็กนั้นเคี้ยวนุ่ม ชุ่มฉ่ำ เสริฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว และ น้ำมันกระเทียม และผักเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะคาวนะครับจานนี้ ไม่คาวเลยซักนิด จริงๆนะ
หลังจากที่กินอาหารคาวกันมาเยอะแล้วคราวนี้เราก็มาถึงของเครื่องดื่มเพื่อเติมความสดชื่นกันบ้างแล้วล่ะครับ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันที่แก้วแรกกันเลยกับ “Lost In The Fruit Garden” เครื่องดื่มแก้วสีแดงแรงฤทธิ์ ที่ได้จากการผสม Berry หลากหลายชนิดทั้ง Strawberry, Raspberry, Blackberry เข้าด้วยกันแล้วค่อยตามด้วย Vodka ก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับแก้วนี้ครับ
แก้วต่อมามีชื่อว่า “Eden’s Bless” สำหรับ Cocktail แก้วนี้นั้นมีกลิ่นที่หอมมากครับเพราะว่ามีส่วนผสมของ CinnamonSyrup ที่ทางร้านนั้นทำเอง ผสมเข้ากับ Spirit จำพวก Whisky จึงทำให้มีสีเหลืองนวล ประดับแก้วด้วยแท่ง Cinnamon, Apple และ Mint แค่นี้ก็พร้อมเสริฟแล้วครับ
อย่าเพิ่งเมากันนะครับเพราะเรายังมีแก้วที่สาม มาแนะนำกันต่อ “Twilight Hamonica” นั่นคือชื่อของเครื่องดื่มแก้วนี้ที่มีพีช (Peach) วางเด่นอยู่บนปากแก้วพร้อมกับสมุนไพร Rose Mary ไม่พอแค่นั้นข้างในแก้ว ก็ยังมีเนื้อพีชแบบเต็มๆ ด้วย จึงทำให้ Cocktail แก้วนี้มอบความสดชื่นให้กับผู้ที่ดื่มเป็นอย่างมาก (ยิมมี่คอนเฟิร์มครับ ขนาดคนที่ไปด้วยกับผม เค้า Hang Over อยู่ยังดื่มได้สบายมากเลย ใช่มั้ย อีฟซี่ อิอิ)
ปิดท้ายกันด้วยแก้วs (ขออนุญาตเติม s เพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์นะครับ) นี้กันครับกับ “Pimm’s Lemonade” ที่มาแบบเป็นเหยือก (รู้รึยังว่าทำไมผมต้องเติม s ไว้ท้ายแก้ว) เครื่องดื่มสีทองที่ผสมผักและผลไม้ต่างๆไว้ อาทิ แตงกวา (Cucumber), Strawberry, Mint และ ส้ม เป็นต้น โดยเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในช่วงหน้าร้อนที่ประเทศอังกฤษ เพราะว่า ดื่มแล้วมันสดชื่น มว๊ากกกกกกกกกกกกกก!!
เอาละครับก็เสร็จสิ้นลงแล้วกับการรีวิวรอบหน้า ยิมมี่จะพาท่านผู้อ่านไปทัวร์ที่ไหนอีกโปรดรอติดตามได้ที่นี่นะครับ ถ้าใครอ่านแล้วชอบก็ “แชร์” รู้สึกยังไงก็ “คอมเมนท์” กันได้ตามสบายเลยครับส่วนถ้าใครอยากพูดคุยกันก็เข้ามาได้เลยที่หน้าเพจของเรา รีวิวเชียงใหม่ เรามีนายเจ๋งนั่งเฝ้าเพจรอคุยอยู่ครับผม
เกร็ดความรู้ จากยิมมี่
– Loft Style คือการตกแต่งบ้านหรือที่ทำงานโดยเน้นสี และ ความเป็นธรรมชาติของวัสดุ ที่นำมาสร้างอาคารอย่างแท้จริง เช่นการทำผนังปูนเปลือย หรือ กำแพงอิฐล้วน โดยการแต่งบ้านในสไตล์นี้เกิดขึ้นครั้งแรกประมาณปี ค.ศ. 1950 โดยการนำเอาการแต่งบ้านแบบโมเดิร์นมาผสมกับอารมณ์แบบโรงงาน จนได้ออกมาเป็นสไตล์ที่ดู เรียบแต่เท่
– Pimm’s เป็นชื่อของผลิตภัณฑ์ประเภท Liqueur ในประเทศอังกฤษ มีด้วยกัน 6 สูตรคือ Pimm’s No. 1 Cup – Pimm’s No. 6 Cup แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงสูตรเบอร์ 1, 3 และ 6
ชี้แจงลายแทง โดย ยิมมี่ หมีหลังกล้อง
- Info: Mixology Chiangmai Burger & Bar
- Address: คูเมืองด้านใน เยื้องโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ข้างร้านหมูกระทะลำฮิมคือ
- Contact: โทร. 088 261 3057 , 083 070 6190
- Facebook: Mixology Chiangmai Burger
- เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15.00 – 00.00 น.
View Mixology Burger Bar in a larger map
Burger bar Mixology Mixology เชียงใหม่ คูเมืองเชียงใหม่ ที่กินเหล้าเชียงใหม่ มิกซ์โซโลจี ร้านดังเชียงใหม่ ร้านอาหารฟิวชั่น ร้านเหล้า ร้านเหล้าเชียงใหม่ ร้านเหล้าเด็กแนว รีวิวที่กินเชียงใหม่ รีวิวร้านอาหารอร่อยๆเชียงใหม่ รีวิวร้านเหล้าเชียงใหม่ เบอร์เกอร์บาร์