สบตา ณ สี่แยก
แล้วก็มาถึงเย็นวันอังคาร กับผมที่กำลังออกจากบ้านเพื่อจะไปร้านประจำ เพื่อหาที่นั่งทำงานอย่างที่ตนคุ้นเคย
แล้วผมก็เลือกเส้นทางประจำในการเดินทางเข้าตัวเมืองโดยใช้เส้นทางประจำ นั่นก้คือถนนเรียบคลองชลประทาน
ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ผมก็มักจะใช้เส้นทางนี้ในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นเวลาเรียน หรือเวลาออกไปหาที่นั่งทำงาน
แต่แล้ววันนี้ ยามอาทิตย์อัสดงก็เกิดได้เจอเรื่องราวที่ไม่อาจที่จะอดสงสัยได้เลยเพราะในระหว่างที่ติดไฟแดงอยู่หน้า อบต. ก็มีรถคันหนึ่งขับมาจอดข้างๆ
แล้วผมก็เกิดความรู้สึกที่ว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่ เป็นความรู้สึกอึดอัด และกดดันอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งผมเชื่อว่าคุณที่กำลังอ่านอยู่นั้น
ต่างก็ต้องเคยเจอประสบการณ์การความรู้สึกของการถูกจ้องมองเช่นเดียวกัน ทันใดนั้นผมจึงหันไปด้วยความสงสัย แล้วผมก็พบกับ
ใบหน้าที่เปรอะเปื้อน มอมแมม ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ภายใต้ชุดเครื่องแบบสีน้ำตาลที่นั่งอยู่อยู่ท้ายรถกระบะ
ทำให้ความอึดอัดนั้นจางหายไป เมื่อรู้ว่านี่คือคนที่กำลังจ้องมองเราอย่างไม่ละสายตา แต่กลับได้ความสงสัยเข้ามาแทน
ว่าทำไมชายแปลกหน้าถึงต้องมานั่งในคันนี้ ด้วยเหตุผลอะไร แล้วสายตากับสีหน้าที่กำลังวิงวอนเหมือนกำลังร้องขออะไรบางอย่าง
แล้วทันใดนั้น ความอัดอั้นที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของชายคนนี้ กำลังจะจางให้ไป เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีใหม่ ทำให้เรานั้นต้องก้าวต่อไป
ทิ้งไว้แต่ความสงสัยในใจ ว่าเหตุใด ทำไมคุณถึงนั่งอยู่ในรถคันนั้นที่รายล้อมไปด้วยลูกกรงที่แน่นหนาขนาดนั้น
ในที่สุดปฏิสัมพันธ์ของเราผ่านดวงตานั้น ก็ค่อยๆไกลห่างออกไป ได้เหลือทิ้งเอาไว้เพียงแต่ใบหน้าที่เปรอะเปื้อน กับตราของกรมราชทัณฑ์ที่ติดอยู่ข้างรถกระบะคันนั้น
แล้วเราต่างก็ออกเดินทางกันต่อไปบนท้องถนนที่อยู่บนคนละเส้นทาง
“ในดวงตาคู่นั้น กำลังสื่อสารอะไร?”
ยังมีเรื่องราวในมุมมองอีกมากมายจาก “กล่องข้อความเที่ยงคืน” ใน https://reviewchiangmai.com/author/teerapat/