ตลาด หรือ กาด แหล่งรวมสินค้ามากมายทั้งเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ อาหารสำเร็จรูป ขนม ฯลฯ ที่สำคัญยังเป็นแหล่งชุมชนที่เราสามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี กาดในเชียงใหม่มีหลากหลายทั้งกาดขายของฝากที่กาดหลวง กาดต้นพยอม หรือของสดที่กาดเมืองใหม่ กาดสมเพชร ฯลฯ แต่กาดที่เราจะพาไปรู้จักวันนี้ มีถึง 3 สัญชาติทั้งไทย จีนยูนาน และไทยใหญ่ มีอะไรน่าสนใจ จะแปลกแตกต่างจากกาดอื่นตรงไหน ตามไปดูพร้อมๆกัน
1. กาดบ้านฮ่อ ถนนฮาลาลเชียงใหม่
ที่ตั้ง : ถนนเจริญประเทศ ซอย 1 ตลาดไนท์บาซาร์
เวลาเปิดปิด: วันศุกร์ 06.00-12.00 น.
กาดฮ่อ ชื่อคุ้นหูของคนเชียงใหม่ กาดที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอาหารการกินแตกต่างจากกาดทั่วไป ที่นี่เป็นตลาดเล็กๆของชาวจีนฮ่อที่อพยพมาอยู่ในไทยเมื่อราวปี พ.ศ.2490 “ชาวฮ่อ” หรือ “ชาวจีนยูนาน” คือชาวจีนที่อาศัยอยู่ในมณฑล ยูนนาน ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีอาณาเขตติดต่อกับรัฐฉานของพม่า อยู่ไม่ไกลจากชายแดนด้านเหนือสุดของประเทศไทย
กาดแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เกิดจากความคิดของ “โกต้อม” นายกวินธร วงศ์ลือเกียรติ หลานของท่านขุนชวง เหรียง วงศ์ฤๅเกียรติ เจ้าของบ้าน เฮือนหลวง หรือ บ้านหลวง ที่ตั้งอยู่ด้านหน้ามัสยิดเฮดายาตูลอิสลามบ้านฮ่อ ด้วยความที่ทุกวันศุกร์พี่น้องชาวมุสลิมจะเข้ามาประกอบพิธีทางศาสนาที่มัสยิดแห่งนี้ โกต้อมจึงเปิดบริเวณนี้เป็นตลาดเล็กๆเพื่อให้แม่ค้าพ่อค้าได้มีรายได้
สินค้าส่วนใหญ่เป็นอาหารของจีนฮ่อที่หาได้ยากในเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นไก่ดำ เนื้อน้ำค้าง “เนื้อน้ำค้าง เกิดจากวิธีถนอมอาหารในฤดูหนาว ด้วยการเนื้อหมักและการนวดมือด้วยเกลือ เพื่อให้ความเค็มซึมเข้าไปในเนื้อ แล้วจึงนำเนื้อที่หมักไปชักรอกไว้บนเสาสูง เพื่อให้เนื้อได้รับน้ำค้างเวลากลางคืน แล้วก็รับแสงแดดในเวลากลางวัน ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะได้เนื้อน้ำค้างที่ดี ราคากิโลกรัมละ 550 บาท” พี่ซิวลี่ เจ้าของร้านกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
โมหิงงะหรือข้าวฟืน อาหารยอดฮิตที่ใครมาถึงแล้วไม่ลองชิมถือว่ายังมาไม่ถึง มี 2 เมนูให้เลือกคือ ข้าวฟืนร้อนและเย็น แบบเย็นจะเสิร์ฟพร้อมน้ำยำรสกลมกล่อม ส่วนแบบร้อนจะราดด้วยน้ำซุป สีขาวทำจากข้าว สีเหลืองทำจากถั่วลันเตา เสิร์ฟพร้อมผักดองคล้ายกิมจิ รสชาติเปรี้ยวหวานนิดหน่อยอร่อยลงตัว ราคาชุดละ 30 บาท เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด
ผักดอง เต้าหู้ดอง อาหารประจำบ้านของคนจีนฮ่อ “ที่จริงอาหารชนิดนี้มันเริ่มมีตอนที่เราหนีสงคราม เพราะกินง่าย เก็บไว้ได้นาน นำไปทำกับข้าวหรือคลุกกับข้าวฟืนก็อร่อย สูตรของป้าจะเป็นสูตรต้นตำรับดองข้ามปีถึงจะนำมาขายได้ ไม่งั้นไม่ได้รสชาติ เราไม่อยากเอาเปรียบลูกค้า ราคากิโลละ 100-120 บาทแล้วแต่ชนิดผัก” ป้าฟ่งกล่าวพร้อมกุลีกุจอรีบตักผักให้ลูกค้าหลายคนที่ยืนรออยู่
ข้าวปุกงา ข้าวเหนียวดำตำกับงาดำเติมเกลือเล็กน้อย ทำเป็นแผ่นกลม ทาน้ำมัน นำมาย่างไฟจนพองหอม เติมความหวานด้วยน้ำอ้อย ราคาแผ่นละ 10-20 บาท
นอกจากนี้ยังมีผักและผลไม้สดราคาถูกจากแม่ค้าชาวมุสลิมบนดอย ทั้งจากดอยอ่างขาง เชียงดาว แม่แจ่ม ดอยสะเก็ด ฯลฯ ที่ต่างหอบหิ้วผลิตผลจากไร่ของตัวเองมาขายตั้งแต่เช้ามืด ทั้งฟักทอง อะโวคาโด เกาลัด ลูกพลับ ผักกาด ถั่ว มะเขือ ฯลฯ ในราคาเริ่มต้นเพียง 20-30 บาท ใครที่อยากสัมผัสกลิ่นอายของชาวจีนฮ่อ ชาวพม่า ทั้งภาษา วัฒนธรรมและวิถีชีวิตสามารถแวะมาเที่ยวกันได้ทุกวันศุกร์ 06.00-12.-00 น.
2. กาดนัดวัดตองกาย แม่เหียะ
ที่ตั้ง : ถนนคันคลองชลประทาน ใกล้กับทางเข้าอุทยานหลวงราชพฤกษ์
เวลาเปิดปิด : วันจันทร์-พุธ-ศุกร์ เวลา 15.00-19.00 น.
กาดนัดวัดตองกาย กาดที่ยังคงดำรงชีวิตแบบวิถีชาวบ้านมานานกว่า 20 ปี กาดนัดแห่งนี้มีสินค้ามากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของป่าหายากอย่างเนื้อสัตว์ป่า (ไม่มีมาขายประจำ เพราะแล้วแต่ว่าจะหามาได้หรือไม่) เห็ดป่า ผักผลไม้พื้นบ้าน ฯลฯ ทั้งหมดขายในราคาชาวบ้าน เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่กาดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านละแวกนี้แทบทั้งนั้น ดังนั้น เสน่ห์ของกาดนี้จึงอยู่ที่การได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนเมืองแถบรอบนอก(ชานเมือง) รวมทั้งการพูดคุยทักทายของพ่อค้าแม่ค้าแบบเป็นกันเองที่หาได้ยากในปัจจุบัน
3. ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษอาหารปลอดภัย
ที่ตั้ง: บริเวณกาดโก้งโค้ง คณะเกษตรศาสตร์ มช.และไร่แม่เหียะ
เวลาเปิดปิด: วันพุธ เวลา 06.00-14.00 น.บริเวณกาดโก้งโค้ง คณะเกษตรศาสตร์ มช. และทุกวันเสาร์ที่ไร่แม่เหียะ เวลา 07.00-14.00 น.
ท่านใดที่อยากสัมผัสตลาดวิถีชาวบ้านหรืออยากซื้อของแปลกของป่า ก็ตามลายแทงเจ๋งไปได้ และหากมีกาดของแปลกที่น่าสนใจก็แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ
เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที