ตลาดบ้านท่อ
พิกัด : 208 ซอย ป่าตัน ตำบล สันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50300 อยู่ใกล้กับโลตัสเอ็กซ์เพรส
เวลาเปิด-ปิด : ช่วงเช้าจนถึง 23.00 น.
ตลาดศูนย์กลางการค้าขาย จับจ่าย ของกินหลากหลายทั้งจากนอกและในพื้นถิ่น ความพลุกพล่าน จอแจ คละเคล้าความหลากหลายของวิถีชีวิตคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง ซึ่งมีรูปแบบเอกลักษณ์แตกต่างกันตามวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นชุมชน ทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตาของอาหาร แม้ว่าปัจจุบันความเจริญและความสะดวกหลายอย่างมีพร้อมส่งตรงถึงหน้าบ้าน แต่มนต์เสน่ห์ของตลาดในแต่ละชุมชนก็ยังคงมิจางหาย ยังคงสืบต่อกันรุ่นต่อรุ่น ดำเนินไปตามกาลเวลาที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้าและคงไว้เรื่องราวในอดีตให้นึกถึง
ชุมชนวัดบ้านท่อ ในเขตตำบลป่าตัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก สภาพการจราจรในช่วงเวลาเช้าและเย็น บริเวณสี่แยกตลาดบ้านท่อจะหนาแน่น เป็นภาพคุ้นตาของผู้คนในละแวก รวมทั้งผู้สัญจรผ่านไปมาทุกเช้าเย็น เนื่องจากซอยป่าตันเป็นซอยยาววิ่งขนานเลียบฝั่งแม่น้ำปิงเชื่อมกันระหว่างถนนซุปเปอร์ไฮเวย์กับถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี สามารถไปทะลุโผล่ได้หลายที่และมีร้านอาหารริมน้ำชื่อดังหลายร้าน รวมถึงผู้คนจากหลายพื้นที่ที่เข้ามาอยู่อาศัยในละแวกชุมชน
ที่ดินของตลาดเป็นที่ดินของวัดบ้านท่อซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามติดกัน เดิมบริเวณนี้เป็นที่ดินเปล่าสภาพเป็นดินแดง ลาดลงแม่น้ำปิง ยังไม่มีสะพาน (สะพานนวมินทราธิราช) เชื่อมโยงระหว่างชุมชนบ้านท่อกับบ้านท่าเดื่อและบ้านท่าหลุก (ตำบลสันผีเสื้อ) การค้าขายและการคมนาคมในช่วงนั้นต้องอาศัยเรือแจวข้ามแม่น้ำปิง บริเวณฝั่งบ้านท่อยังไม่มีตลาด ชาวบ้านจึงต้องพายเรือข้ามไปจ่ายตลาดฝั่งสันผีเสื้อ ผู้คนที่มาจับจ่ายเป็นคนในละแวกสองฝั่งแม่น้ำ ก่อนที่ยุคสมัยจะผ่านไปและความเจริญเริ่มเข้ามา จำนวนผู้คนจากหลายพื้นที่เพิ่มขึ้น บ้างมาจากต่างจังหวัด บ้างก็เป็นคนในท้องที่และจากต่างอำเภอของเชียงใหม่ อาชีพค้าขายก็เป็นอาชีพหลักที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นพ่อรุ่นแม่
พี่เก๋ แม่ค้าขายขนมหวาน เล่าว่า เมื่อก่อนที่แกจะมาขายขนมนั้น แกทำงานโรงแรมมาก่อน แต่หลังจากคุณแม่เสีย ท่านก็ได้ทิ้งอาชีพและฝีมือการทำขนมที่ทำมานานมากกว่า 20 ปี ไว้ให้พี่เก๋เดินรอยตาม พี่เก๋ทำขนมไทยได้หลายชนิด ในแต่ละวันจะมีขนมหลากหลายรวมกันถึง 30 อย่าง หน้าตาน่ารับประทาน ทั้งข้าวเหนียวถั่วดำ บัวลอยไข่หวาน ลอดช่องแตงไทย เต้าส่วน ถั่วเขียวต้มน้ำขิง และอื่นๆทำสลับกัน จากเดิมรุ่นแม่เมื่อหลายสิบปีก่อนขายถุงละ 5 บาท มา 7 บาท จนปัจจุบัน 10 บาท และยังคงมีกลุ่มลูกค้าเก่าๆ ตั้งแต่สมัยรุ่นแม่แวะเวียนมาซื้อกันบ่อยๆ ขนมที่คนนิยมอย่าง เช่น ข้าวเหนียวถั่วดำ บัวลอย (หากเพิ่มไข่ราคา 15 บาท) จะหมดไวกว่าอย่างอื่น วันหนึ่งเตรียมกะทิมา 4 กก. พี่เก๋มาขายขนมที่นี่ได้ 5 ปีแล้ว ผมก็เป็นลูกค้าคนหนึ่งที่นิยมไปซื้อขนมร้านพี่เก๋ โดยเฉพาะบัวลอยไข่หวาน
ภายในตลาดมีทั้งอาหารแห้ง พริก น้ำปลา ไข่ อาหารคาวหวาน ผักสด โดยเฉพาะหมูสด ไก่สดและปลาจะจัดสรรแยกไปอยู่อีกโซนหนึ่ง เป็นโซนอนามัยอาหารหลักๆ ที่เห็นจะเป็นประเภทแกงถุง ปิ้ง ย่าง ทอด ต้ม นึ่งสารพัด ซึ่งแต่ละร้านก็มีหลากหลายเมนูอาหาร ทั้งอาหารพื้นเมืองอย่างลาบขม, แกงอ่อม, น้ำพริกหนุ่ม ข้าวนึ่ง ข้าวสวย หรือจะชุดผักต้มที่มัดเป็นชุดๆ ขายมัดละ 5 บาทเท่านั้น มีน้ำพริกหลายอย่างเช่นน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า ปลาทูทอด ไข่ชะอมก็มี
ป้าแอ แม่ค้าขายขนมจีบ ป้าแอเป็นคนป่าตัน ขายขนมจีบมาตั้งแต่ปี พศ 2540 เมื่อก่อนขนมจีบป้าแอมีหลายไส้ทั้งไส้กุ้ง ไส้ปูอัด แต่ลูกค้าบางรายกินแล้วแพ้ โดยเฉพาะไส้กุ้ง ป้าแอเลยเลิกทำเหลือไส้หมูอย่างเดียว ขนมจีบไส้หมูสับอัดก้อนเต็มคำมีส่วนผสมของแห้วชิ้นเล็กๆ 1 ชิ้นต่อลูกให้ได้เคี้ยวกรุบๆ เน้นที่คุณภาพและรสชาติลูกต่อลูก ส่วนลูกค้ามีหลากหลายอาชีพและส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการ ครูบา อาจารย์ บางส่วนนำไปทำบุญถวายพระ นอกจากขนมจีบแล้วก็ยังมีไข่นกกระทาครกขายควบคู่กัน “ปริมาณที่ทำในแต่ละวันแล้วแต่เวลามากน้อย ได้แค่ไหนแค่นั้น ใกล้ 3 โมง ปั้นได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ ขนมจีบนี่ป้าก็ไปเรียนมาแล้วเอามาปรับปรุงพัฒนาตามสูตรที่เราชอบและคนกินต้องชอบ บางทีก็มีลูกค้าติชมเรื่องรสชาติ ป้าก็เอามาปรับปรุงแก้ไข”
ระหว่างเดินสวนกับผู้คนหลากหลายวัยที่มาจับจ่ายในตลาดช่วงเวลาเย็น ในบางวันจะมีวงดนตรีคนตาบอดมาตั้งวงบรรเลงให้ตลาดยิ่งดูครื้นเครงถัดไปเป็นแผงสลัดบาร์หลากสีสันหน้าตายั่วยวนเชื้อเชิญให้เด็กที่ไม่ชอบกินผักเหลือบมองจนน้ำลายไหล เป็นเทคนิคจัดวางของพี่ยุทธเพื่อหลอกล่อให้เด็กสนใจ
“วารุณีสลัดบาร์” ชื่อของพี่ผู้หญิงภรรยาที่มีพี่ยุทธมาช่วยหั่นผัก ผลไม้ คอยเติมไม่ให้พร่อง ส่วนพี่วารุณีจะประจำหน้าร้าน ก่อนหน้านี้พี่ยุทธกับพี่ณีขายอาหารทอด หลังๆเริ่มมีปัญหากับสุขภาพตาจากไอน้ำมันที่ระเหย จึงเลิกและไปขายส้มตำ “ครกทอง” และระหว่างที่ขายส้มตำก็มีสลัดขายควบคู่กัน
พี่ยุทธ มาจากต่างอำเภอของเชียงใหม่ ย้ายมาอยู่ที่บ้านท่อนี้นานหลายปีแล้วตั้งแต่ที่ตลาดยังเป็นดินแดงผัก ผลไม้ และเม็ดธัญพืช หลากหลายชนิดและสีสันบนถาดบาร์หน้าร้าน จุดเด่นของร้านคือน้ำสลัดที่มีหลากรสและปรุงขึ้นตามสูตรเฉพาะร้านวารุณี มีคนมารับไปแยกบรรจุขาย น้ำสลัดรสใหม่ที่พี่ยุทธนำเสนอคือ Black Pepper – Oregano Cream มีกลิ่นหอมของใบออริกาโนลอยแตะจมูก ส่วนน้ำสลัดที่คนนิยมคือ ครีมข้นหวาน มีทั้งสูตรไขมันต่ำและรสอื่นๆเช่น ซีอิ๊วญี่ปุ่น งาดำ งาขาว ทาวซั่นไอส์แลนด์ก็มีให้เลือกตามความชอบของแต่ละคน ลูกค้าส่วนใหญ่มีทุกวัย แม้แต่เด็กก็มี พี่ยุทธอยากให้เด็กๆรับประทานผัก จึงจัดวางหน้าตา สีสันสลับกัน สีฉูดฉาดนั้นก็เป็นสีธรรมชาติของผัก ผลไม้แต่ละชนิด
บริเวณตลาดมีร้านอาหารตามสั่งอยู่สามสี่ร้าน แต่ละร้านก็มีสูตรและเสน่ห์ปลายจวักแตกต่างกันไป ลูกค้าถูกใจ ติดใจร้านไหนก็ไปฝากท้องเป็นลูกค้าประจำ ส่วนมากก็เป็นคนในพื้นทีและพนักงานที่มาทำงานในย่านนี้ มารับประทานในช่วงพักกลางวัน
พี่เพลิน อาหารตามสั่ง ร้านประจำที่ผมไปฝากท้องตลอดเวลา 7 เดือนที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ พี่เพลินเป็นคนขอนแก่น ก่อนย้ายไปอยู่กรุงเทพและมาตั้งหลักปักฐานที่นี่ร่วมสิบกว่าปี ความจริงร้านอื่นที่อร่อยๆ ในละแวกนี้ก็มีให้เลือกชิมหลายร้านที่นอกเหนือจากอาหารตามสั่ง แต่ผมมีนิสัย ติดแล้วติดเลย อีกอย่างพี่เพลินแกกันเองดี เวลาผมไปนั่งกินข้าวเลยรู้สึกไม่เกร็ง ถามอะไรแกก็ตอบ ราคาอาหารก็ไม่แพงมาก เมนูหนึ่งอยู่ที่ 30-40 บาท แล้วแต่ว่าลูกค้าจะสั่งอะไร ถ้าเป็นประเภททะเลก็แพงขึ้นมา แต่ไม่เกิน 50 บาท
ข้าวไข่เจียว ผัดกระเพราหมูสับ/หมูกรอบเป็นเมนูที่คนสั่งบ่อยที่สุด ผัดกระเพรานี่มีกลิ่นกระเพราฉุนโดดเตะจมูก เป็นสูตรต้นตำรับที่ไม่มีผักรวมกลบกลิ่นใบกระเพราะ ใครชอบเผ็ดก็กำชับแกได้ อยากใส่พริกเป็นเม็ดหรือเป็นกำ นอกจากนั้นผัดไทพี่เพลินนี่ก็เรียกว่ารสชาติถูกอกถูกใจเทียบเคียงผัดไทเจ้าดังๆได้เลย ผมอยากให้ฝรั่งหรือนักท่องเที่ยวมากิน แต่พี่เพลินบอก นักท่องเที่ยวเขาไม่ค่อยแวะ ผมสงสัยอาจเป็นเพราะร้านแกเล็กไปหรือเปล่า? ร้านมีโต๊ะเก้าอี้อยู่ 5 ชุดติดกัน นั่งกินกันอย่างใกล้ชิด ขนาดพี่เพลินเองยังยืนทำกับข้าวในมุมเล็กๆของร้าน ถึงพื้นที่ร้านจะไม่ใหญ่มาก แต่รสชาตินี่ผมอยากให้ลอง โดยเฉพาะผัดไท และถ้ามาช่วงที่แกวุ่นๆช่วงใกล้เที่ยงและเย็น (บางส่วนใส่กล่องกลับบ้าน) โปรดนั่งรอใจเย็นๆ พี่เพลินไม่ทำให้รอนาน ระหว่างนั่งรอ ก็ดูภาพบรรยากาศตลาด ผู้คน รถราเพลินๆ ที่ร้านเพลิน อาหารตามสั่ง
หกโมงตรงเสียงเคารพธงชาติ ผู้คนในตลาดและผู้ที่เดินสัญจรไปมาหยุดยืนนิ่ง ภาพบรรยากาศยามเย็นที่พลุกพล่านเดินข้ามทางม้าลาย สลับรถวิ่งเป็นระยะๆ ตลาดเย็นเริ่มวาย ภาพรถเข็นขายอาหารทยอยกันมาประจำที่ ในบริเวณลานโล่งหน้าวัด ฝั่งตรงข้ามกับตลาดบ้านท่อ เป็นตลาดกลางคืน มีร้านอาหารอยู่ประมาณสิบกว่าร้านเช่น ร้านข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ก๊วยเตี๋ยวเรือ ก๊วยเตี๋ยวเป็ด ยำต่างๆ อาหารตามสั่ง ขนมจีน ข้าวซอยไทยใหญ่ ขนมวง ลูกชิ้นทอด น้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ ขนมหวานและอื่นๆที่กล่าวไม่หมด ตลาดกลางคืนนี้เปิดตั้งแต่ช่วงค่ำไปจนถึงราวๆ 5 ทุ่ม ชีวิตของชาวชุมและภาพที่หมุนเวียนในทุกๆวัน สลับช่วงเวลาสับเปลี่ยนกะ เช้า สาย บ่าย เย็น ยันค่ำ เสมือนลมหายใจและเส้นเลือดใหญ่ของชาวชุมชนตลาดสดวัดบ้านท่อและชุมชนใกล้เคียง
ขอขอบคุณ
-พี่ยุทธและพี่ณี ร้านวารุณีสลัดบาร์
-พี่เก๋ ขนมไทย
-พี่เพลิน อาหารตามสั่ง
-ป้าแอ ขนมจีบ