นายสมคิด ปัญญาดี ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสภาพอากาศและการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา พบว่า จังหวัดเชียงใหม่มีจุดความร้อนเมื่อวันที่ 1 เม.ย. จำนวน 333 จุด วันที่ 2 เม.ย. จำนวน 202 จุด และวันที่ 3 เม.ย. ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ที่เกิดไฟขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อำเภอสะเมิง พื้นที่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย อุทยานแห่งชาติศรีลานนา และพื้นที่อำเภอเชียงดาว สามารถที่จะควบคุมจุดความร้อนและดับไฟได้ ส่งผลให้วันที่ 3 เม.ย. มีจุดความร้อน เหลือเพียง 18 จุด
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการลดจุดความร้อนลงไปได้ แต่สภาพอากาศก็ยังมีค่าคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานและยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งค่าสูงสุดที่วัดได้ 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยใช้จุดตรวจวัดจากโรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา อ.แม่แจ่ม และในตัวเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 111 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สำหรับฝุ่นละอองที่มียังปกคลุมในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการสะสมมาจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดความร้อนเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยการคาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้า พบว่ามีกลุ่มก้อนเมฆที่กำลังก่อตัวเกิดขึ้นและก้อนเมฆดังกล่าวถูกกระแสลมทางทิศตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาในพื้นที่ และจะส่งผลให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะจางหายไปจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเย็นของวันที่ 4 เม.ย. 64 เพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่แรงขึ้นพัดพาออกไป ขณะเดียวกันจะส่งผลทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มีฝนตกในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
- สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่
- ฝุ่นควันPM2.5 สาเหตุโรคมะเร็งปอด
- เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่หลังคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
