สำหรับโค้งสุดท้ายให้ ผู้สมัคร นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ แสดงวิสัยทัศน์

FM 100 เสียงสื่อสารมวลชน จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ นับเป็นโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการหาเสียง และสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ของ

ผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

ทั้ง 6 ท่าน ซึ่งจะมีเพียง 1 ท่านเท่านั้น

ที่จะได้รับเลือกให้เข้ามาบริหารจัดการเมืองแห่งนี้

ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่มี 4 แขวง มีประชากรทั้งสิ้น 122,271  คน (ข้อมูลสรุปเมื่อ 3 ตุลาคม 2562) ไม่นับประชากรแฝง และข้อมูลเมื่อปี 2562 เทศบาลนครเชียงใหม่ เป็น เทศบาลที่มีงบประมาณสูง อยู่ในอันดับที่ 4 จากทั่วประเทศด้วยงบประมาณ 1,782.84 ล้านบาท 

ด้วยเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศการบริหารจัดการเมืองจะต้องมีนโยบายที่วางไว้อย่างชัดเจนและขับเคลื่อนเป็นรูปธรรม ทำให้การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในครั้งนี้มีผู้สมัครชิงตำแหน่งถึง 6 ท่านที่จัดได้ว่ามีความรู้ความสามารถ และ มีความมุ่งมั่นในการอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนและพานครเชียงใหม่แห่งนี้ก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางวิกฤติมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดไปจนถึงสุขภาพ   

ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟัง การแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนคร เชียงใหม่ ที่ คณะการสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา จัดโดย สถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน FM100 ซึ่งมีการถ่ายทอดเสียงผ่านคลื่นวิทยุ และ สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook Fanpage ของ FM 100 โดยมีผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เข้าร่วม 6 คนจากทั้งหมด 7 คนได้แก่ 

การได้ใช้ชีวิตนั่งฟังอย่างตั้งใจและวิเคราะห์นโยบายของผู้สมัครหลายท่าน ผมได้สรุปเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่มีสาระสำคัญให้ทุกท่านได้เข้าใจพอสังเขปกันภายในงานมีผู้สนับสนุน ผู้ลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลแต่ละเขตเข้าร่วม นักศึกษาผู้ที่สนใจ สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ในช่วงแรกของงานได้ให้ผู้สมัครแต่ละท่านได้นำเสนอนโยบายพัฒนาเมืองเชียงใหม่ที่ตั้งใจจะทำ โดยคนแรก

นายพรชัย จิตรนวเสถียร ผู้สมัครหมายเลข 1

หมายเลข 1 นายพรชัย จิตรนวเสถียร : กลุ่มฮักกั๋น เจียงใหม่ 

ได้นำเสนอแนวคิด การสร้างเมืองน่าอยู่โดยให้แนวคิดว่าเมื่อสร้างเมืองให้น่าอยู่ซึ่งสิ่งนี้สำคัญจะทำอย่างไร ให้เมืองนั้นน่าอยู่แล้ว ก็จะทำให้เป็นเมืองน่าเที่ยว เมื่อเกิดเมืองน่าเที่ยวแล้วจะเกิดความมั่งคั่งของคนตามมา เมื่อเกิดองค์ประกอบเหล่านี้ครบ เราก็จะสร้างเมืองให้เป็น Smart City และการสร้างเมืองให้เป็นเมือง Smart City นั้นจะเกิดความเท่าเทียม การเข้าถึง การเข้าใจ และเกิดความรู้ พร้อมกับเดินหน้าให้เชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อแข่งขันกับเมืองอื่นๆ ของโลก โดยสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นองค์ประกอบในการขับเคลื่อนเมืองต่อไป 


ท่านผู้สมัครหมายเลข 1 ยังได้กล่าวถึงนโยบายที่เป็นการแก้ไขปัญหาของเมืองโดยใช้นโยบายที่ชื่อว่า “พรชัย ทำทันที” ชูนโยบายผู้นำต้องมีคุณธรรม ต้องปลอดการเมือง ไม่มีอคติ ทั้งต่อประชาชน และ ผู้ร่วมงานในเทศบาลนครเชียงใหม่ 

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 2

หมายเลข 2 นายอัศนี บูรณุปกรณ์ : กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม 

ได้นำเสนอนโยบาย 4 เรื่องและเรื่องสำคัญคือ เรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน โดยนำพื้นที่รกร้างของเทศบาลนครเชียงใหม่มาปรับเป็นพื้นที่ทำกิน โดยนำงบของเทศบาลนครเชียงใหม่มาช่วยเหลือ นโยบายเตรียมเปิดเมืองจ้างงานเพิ่มความพร้อมให้กับเมืองรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว และนอกจากนั้นยังชูนโยบายเรื่องสุขภาพ ใช้ อสม ในการขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพของ อสม. ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และการให้บริการของเทศบาลฯ จะต้องลดเวลาในการรอคอยของพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการในแต่ละแขวง และยังจะส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวซึ่งจุดเด่นของเชียงใหม่คือประเพณี วัฒนธรรม และนอกจากนั้นยังได้มุ่งเน้นด้านการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลให้มีแนวทางการศึกษาที่ดีกว่าเดิม สิ่งไหนที่ดีก็จะเดินหน้าสานต่อ และ สิ่งไหนที่ต้องปรับก็จะร่วมมือกันปรับให้ดีขึ้นยิ่งไป

นายชาตรี เชื้อมโนชาญ ผู้สมัครหมายเลข 3

หมายเลข 3 นายชาตรี เชื้อมโนชาญ : กลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่

นโยบายที่ต้องแก้ไขอย่างแรกคือ ปากท้องของพี่น้องประชาชนนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีหลายชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าทางวัฒนธรรมมากมาย อาทิเช่นชุมชนพวกแต้ม ชุมชนวัวลาย ชุมชนเมืองสาตร อย่างแรกเราต้องหาตลาดก่อนในแต่ละปีเทศบาลมีโครงการอบรมอาชีพกันบ่อยครั้งแต่เราไม่มีตลาดให้เขาไปต่อ เราอาจจะต้องมีการผลิตสินค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของชุมชนนี้ผสมผสานกับชุมชนนี้ เพื่อออกมาเป็นสินค้าใหม่ เมื่อมีการสั่งจำนวนมากการขยายตัวของการผลิตก็จะไปยังชุมชนอื่นๆใกล้เคียงสร้างรายได้ให้เกิดในพื้นที่ เด็กเชียงใหม่เก่งๆ เยอะมากพวกเขาหายไปทำงานในกรุงเทพฯ หรือเมืองต่างๆ เราอยากให้เขากลับมาทำงานที่เชียงใหม่และพัฒนาเมืองเชียงใหม่ สังคมยุคใหม่เป็นสังคมผู้สูงอายุ พ่อแม่อยากให้ลูกหลานกลับมาอยู่บ้านช่วยกันดูแลฉะนั้นแล้วเราต้องสร้างอาชีพให้เขา ต่อไปเทศบาลจะต้องมีโชว์รูม สินค้าแบบไหนที่เป็นการสร้างสรรค์ใหม่ๆ หรือสินค้าเชิงวัฒนธรรมจะต้องมาอยู่ในโชว์รูมของเรา และ ผู้ซื้อจะมาพบผู้ขายที่นี่ และ ให้เขาติดต่อค้าขายกันเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคนกลางในการค้าขาย ในโลกปัจจุบันการค้าออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญ

นอกจากปากท้องของพี่น้องประชาชนแล้วคุณภาพชีวิตสภาพแวดล้อมของเทศบาลนครเชียงใหม่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ สภาพการระบายน้ำท่ออุดตันเรื่องนี้เป็นปัญหาที่แก้ได้และทำได้ไม่ยากเลยในด้านความทันสมัยของเมืองเป็นสิ่งที่ต้องทำ ทั้งเรื่องกล้อง CCTV หรือแสงสว่าง เมืองเราเป็นเมืองท่องเที่ยวฉะนั้นแล้วปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสาธารณูปโภคขั้นต้นจะต้องทำให้ดีและที่สำคัญเรื่องความสะอาดของเมืองจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและดีขึ้น ด้านการศึกษาเด็กๆ ต้องมีการเรียนรู้หลายภาษา เพราะเด็กเหล่านี้จะต้องเป็นมัคคุเทศก์น้อยในช่วงปิดเทอม แนะนำนักท่องเที่ยว

นายธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้สมัครหมายเลข 4

หมายเลข 4 นายธีรวุฒิ แก้วฟอง : คณะก้าวหน้า 

ได้มีข้อเสนอ 9 ประเด็นนโยบาย ผ่าน 3 วิสัยทัศน์ อยู่ม่วนขึ้น กินดีขึ้น มีสุขขึ้น ในวิสัยทัศน์ที่ว่า อยู่ม่วน ได้มี 3 ประเด็นข้อเสนอ

เรื่องการศึกษา เรื่องสิ่งแวดล้อม และ เรื่องคุณภาพชีวิต

  • การศึกษาโรงเรียนในเทศบาลมีข้อจำกัดหลายส่วนโดยจะเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่นักเรียนเพื่อนำไปใช้จริงในสังคม
  • ในส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมปัญหาที่ต้องเผชิญทุกปีคือ PM 2.5 ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ครอบคลุมทั้งเมือง สร้างห้องปลอดควันพิษ
  • และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวบางครั้งอาจจะมองเป็นนโยบายเชิงรับ แต่มันคือนโยบายที่สร้างมาจากความเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ เรื่องคุณภาพชีวิตเราจะสร้างศูนย์เด็กเล็กทั้งกลางวันและกลางคืน

ในส่วนวิสัยทัศน์เรื่องกินดีก็เป็นวิสัยทัศน์ที่มี 4 ประเด็นในการพัฒนาคือ ด้านเศรษฐกิจที่จะมีการส่งเสริมให้เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเชียงใหม่เที่ยวได้ทั้งปี แนวคิดด้านวัฒนธรรมและทุนในพื้นที่ โดยจะทำให้สอดคล้องด้านการท่องเที่ยวเชิงนโยบายที่จังหวัดหรือ ททท. ได้วางไว้ เทศบาลต้องเตรียมความพร้อมด้านที่พักและอาหารให้ดีและให้ผู้ประกอบการณ์ได้ขับเคลื่อนได้ดีขึ้น  การพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ทางด้านการค้าการขายติดอาวุธให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ พี่น้องชาวบ้าน ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ด้านการตลาดเข้าไปหาผลิตภัณฑ์ในชุมชน นอกจากนั้นเรื่องการเดินทาง เราเสนอนโยบาย เชียงใหม่ 20 นาทีถึง เดินทางอย่างไรให้ถึงกันไม่เกิน 20 นาที จริงแล้วเรามีรถแดงที่ พร้อมสำหรับการเดินทางอยู่แล้ว เราจะต้องหารือกันเพื่อออกแบบการขนส่งในเขตเทศบาลของเราให้เป็นระบบ วิสัยทัศน์สุดท้ายคือ มีสุข คือการทำอย่างไรให้สุขกาย สุขใจ สุขกายก็คือสุขภาพเทศบาลมีสาธารณสุขที่ดี และจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นไปอีก และสุดท้ายคือสุขใจ นั่นคือวัฒนธรรม เตรียมจัดตั้งกองทุนส่งเสริมวัฒนธรรม และให้คนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ให้เป็นรูปธรรม


นายกฤษณะ พรมบึงรำ ผู้สมัครหมายเลข 5

หมายเลข 5 นายกฤษณพงษ์ พรมบึงรำ : กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 

นโยบายที่สำคัญที่เร่งทำทันที คือนโยบายการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น เพราะในแต่ละปี มีการร้องเรียนเรื่องทุจริตเยอะมาก ฉะนั้นแล้วการแก้ไขโครงสร้างเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ จึงได้เสนอตัวเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยตั้งใจที่จะสมัครนายกเทศมนตรีเพียงคนเดียว โดยไม่มี สท. ภายในเขตต่างๆเพื่อให้ท่าน สท. สามารถเข้ามาตรวจสอบการทำงานได้ถือว่าเป็นการถ่วงดุลอำนาจด้านการบริหาร อีกนโยบายคือ 1 ปี ซ่อม 3 ปี สร้าง หลายสิบปีแล้วที่หลายอย่างไม่ได้ซ่อมแซม ผมจะเข้ามาซ่อมให้มันดี จากนั้นแล้ว อีก 3 ปีหลัง ผมจะสร้างให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางการค้า การศึกษา เป็น กรีนซิตี้ คลีนซิตี้ และทุกอย่างจะเข้ามา ก้าวเข้าสู่การเป็นมหานครของโลก ผมเชื่อว่าเราทำได้ครับเพราะเชียงใหม่ของเรามีต้นทุนมากมายเราจะก้าวไปครับ

นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ ผู้สมัครหมายเลข 6

หมายเลข 6 นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ : กลุ่มทางเลือกใหม่

นโยบายของกลุ่มทางเลือกใหม่นั้นมีหลายข้อ และที่ยกมาพูดกันในวันนี้คือเรื่องของ งบประมาณ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของกลุ่มงบประมาณของประชาชน เพื่อประชาชน งบประมาณของเทศบาลกว่า 1,700 ล้านบาท มันจะถูกกระจายไปยังเรื่องของ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ระบบขนส่งมวลชน สาธารณสุข ศิลปะวัฒนธรรม และที่สำคัญเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านทุกชนชั้นสำคัญหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับงบประมาณและสิ่งเหล่านี้มันจะเดินไม่ได้ถ้าเกิดการทุจริตคอรัปชั่น ส่วนนี้ต้องแก้ไข และเป้าหมายที่ผมมาอยู่ตรงนี้คือต้องการบริหารจัดสรรงบประมาณซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ความคิดส่วนตัวผมนั้นคิดว่านี่คือปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม หรือเรื่องงบประมาณ ที่ผ่านมาการใช้งบประมาณของเทศบาลไม่ได้ถูกแจกแจงให้พี่น้องประชาชนทราบ และนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของกลุ่มที่เข้ามาเพื่อต้องการให้มันโปร่งใส เงิน 1,700 ล้านบาทเอาไปทำอะไร ก็ไม่ทราบได้ ถ้าสร้างแอพพลิเคชั่นที่สามารถแจกแจงได้ ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบได้ และด้านสุขภาพเราสามารถส่งข้อมูลข่าวสารไปยังพี่น้องประชาชนได้ผ่านแอพพลิเคชั่น

ภายในงานผู้ดำเนินรายการยังได้ให้ผู้สมัครได้ตอบคำถามถึงเรื่องความเป็น Smart City ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งผู้สมัครได้มีความเห็นที่ใกล้เคียงกันถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาระบบเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ นอกจากนั้นยังมีเรื่องการดูแลสัตว์ในพื้นที่เขตเทศบาลที่ผู้สมัครได้ให้ทรรศนะไปในเชิงสร้างสรรค์ ในการบริหารจัดการ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและอุดมไปด้วยแนวนโยบาย ซึ่งก็เชื่อว่าทุกท่านมีแนวคิดในการต้องการเปลี่ยนแปลงเมืองเชียงใหม่ให้ดีขึ้น และก้าวทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อนาคตนครเชียงใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับ 1 ใน 6 ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เหล่านี้

เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่านโยบายที่ท่านได้วางไว้ จะสำเร็จ หรือทำได้ครบตามที่พูดไว้หรือไม่ หรือผมอาจจะต้องคอยจับตาบันทึกไว้ว่าวันนี้ท่านพูดอะไร แล้วอนาคตต่อไปผมจะไปทวงถามถึงนโยบายของท่านครับ ด้วยความเคารพ

กรวุฒิ  อาศนะ 
นักวิชาการ สื่อมวลชน
mike_chiangmai

ย้ำอีกครั้งวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม เวลา 08.00 – 17.00 น. อย่าลืมไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลกัน
ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมถึงหน่วยเลือกตั้ง https://stat.bora.dopa.go.th/Election/enqelectloc

บัตรเลือกตั้งมี 2 ใบ เลือกนายกเทศมนตรี และเลือกสมาชิกสภาเทศบาล (สท.)

นายกเทศมนตรี บัตรสีม่วง! กาผู้สมัครได้ 1 คน
สมาชิกสภาเทศบาล บัตรสีชมพู! กาผู้สมัครได้ไม่เกิน 6 คน กาน้อยกว่า 6 ก็ได้

ดูให้ดี อย่าสับสน!

Relate Posts :