คืนข้ามปีที่ “ม่อนจอง” บันทึกการเดินทางฉบับมือใหม่หัดเดินป่า
31 ธันวาคม – 1 มกราคม ที่ผ่านมา
เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเรากับเพื่อนร่วม 10 ชีวิต ได้ไปเคานต์ดาวน์กันที่ “ม่อนจอง” ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่จินตนาการไว้คือนอนดูดาวชิลๆ นับถอยหลังวันสิ้นปีแล้วเริ่มต้นปีอย่างมีความสุข ส่วนความจริงนั้น เข้านอนกันตั้งแต่สี่ทุ่มเพราะหนาวมาก ลมแรง เคานต์ดาวน์คืออะไร ไม่รู้แล้ว 5555
บันทึกฉบับนี้คือบันทึกการเดินทางของมือใหม่หัดเดินป่าจริงๆ คือเราและบางคนเคยเดินป่ามาบ้าง แต่การจัดทริปแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบที่ต้องโทรจองนั่นนี่ ไปนอนค้าง มีลูกหาบ เตรียมของกินเอง ถือว่าเป็นครั้งแรกเลย เราวางแผน คุยกันหลายเดือนกว่าจะลงตัว ตอนแรกก็คิดนะว่าเราจะไปได้เหรอ จะทำได้เหรอ รถก็ไม่มี อุปกรณ์อะไรก็ไม่ค่อยมี แต่สุดท้ายก็ทำได้ เพราะทุกคนช่วยกัน พอไปถึงตรงนั้นก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าจริงๆ นะ 🙂
ได้ข่าวว่าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 จะปิดทำการท่องเที่ยวแล้วนะ (ปกติเปิดถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์) เพราะช้างป่าเริ่มมา เปิดอีกทีน่าจะปลายๆ ปีแหละ
***ขยะต้องรับผิดชอบเองเน้อ อย่าทิ้งไปเรื่อย เก็บลงมาด้วย
ม่อนจองต้องจองนะ
ขั้นตอนการจองฉบับมือใหม่
ทีมเราไม่มีรถ ไม่มีอุปกรณ์ทำอาหาร เต็นท์กับถุงนอนบางคนก็มี บางคนก็ไม่มี เราเลยเริ่มจากการจองขึ้นดอยม่อนจองกันก่อน
เข้าเพจนี้ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง และเว็บนี้ doimonjong.web.app
จะมีรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เราอ่านข้อมูลทุกอย่าง แล้วจดที่เราสงสัย หลังจากนั้นก็โทรไปถามเพิ่มเติมที่เบอร์นี้ 092-5597201
1.โทรไปจองบอกว่าจะขึ้นวันไหน กี่คน ถามเจ้าหน้าที่ว่าเราได้ลูกหาบกี่คน (จะได้เตรียมค่าใช้จ่ายถูก) เจ้าหน้าที่บอกว่า ลูกหาบ 1 คน แบกน้ำหนักได้ประมาณ 15-20 กิโลกรัม เราไป 10 คน ใช้ลูกหาบได้ 2 คน แต่วันที่เราไปดันเป็นวันปีใหม่มูเซอ ลูกหาบเลยไม่พอ ฮือออ น้ำตาจิไหล สรุป 10 ชีวิต ได้ลูกหาบมา 1 คน เขาแบกได้ 15 กิโลกรัม ก็ให้ลูกหาบแบกเต็นท์ไป ของที่เหลือคือแบกกันเอง ของบางอย่างก็ฝากไว้ที่ศูนย์
2. จัดการเรื่องม่อนจองแล้ว ก็ต้องหารถที่จะไป เราเข้าไปดูในเว็บไซต์ที่แปะลิงก์ไว้ด้านบน เราสามารถเดินทางไปม่อนจองได้หลายวิธี รถส่วนตัวก็ไปได้ ทางสะดวก สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว เราคิดว่านั่งรถตู้จากตัวเมืองไปเลยน่าจะสะดวกสุด เพราะเขามารับถึงที่และไปส่งที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยแต่ต้องจองก่อนนะ ในเว็บจะมีเบอร์รถตู้อยู่ 3 คัน เราโทรไปที่เบอร์ รถตู้อ้ายเสริฐ 089-5596486 ราคาคนละ 500 บาท รวมไป-กลับ กลุ่มเรา 10 คน รวมกับอีกกลุ่มหนึ่ง 4 คน นั่งหลับไปเลยยาวๆ 4 ชั่วโมงนิดๆ
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
ค่าเข้าคนละ 20 บาท
ค่าลูกหาบ 1 คน 600 บาท (รวมไป-กลับ)
ค่าโฟวิลขึ้นไปจุดเริ่มเดินกลุ่มละ 3,000 บาท (ราคานี้สำหรับ 10 คน ถ้าน้อยกว่านี้ ราคาก็จะถูกลง ลองเช็คในเพจอีกทีเน้อ)
ค่านั่งรถตู้ไปกลับคนละ 500 บาท (ลุงมารับถึงตัวเมืองเชียงใหม่เลย)
ค่าเช่าเต็นท์หลังละ 100 บาท (ขนาด 2 คน)
ค่าเช่าถุงนอน 50 บาท
ค่าอาหาร 5 มื้อ รับผิดชอบเอง ดูแลตัวเองกันไป วันแรกมื้อเช้า (กินตอนนั่งรถ ซื้อไปเลยหรือรอซื้อที่ตลาดก็ได้ ลุงจะแวะให้ ตรงตลาดก็จะมีพวกข้าวเหนียว ไก่ทอดต่างๆ ) / มื้อเที่ยง (กินระหว่างเดินป่า)/ มื้อเย็นกับมื้อเช้าอีกวัน (กินตรงจุดกางเต็นท์) /มื้อเที่ยงอีกวัน (กินหลังจากที่ลงดอยมาแล้ว จะมีร้านข้าวอยู่ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว)
ค่าอาหารลูกหาบ อันนี้หารกัน ก็จะมี 3 มื้อ คือมื้อเที่ยง เย็นและเช้า เราโทรถามเจ้าหน้าที่เขาบอกให้เตรียมข้าวให้ลูกหาบด้วย แต่พอไปถึงจริงๆ พี่ลูกหาบก็เตรียมมาเอง ถ้าใครจะไปก็เตรียมไปเผื่อด้วยก็ดี
เราเสียค่ากองกลางไปประมาณ 1,000 นิดๆ (เราไม่เช่าเต็นท์และถุงนอน) ที่เหลือก็เป็นค่ากิน ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ
หลักๆ ก็จะประมาณนี้ ศึกษาข้อมูล โทรสอบถาม จองรถ จองขึ้นม่อนจอง คำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
ม่อนจองหนาวนะ
ก่อนหน้าที่เราจะไป ก็ได้ข้อมูลจากคนที่ไปมาก่อนหน้านั้นว่าข้างบนหนาวมาก หนาวสุดๆ ลมแรง ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย
ส่วนนี้ก็จะเป็นขั้นตอนการเตรียมตัว
1. เสื้อผ้า >> กางเกง เสื้อใส่สบาย สำหรับเดินป่า รองเท้าเดินป่า (ถ้ามี) หมวก ผ้าปิดจมูกต่างๆ ถุงมือกันหนาว ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว ถุงเท้า เอาเท่าที่จำเป็นจริงๆ ก็พอ สารภาพเลยว่าเดินป่าครั้งนี้เราใส่ชุดเดียวสองวันเลย ไม่ได้เปลี่ยน เดินเน่าๆ กันไป
2. มือถือ,พาวเวอร์แบงค์ >> ม่อนจองมีสัญญาณโทรศัพท์นิดหน่อย เราใช้ AIS ก็อัพสตอรี่อะไรได้อยู่เด้อ
3. อาหาร >> เราซื้อที่ Tops เป็นแกงกับข้าวที่ต้มในน้ำได้ทั้งซองเลย แป๊บเดียวก็แกะกินได้แล้ว ขอแค่มีไฟกับหม้อก็พอ (หม้อเช่าที่ศูนย์บริการได้ แต่เราลืม แล้วลูกหาบก็หามาให้) ส่วนมื้ออื่นๆ ก็เป็นหมูทอด ไก่ทอด ข้าวเหนียว ขนมต่างๆ เพราะระหว่างเดินจะเหนื่อยและหิวบ่อยมาก
4. อื่นๆ>> ยากันยุง ยาดม อุปกรณ์ล้างหน้าแปรงฟันต่างๆ (ม่อนจองมีห้องน้ำนะ) น้ำดื่มเอาไปซักสองขวดเล็กก็พอหรือขวดใหญ่หนึ่งขวดเพราะข้างบนมีลำธารให้เติมน้ำได้ เอาไฟฉายไปด้วย เพราะทางไปห้องน้ำมืดมาก
5. เตรียมใจ >> คิดถึงวิวสวยๆ ด้านบนเข้าไว้แล้วไปให้ถึง
เริ่มเดินทางกันเลย
นัดกัน 4.30 น. ในตัวเมืองเชียงใหม่ ออกเดินทางประมาณ 5.00 น. ลุงแวะเซเว่น ปั๊มน้ำมันและตลาด เราถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 9.00 น. นิดๆ
ถึงแล้วบ้านมูเซอปากทาง พอลงจากรถก็จัดแจงเช่าเต็นท์ ติดต่อเรื่องลูกหาบ ชั่งน้ำหนักของแล้วขึ้นโฟวิลกันเลย
จำหน้ากับชื่อลูกหาบไว้ด้วยเน้อ พอไปถึงจุดกางเต็นท์ เราต้องหาลูกหาบของเราให้เจอว่าอยู่ตรงไหน
เราว่าโหดสุดไม่ใช่การเดินป่า แต่เป็นการนั่งรถนี่แหละ ทั้งฝุ่น ทั้งทาง โยกแล้วโยกอีก เกาะแน่นๆ นะน้องนะ
นั่งไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงจุดเริ่มเดิน
พอถึงจุดเริ่มเดินก็ยืนงงๆ กันว่า เดินได้เลยเหรอหรือต้องมีคนนำทาง ลูกหาบบอกเดินได้เลย ใครอยากพักตรงไหน กินข้าวตรงไหนก็ตามสบาย
ใช้เวลาเดิน+พักเฉยๆ + พักกินข้าว ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงจุดกางเต็นท์
ทางบางจุดก็ชันถึงชันมาก เราแวะกินข้าวกันแถวนี้แหละ เป็นข้าวเหนียวหมูทอดอะไรก็ว่าไป
ตรงนี้คือ ภูหินช่อ แวะพัก แวะถ่ายรูปกันได้ ถ้าถึงตรงนี้ก็ยิ้มได้เลย เพราะใกล้ถึงแล้วว
หลังจากนั้นก็เดินกันต่อ
ตรงนี้คือเนินหมาหอบ หอบจริง เพราะสูงมาก
เดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอมุมนี้ ใกล้แล้ว ฮือออ
เดินไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกทางไปจุดกางเต็นท์ อยู่ซ้ายมือ มองหาลูกหาบไม่เจอ เลยไปถามเจ้าหน้าที่ โชคดีที่เจ้าหน้าที่จำลูกหาบเราได้ เลยเจอลูกหาบที่กำลังก่อไฟให้ ส่วนพวกเราก็เริ่มกางเต็นท์กัน
อาหารเย็นและอาหารเช้าของเราทำแบบง่ายๆ ซื้อที่ Tops ข้าวกับแกงต้มไปทั้งกล่องได้เลย ง่ายมาก
น้ำพริกทูน่ากับไข่พะโล้อร่อยมาก
ตรงนี้คือโซนที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ จากจุดกางเต็นท์ของเราต้องเดินมานิดหนึ่ง กลางคืนทางมืดมาก ระวังหลง
ตรงนี้คือห้องน้ำ จะมี 2 ห้อง
หลังจากกินข้าว กางเต็นท์เรียบร้อย เราก็ออกมาถ่ายรูปกัน เราไปช่วงปลายปี ทุ่งหญ้าเป็นสีทองแล้ว ช่วงพระอาทิตย์ตกคือสวยมากๆ
ปารูปรัวๆ
เดินไปถึงหัวสิงห์ได้เลย แต่เราเดินไม่ถึง เพราะคิดว่าพรุ่งนี้จะมาเดินใหม่ แต่ตื่นเช้ามาเจอหมอกหนามาก เลยอดเดินไปหัวสิงห์เลย
เดินมาถึงตรงนี้แหละ
พระอาทิตย์ตกแล้ว ชอบมาก สวยยย
หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เราก็กลับไป….กินต่อ 5555 รอเวลาออกมาถ่ายดาว
ดาวล้านมาก ลมแรงมาก
ตื่นเช้ามาเจอหมอก อดเดินไปหัวสิงห์ เลยเก็บของ กลับ นี่คือลูกหาบของเรา พอจะถ่ายรูปก็บอกว่า แป๊บหนึ่งๆ แล้วหยิบแว่นคู่กายมาใส่ อย่างเท่ 5555
ขากลับก็เจอแต่หมอก
แถวๆ ป่าสน ชันมาก T..T
เห็นรถแล้วน้ำตาจิไหล นั่งกลับไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้วเคลียร์ค่าใช้จ่าย จากนั้นก็กินข้าวที่ร้านใกล้ๆ แล้วนั่งรถตู้กลับ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ปิดทริปด้วยหมูจุ่ม 2 ชั้นเบาๆ
เป็นทริปที่เคยฝันว่าอยากไปแล้วก็ไม่คิดว่าจะได้ไปด้วยนะ พอไปมาแล้ว บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม คิดถูกแล้วที่ไป ชอบมาก อยากไปอีก