โควิด 19 คร่าชีวิตแล้ว 2 ราย พบติดเชื้อจากคนในครอบครัว


โควิดคร่าชีวิตแล้ว 2 ราย วันที่ 27 เม.ย. คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ แถลงมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย

รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 48 ปี มีโรคประจำตัวคือโรคไทยรอยด์ มีอาการไข้ ปวดตัว เจ็บคอ ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 20 เมษายน ต่อมามีอาการทรุดลง จึงได้นำส่งตัวมายังโรคพยาบาลนครพิงค์ มีการช็อคและติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา


ส่วนรายที่สองเป็นชายไทย อายุ 49 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน มีน้ำหนัก 116 กิโลกรัม เริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน


และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเข้ารักษาและให้ยาทันที ต่อมาในวันที่ 25 เมษายน มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และเสียชีวิตในวันเดียวกัน


ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่าทั้ง 2 ราย ติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว และเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิมก่อนแล้ว จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวังและป้องกันตนเองไม่นำเชื้อมาแพร่สู่คนในครอบครัว ส่วนการฉีดวัคซีนขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 20,000 คน สำหรับวัคซีนที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับจัดสรรในล็อตที่ 3 ที่ได้มาแล้ว

นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดสรรเพื่อฉีดให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ อสม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อน ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อม หรือ สามารถติดต่อลงทะเบียนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป และจะเริ่มทำการฉีดในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป


ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ


ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ยังไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ และจากการที่พบในหน่วยงานยพบเพิ่มอีก 2 ราย ส่วนงานศพที่อมก๋อย เพิ่มอีก 1 ราย ส่วนคลัสเตอร์อื่นๆ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ส่วนคลัสเตอร์ที่เรือนจำกลาง จังหวัดเชียงใหม่ได้ใช้ระบบ Bubble and Seal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดออกไปสู่ชุมชนด้านนอก


นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่กำหนดไว้ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หากพบผู้ที่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยสามารถแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากถือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับซึงจะมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน


Relate Posts :