Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท) กินบนโลกอร่อยถึงสวรรค์

Info: Eat on Earth
ที่ตั้ง: จากศาลากลางไปทางวงแหวนมุ่งหน้าแยกรวมโชค ไม่ต้องลงอุโมงค์ติดไฟแดงให้ตรงไป เลี้ยวซ้ายซอยแรกตรงไปประมาณ 1 กม. ร้านอยู่ซ้ายมือ
เบอร์โทร: 093-1327222
เวลาเปิด-ปิด: 10:30 – 21:00 น. ปิดทุกวันจันทร์ วันธรรมดาครัวปิด 15.00 – 17.00 น.
เว็บไซต์ :http://www.eatonearth.net
Facebook: Eat on Earth

ในเชียงใหม่มีร้านอาหารอยู่มากมายนับร้อยนับพันร้าน แต่ไม่ใช่ทุกร้านจะมีบรรยากาศร่มรื่น นั่งสบาย เหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการพื้นที่สำหรับเด็กๆ หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่ต้องการที่หย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ และนอกจากบรรยากาศชั้นเยี่ยมที่นี่ยังมีรสชาติอาหารชั้นยอด โดยเชฟที่การันตีฝีมือจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ (Le Cordon Bleu) ซึ่งนับเป็นบรรยากาศและความลงตัวในระดับ First Class ประหนึ่งทานอาหารบนโรงแรมหรูที่มีการบริการอันแสนประทับใจ และคุณสมบัติที่ว่ามาทั้งหมดนี้ก็รวมอยู่ที่ Eat on Earth แห่งนี้นี่เอง

“Eat on Earth แปลตรงๆว่า กินบนโลกแต่แท้จริงแล้วความหมายที่ต้องการสื่อคือ การทานอาหารที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เป็นการพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหาร ความใส่ใจในการปรุงรส ทุกอย่างมาจากธรรมขาติ ปราศจากสารเคมีปรุงแต่งใดๆ” คุณวรมน บุนนาค เจ้าของร้านบอกกับเรา

ส่วนเส้นทางมาที่ร้านก็ไม่ยากเลย ขับรถมาจากศาลากลางใช้เส้นวงแหวนมุ่งหน้ากาดรวมโชค ถึงอุโมงค์ไม่ต้องลงให้ตรงมาติดไฟแดง พอไฟเขียวให้ตรงไปสองร้อยเมตรจะเจอซอยแรกซ้ายมือ ตรงอย่างเดียวประมาณ 1 กม. ร้านอยู่ซ้ายมือ ตามแผนที่ประกอบท้ายเรื่อง

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
บรรยากาศด้านหน้าร้าน ส่วนด้านในแบ่งออกเป็นพื้นที่ indoor และ outdoor ในสวนสวย
Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
ส่วนของมุมกาแฟและเบเกอรี่ด้านใน เย็นชื่นด้วยบรรยากาศของแอร์ คอนดิชั่น และมี WiFi ไว้สำหรับบริการลูกค้า เพื่อความสุขและเพลิดเพลินในมุมส่วนตัว
Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
ทุกจุดทั้งภายในและภายนอกร้านจะมีพนักงานยืนคอยให้บริการอย่างเงียบๆอยู่เสมอ (พนักงานจะสื่อสารกันด้วยวิทยุโดยจะเสียบหูฟัง เพื่อไม่ให้เป็นการส่งเสียงรบกวนแขก)
Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
มาดูบรรยากาศด้านนอก outdoor บริเวณสวนหย่อมกันบ้าง ทางเข้าเป็นประตูไม้เก่า

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)

ด้านนอกนี้มีทั้งแบบที่อยู่ใต้ร่มหลังคา และแบบ open space อยู่ในสวน สามารถนั่งตรงไหนก็ได้แต่หากนั่งห่างใจจากตัวร้านมาก ทางร้านขอความร่วมมือ Self Service เองสักเล็กน้อยเพราะพนักงานอาจดูแลไม่ทั่วถึงในกรณีนั่งไกลมากๆ

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
บรรยากาศร่มรื่นในสวน ที่ร่มรื่นด้วยอากาศเย็นชื่นจากร่มไม้

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)

ด้วยการออกแบบอย่างลงตัวโดยสถาปนิกมืออาชีพ ทุกมุมจึงเป็นส่วนผสมระหว่างศิลปะและประโยชน์ใช้สอย พื้นที่ในทุกมุมของทางร้านจึงเป็นมุมพักผ่อนที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นมุมครอบครัวและในมุมอื่นๆ

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
บรรยากาศในมุมนั่งจิบชา กาแฟ พร้อมขนมเค้กยามบ่าย ที่เน้นความโปร่งโล่งของธรรมชาติ
Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
กาแฟมอคค่า (Mocha) และเค้กแครอท (Carrot Cake) ชุดที่เข้ากันอย่างลงตัว

หลังจากได้ชมบรรยากาศกันไปแล้ว คราวนี้มาดูทางฟากอาหารคาวหวานกันบ้าง ที่ Eat on Earth เขาขึ้นชื่อมากเรื่องอาหาร ที่แม้แต่เชฟโรงแรมดังๆหลายแห่งในเชียงใหม่ยังต้องแวะมาทานอยู่บ่อยๆ มาดูกันว่าเมนูวันนี้มีอะไรบ้าง


Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)

จานแรกเริ่มกันที่ สเต็กเนื้อนิวซีแลนด์ (N/Z Strip Loin Steak) เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเป็นสลัดและขนมปังพร้อมเนย น่าสังเกตุว่าสเต็กที่เสิร์ฟมาไม่มีน้ำจิ้ม แม้แต่น้ำที่ราดสเต็กก็แทบไม่มี ก็เก็บความสงสัยไว้ยังไม่ถามอะไร พอลองได้ชิมคำแรกเท่านั้นแหละ ผมนี่ยืนขึ้นเลย! คือมันอร่อยไม่ต้องจิ้มอะไร แฟนพันธุ์แท้สเต็กจะเข้าใจเรื่องนี้ดี รสชาติของเนื้อชั้นดีออกมาเต็มๆ หลังจากนั้นผมก็จัดการจนเกลี้ยงโดยที่ไม่ถามหาน้ำจิ้มแต่อย่างใด

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
ดูกันอีกมุมชัดๆกับ N/Z Strip Loin Steak แบบ Medium นับเป็นเมนูพระเอกของร้านนี้ได้เลย

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)

พระเอกคนต่อไปดูจากรูปคงเดากันไม่ยากกับเมนูยอดนิยม “ขาหมูเยอรมัน” (Fried German Pork Knuckle) นั่นเอง ขาหมูของที่มีมีจุดเด่นอยู่ที่ความกรอบนอกนุ่มใน หนังกรอบจริงๆคนที่ทอดแบบนี้ได้โดยด้านในไม่แข็งไปด้วยถือว่าเก่งมาก เวลากินก็แสนง่ายดายเพราะเขากรีดแนวไว้ให้แล้ว เราเพียงเซาะๆงัดๆก็จะหลุดออกมาทั้งชิ้น หั่นพอดีคำจิ้มกับน้ำจิ้มสามรสที่เสิร์ฟมาพร้อม อร่อยเข้ากันมาก

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
หม่ำละนะ มีดส้อมเตรียมให้พร้อม ขาหมูเยอรมันร้อนๆมาแล้ว
Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
รู้สึกกระหายพักจิบเครื่องดื่มเย็นๆกับ ฮันนี่เลม่อนดับเบิ้ลมิ้นท์ (Hony, Lemon Double Mints) รสชาติชุ่มคอชื่นใจหอมหวานกลิ่นน้ำผึ้งผสมมะนาว

จบงานของคาวเรามาดูตัวเอกด้านของหวานกันบ้าง อย่างที่ทราบกันว่าร้าน Eat on Earth เขาโดดเด่นเรื่องเบเกอรี่ เค้กทำเองทุกชิ้นเพราะเขามีครัวเบเกอรี่ของตัวเองไม่ต้องซื้อจากที่ไหนมาจำหน่าย เมื่อทำเองทุกอย่างจึงพิถีพิถันทุกขั้นตอน ทั้งการนำเข้าวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ขั้นตอนการทำเค้ก ทำให้ได้คุณภาพมาตรฐานระดับโรงแรม แต่อยู่ในราคาที่จับต้องได้

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
Berries on Earth เมนูเค้ก Signature ของทางร้าน แยกเค้กออกเป็นสามชั้นได้สัดส่วนที่ลงตัว เปรี้ยว กลาง เข้มข้น หากไม่สะใจในความเปรี้ยวหวานสามารถแตะซอสเบอรี่ที่แต้มมาได้ตามใจชอบ
Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)
ดูกันชัดๆทั้งอร่อยทั้งงดงามกับเจ้า Berries on Earth

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)

พระเอกคนต่อมาคือ Chocolate Lava เมนูขวัญใจสาวๆที่ชอบความเข้มข้น เมนูนี้ใช้เวลาในการเตรียมพอสมควร สั่งแล้วต้องรอประมาณ 15 นาที เมื่อยกเสิร์ฟจะมาแบบอุ่นๆ ใช้มีดหรือช้อนผ่าเจ้าช็อกโกแล็ตลาวาก็จะไหลออกมาแบบเยิ้มๆฉ่ำ ทานกับไอศกรีมและวิปครีมที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน รสชาติลงตัวเหลือเชื่อ

Eat On Earth (อีท ออน เอิร์ท)

ปิดท้ายมื้ออร่อยกันด้วย Flat White ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นที่จริงแล้วมันก็คือ กาแฟใส่นมนั่นเองแต่เป็นแบบที่ใส่นมมากกว่ากาแฟ เรียกว่านมใส่กาแฟน่าจะถูกต้องกว่า เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากดื่มกาแฟมากแต่ยังอยากได้กลิ่นและรสของกาแฟอยู่ เสิร์ฟพร้อมคุกกี้น่ารัก


Eat on Earth จัดได้ว่าเป็นร้านที่มีคุณภาพในระดับสูงทั้งเรื่องของอาหาร สถานที่ และการบริการ แต่กลับมีราคาอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับรส ชาติ บรรยากาศและการให้บริการของทางร้าน แม้จะมีบางเมนูที่อาจดูมีราคาสูงสักนิด แต่ก็เป็นเหตุมาจากวัตถุดิบที่ใช้นั้นบางอย่างต้องนำเข้าทำให้ต้นทุนสูง ราคาจึงต้องเป็นไปตามกลไกดังกล่าว ซึ่งเมื่อลองบวกลบคูณหารกับรสชาติ และความทรงจำดีๆ ก็เรียกได้ว่าคุ้มเกินคุ้มแน่นอน

รู้หรือไม่เกี่ยวกับร้าน Eat on Earth

1. จุดเด่นของร้านมีสามอย่าง หนึ่งคือสถานที่ สองคือรสชาติอาหาร สามคือพี่เสือ(???)

2. ร้านอนุญาติให้นำสุนัขเข้ามาได้

3. ทุกวันอาทิตย์มีแสดงสดดนตรีในสวนเวลา 14.00-17.00 น.

4. ราคาอาหารในเมนูเป็นราคาสุทธิ


ท่านใดมีร้านอาหารอร่อยแนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ

เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที

Relate Posts :