ร้านขายผลไม้ มากมายในเชียงใหม่ แต่ร้านใดคือร้านที่ดีที่สุดในความคิดของคุณ…สำหรับเราแล้ว ร้านที่ดีที่สุดไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่แพงที่สุด สวยที่สุด หรือมีลูกค้าและความนิยมมากที่สุด แต่ดีที่สุด คือตั้งใจและเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำได้อย่างถ่องแท้มากที่สุด นำเสนอได้ลึกซึ้งที่สุด และให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่คนเชียงใหม่และคนที่มาเยือน
ร้านผลไม้ เชียงใหม่แลนด์
พิกัด ในโครงการเชียงใหม่แลนด์
เวลาเปิดปิด 07.30-21.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 081-8831102, 089-7552544
ถ้าพูดถึงแหล่งจับจ่ายผลไม้ในบ้านเรา หลายคนคงนึกถึงกาดเมืองใหม่ กาดสมเพชร หรือกาดหลวง น้อยคนจะนึกถึงเชียงใหม่แลนด์ โครงการที่เคยรุ่งเรืองและมีร้านยอดนิยมมากมายในยุคหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นยังมีร้านผลไม้ร้านหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดเปิดขายจนถึงทุกวันนี้ โดยคงคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของร้านไว้ไม่มีเปลี่ยนแปลง
“ขายตรงนี้มานาน และก็ยังคิดที่จะขายตรงนี้ต่อไป กลุ่มลูกค้าเราคือคนเชียงใหม่ เราอยากขายให้คนเชียงใหม่ได้ทานผลไม้ร้านเราอยู่แล้ว ไม่ได้เน้นนักท่องเที่ยวเหมือนกับร้านผลไม้ที่อยู่ในเขตเมือง ดังนั้นทำเลตรงนี้จึงไม่มองว่าเป็นปัญหาอะไร ก็ยังอยู่ได้เรื่อยๆ” คุณหมวย-จันทร์ทิรา จาง เจ้าของร้านบอกกับเรา
ร้านผลไม้เชียงใหม่แลนด์ หรือร้านผลไม้เจ๊หมวย ที่เปิดมานานกว่า 12 ปี บริการผลไม้สดทั้งผลไม้ไทยและผลไม้นอก จากในประเทศและต่างประเทศ จุดเด่นของร้านอยู่ที่แม่ค้าคนเก่งคัดและเลือกผลไม้ด้วยความพิถีพิถัน มีแต่ลูกที่สวย ซื้อไปฝากได้ไม่อายใคร คุณหมวยบอกว่าส่วนใหญ่สั่งผลไม้จากตลาดไท ตลาดมหานาค และปากคลองตลาด โดยสั่งของชนิดเดียวกันแต่ถ้าวันนี้ของใครสวยก็จะสั่งของคนนั้น อย่างแอปเปิ้ล สาลี่ ส่วนมากจะมาจากตลาดมหานาค ส่วนเชอร์รี่จะมาจากตลาดไท
“จริงๆ แล้วผลไม้พวกนี้ก็เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้เจ้าไหนอะไรสวย ของบางอย่างที่ส่งมาไม่ได้สวยอย่างที่คิดนะคะ แต่ว่าหมวยเลือกเฉพาะลูกที่สวยมาขาย คัดผลไม้เองทุกวัน พรมน้ำ จัดผลไม้ตลอดทั้งวัน อาจจะมีบ้างบางทีที่พลาด ลูกค้าซื้อไปแล้วเจอลูกที่เสียหรือไม่ดี สามารถถ่ายรูปมาให้ดูแล้วทางร้านจะชดเชยให้”
วิธีคัดเลือกผลไม้ของคุณหมวยนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน ขอแค่อย่าให้มีตำหนิเป็นพอ ผลไม้ที่มีแผลหรือมีรอยกระแทกเพียงนิดหนึ่งจะถูกคัดออกทันที โดยผลไม้ที่ถูกคัดออก คุณหมวยจะเอาไปปอกเป็นผลไม้สด จัดเป็นแพ็คพร้อมทานขายแทน ซึ่งในร้านมีป้ายเขียนติดไว้ว่าสามารถเลือกหยิบได้ตามใจชอบ ขอลองชิมได้ตามต้องการ แต่ต้องรักษาความสะอาดภายในร้าน ทิ้งเมล็ดหรือเศษผลไม้ในถังขยะให้เรียบร้อย ถ้าทำตกต้องซื้อกลับไป และหากชิมแล้วถูกใจให้ซื้อแพ็คนั้นเพราะแพ็คอื่นรสชาติอาจไม่เป็นอย่างที่ชิม
“อย่างเชอร์รี่ที่ร้านมีหลายพันธุ์ให้เลือก บางชนิดสีคล้ำแต่รสชาติหวานกว่า นิ่มกว่า แต่สีแดงจะกรอบกว่า ให้ลูกค้าเลือกว่าชอบแบบไหน อย่างช่วงนี้มีแตงธิเบต แตงซีเจียง วันไหนหวานน้อยก็จะบอกว่าไม่ค่อยหวานแต่เนื้อกรอบ ถ้าชอบก็ซื้อ คือร้านเราไม่ห้ามเลือกของ อยากเลือกเลือกได้ตามสบาย ทุกอย่างเขียนราคาหมด แม้ว่าจะเป็นผลไม้แบบเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วมีความต่างอยู่”
ผลไม้อันโดดเด่นของ ร้านผลไม้เชียงใหม่แลนด์ คือเชอร์รี่และองุ่น ซึ่งองุ่นส่วนใหญ่เป็นพันธุ์จากอเมริกา จัดขายเป็นแพ็ค ชั่งตามน้ำหนัก ส่วนเชอร์รี่ขายเป็นกิโลกรัมละ 950 บาท ครึ่งกิโลขาย 480 บาท โดยผลไม้มาสดใหม่ทุกวัน ของเข้าใหม่ตลอด มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าอย่างไหนเหลือเท่าไร อย่างวันไหนเชอร์รี่หมด องุ่นเหลือน้อย คุณหมวยจะโทรสั่งทันที ดังนั้นคุณภาพของผลไม้จึงมีมาตรฐานไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับเรื่องของราคา ราคาขายมาตรฐานตามป้าย ไม่มีการลำเอียงว่าลูกค้าขาประจำ สนิทหรือไม่สนิท จะได้ส่วนลดพิเศษ เพราะเป็นที่รู้กันในกลุ่มลูกค้าว่าร้านนี้ต่อรองไม่ได้ แต่ถ้าซื้อยกยอดรวมมาเป็นเศษ ทางร้านจะปัดให้ และไม่ว่าจะซื้อกับใครก็จะได้เกณฑ์แบบเดียวกัน
“ราคาขายตามป้าย ต่อไม่ได้ ทุกอย่างขายเหมือนกันหมด รวมยอดมาแล้วเป็นเศษจะปัดทิ้งให้ คือซื้อเป็นกิโล อย่ามาต่อ เดี๋ยวแม่ค้าจัดการให้เอง เศษ 5 บาท 3 บาท 2 บาท ตัดออกเลย ไม่เอา ยกเว้นถ้าเป็นขนมจะไม่มีการลดราคา แล้วทุกคนจะต้องไม่พูดว่ามาซื้อเท่านี้ทำไมวันนี้ขายเท่านี้ เพราะที่ร้านตกลงกันแล้วว่ารวมบิลมายกยอดตรงนี้ทีเดียว จะไม่มีการลำเอียงหรือเลือกลูกค้า”
คุณหมวยบอกว่าด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบอะไรที่จุกจิก และอยากให้สบายใจเหมือนกันทุกฝ่าย ทั้งแม่ค้าและลูกค้า อย่างช่วงเทศกาลที่หลายคนนิยมมอบกระเช้าผลไม้เป็นของขวัญ ทางร้านก็รับจัดเป็นตะกร้าผลไม้ โดยสามารถนำตะกร้ามาเองได้ ส่วนเลือกผลไม้ถ้าเชื่อใจกันปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ค้า แต่ถ้าอยากจะจัดเองก็ได้ ทางร้านก็ไม่ว่าอะไร
“เวลาสำนักงานหรือออฟฟิศมาขอให้จัดตะกร้าผลไม้ให้ หมวยบอกเลยว่าถ้าเอาตะกร้ามาเองได้ให้เอามาเพราะจะช่วยประหยัดเงินได้เยอะ แต่ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะถ้าตะกร้ามาสกปรกอย่างไรก็จะจัดไปอย่างนั้น ถ้าเป็นลูกค้าเจ้าประจำที่เชื่อใจกันจะโทร. มาบอกว่ามีงบประมาณเท่าไร เราก็จะจัดไว้ให้เลยทันที แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่ไม่เคยเห็นหน้าหรือว่าเป็นหน้าใหม่ทางร้านจะจดรายการไว้ให้ทุกอย่างว่าค่าอะไรเท่าไร ถ้าลูกค้าระแวงเราก็ให้ลูกค้าเลือกเองเลย สบายใจกว่า”
อีกเรื่องที่คุณหมวยอยากให้เข้าใจคือเรื่องของความพอใจในการซื้อ ที่ทางร้านไม่ได้บังคับใจให้ต้องมาซื้อของแพง คือถ้าชอบ ถูกใจในราคาตามป้ายที่เขียนไว้ก็จับจ่ายกลับบ้านไป แต่ถ้ามาแล้วรู้สึกว่ามีที่อื่นถูกกว่า ก็ไปซื้อที่อื่นได้ก็ไม่ว่ากัน ดีกว่าต้องมาตอบคำถามที่ชวนอึดอัดใจ
“ถ้าเห็นว่าสินค้าตัวไหนในร้านถูก ชอบใจก็ซื้อ ถ้าแพงให้ไปซื้อที่อื่น คือไม่ได้ประชดหรือแดกดันนะคะ หมวยเองก็อยากขายของสบายๆ ไม่อยากมาซีเรียส ดังนั้นเวลาลูกค้าถามว่าทำไมขายแพงจัง ตลาดขายเท่านี้ หมวยตอบอะไรไปก็ดูผิดหมด วิธีเดียวคือถ้าคิดว่าถูกก็ซื้อ ถ้ารู้สึกว่าแพงไม่เป็นไร ไม่ต้องจอดรถซื้อก็ได้ หมวยไม่ว่า ไม่ได้หยิ่งนะคะ อยากขายแทบตายแต่ไม่อยากปวดหัว ดังนั้นคำถามทำไมต้องแพงไม่ควรต้องมาถาม”
นอกจากเรื่องของผลไม้ที่ทางร้านเอาใจใส่ รวมถึงการขายที่เน้นความสบายใจแล้ว อีกเรื่องที่คุณหมวยให้ความสำคัญคือการที่เจ้าของร้านทำหน้าที่เป็นผู้ขายและพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง เมื่อมีปัญหาหรืออะไรสงสัยก็สามารถให้คำตอบได้อย่างชัดเจน
“จริงอยู่ที่ร้านผลไม้ที่อื่นๆ ก็จัดของสวยเหมือนกัน เลือกผลไม้ก็อาจจะเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันคือหมวยเป็นคุยกับลูกค้าเอง ขายของเอง หมวยไม่ให้ลูกน้องขาย เพราะถ้าทำผิดจะได้ขอโทษลูกค้าทันที”
ร้านผลไม้เชียงใหม่แลนด์อาจจะไม่ใช่ร้านผลไม้อันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึง แต่ด้วยคุณภาพของผลไม้ และสิ่งที่คนขายเอาใจใส่กับลูกค้า ทำให้เราเลือกร้านผลไม้แห่งนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดของเรา
ท่านใดมีร้านที่ดีที่สุดในใจ แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ