ใครที่ชอบดูหนัง Sci-fi คงรู้ว่าประโยคที่ผมพูดหมายถึงอะไร
สมัยก่อนเคยเห็นแต่ในหนังว่ามีหลายๆคนคุยแบบเห็นหน้าพร้อมๆกันจากต่างสถานที่ คือมันล้ำมาก มันจะเป็นไปได้ยังไง พอมาวันนี้ มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว วันนี้ผมกับทีมงานใช้แอพ Zoom คุยกันสองรอบๆละไม่ต่ำกว่า 1.30 ชม. รวมแล้ววันนี้ประชุมออนไลน์กว่าสามชั่วโมง
ไม่ว่าจะยอมรับ หรือต่อต้าน หรือเฉยๆ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราหนีอนาคต (Future) ไม่พ้นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอเข้ากับสถานการณ์ที่บีบบังคับเช่น กรณีเจ้า COVID-19
รัฐบาลประกาศปิดเมือง ร้านอาหารห้ามมีโต๊ะนั่งซื้อกลับได้อย่างเดียว คนแห่สต๊อคกักตุนอาหาร คนต้องกักตัวเองอยู่บ้านไปไหนไม่ได้ จากที่ไม่เคยสั่งของออนไลน์ก็ต้องมาเรียนรู้ จากที่ไม่เคยสั่ง Grab, Foodpanda ก็ต้องลองใช้ แอพสื่อสารทั้งหลายต้องถูกโหลดมาเต็มมือถือ
เอาเป็นว่าผมคิดว่าเราไม่ต้องไปต่อต้านเทคโนโลยีอะไรหรอก เรา (ที่เริ่มมีอายุกันแล้ว) ควรเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากมัน อย่าลืมว่าข้อดีของการเริ่มมีอายุมากขึ้นคือ เราจะมากด้วยประสบการณ์ ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้องรอบคอบ
มีเกมส์โชว์ทาง Netflix ชื่อ 100 Humans ทำการทดลองกับคนหลายวัย ตั้งแต่ 20, 30 40, 50 และ 60 เพื่อค้นหาว่าคนในวัยใดมีประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์สูงที่สุดในบรรดาคนต่างวัยทั้งหมด
ครับ คุณเดาถูกแล้ว เด็กวัย 20 ต้นๆเป็นวัยที่มีพลังงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถทำงานเป็นทีมและแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด แต่ลำดับที่สองนี่แหละครับที่ทำให้ต้องแปลกใจ เพราะมันคือคนวัย 60 ขึ้นไปครับที่ทำผลงานได้ดีรองลงมา ลองไปหาซีรี่ย์นี้ดูกันนะครับ
สรุปว่า ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่มากหรือน้อย หนุ่มหรือแก่ เราก็ควรใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์สูงสุดกันนครับ
