พามาไหว้พระธาตุหริภุญชัยที่ลำพูน

มีคำพูดที่บอกว่า ถ้าหากมาลำพูนแล้วไม่ได้มากราบไหว้พระธาตุหริภุญชัย มันก็เหมือนกับว่ายังไม่เคยมาจังหวัดลำพูน เนื่องด้วยพระธาตุหริภุญชัยมีความสำคัญมากสำหรับลำพูน โดยเฉพาะชาวล้านนาไทย ทั้งยังเป็นที่รู้จักมักจี่เป็นอย่างดีของคนทั่วไปอีกด้วย

ความเป็นมาเป็นไปชื่อของวัดพระธาตุหริภุญชัย ก็มาจากชื่อของเมืองหริภุญชัย ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงพยากรณ์ไว้เมื่อครั้งเสด็จมาบิณฑบาตในสมัยพระพุทธกาลและได้แวะรับและฉันลูกสมอ ที่ชาวลั๊วะนำมาถวาย โดยได้ทรงพยากรณ์ไว้ตอนนั้นว่า สถานที่แห่งจะมีผู้มาสร้างเมืองและตั้งชื่อว่า “หริภุญชัยนคร”

วัดพระธาตุหริภุญชัยสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ในรัชสมัยของพญาอาทิตยราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ โดยที่แห่งนี้ เคยเป็นพระราชฐานของพระองค์ซึ่งพระราชทานอุทิศถวายให้เป็นวัดพระธาตุฯ เพื่อเป็นพุทธบูชาหลังจากที่พระบรมสารีริกธาตุได้ปรากฏ ให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรในบริเวณดังกล่าว

ส่วนพระธาตุหริภุญชัยตามที่ปรากฏในหนังสือตำนานบอกเอาไว้ว่า เดิมมีลักษณะ เป็นสถูปสี่เหลี่ยมทรงปราสาท ที่มีซุ้มทวาร เข้า-ออกทะลุกันได้ทั้งสี่ด้าน มีปราสาท สี่เหลี่ยมอยู่ตรงมุมละองค์ก่อด้วยศิลาแลงซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีมากอยู่ในเมืองนี้ ภายในเป็นแท่น สำหรับประดิษฐาน พระโกศที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  ก่อนจะมีการปฏิสังขรณ์ครั้งใหม่ในเรื่องทรวดทรง กลายเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมแบบทรงลังกา ในสมัยพญาเม็งราย มีการปิดทองกันต่อมาในสมัยพระเจ้าแสนเมือง และมีการก่อพระมหาเจดีย์ให้สูงขึ้นจากเดิม โดยพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์องค์สำคัญแห่งเมืองเชียงใหม่ ทรงร่วมกับพระมหาเมธังกรเถระ  จนเป็นรูปร่างที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันกันครับ

นอกจากตัวพระธาตุหริภุญชัยแล้ว ภายในวัดยังมี วรมหาวิหาร มีสิ่งปลูกสร้างมากมาย ที่มีการสร้างโดยเจ้าเมือง พระสงฆ์ นักบุญล้านนา มาตามแต่ละยุค แต่ละสมัย มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สุวรรณเจดีย์หรือปทุมวดีเจดีย์  ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นองค์เจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ เป็นเจดีย์ทรงปราสาทมีฐานสี่เหลี่ยมซ้อนชึ้นไป ห้าชั้น  หรือจะเป็นหอระฆัง  หอสำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นโดย พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ

บรรยากาศภายในวัดตอนที่ผมเข้าไปกราบไหว้สักการะพระธาตุหริภุญชัย เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งคนเฒ่าคนแก่ ลูกเล็กเด็กแดง หนุ่มสาว ที่ต่างกราบไหว้ ทำบุญกันที่นี้ ถึงแม้ว่าอากาศในตอนกลางวันจะร้อนจัดเอาการอยู่ ก็ตาม

ข้างในวัดก็จะมีตู้บริจาคให้ทำบุญกันมากมาย หาใครป้ำๆเป๋อๆ เด๋อๆด๋าๆ ไม่รู้ว่าจะไหว้พระไหว้เจ้าต้องใช้ธูปเทียนดอกไม้เท่าไหร่ ก็สอบถามป้าๆที่อยู่ในวัดตรงซุ้มดอกไม้ได้ แกสามารถให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี อย่างผมเกิดวันจันทร์แกก็จะหยิบเทียนที่ห่อให้ด้วยคาถาบูชาของคนเกิดวันจันทร์ ทั้งนี้เพื่อให้ตรงตามสเป็กของแต่ล่ะคน และเพื่อประโยชน์อันสูงสุดในการทำบุญ

อ่อ ลืมบอกไปครับว่า ที่นี้เขาจะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัยเป็นประจำกันทุกปี เพื่อเป็นการสักการะพระธาตุ และเป็นการบูชาเสาหลักเมือง เพราะชาวลำพูนถือว่าพระธาตุหริภุญชัยเป็นเสาหลักเมืองของนครหริภุญชัย อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดปีระกาอีกด้วย

หลายคนอาจจะบ่นว่าการมาเที่ยววัดไม่ค่อยมีอะไรหน้าดึงดูดใจเลย แต่ถ้าคุณได้ลองมาสัมผัสดู ได้พบเห็นอะไรหลายๆอย่างในวัด ได้ทำบุญ ได้มาไหว้พระ นั่งสมาธิ มันจะทำให้คุณรู้สึกสบายใจ และดูสงบขึ้นแน่นอนครับ ดีกว่าคุณไปเดินเที่ยวห้างที่แสนวุ่นวายในวันหยุดอันเปล่าประโยชน์

ด้านหน้าของวัดพระธาตุหริภุญชัยครับ


ซุ้มตรงประตูทางเข้ามีสิงห์ยืนตระหง่านอยู่

วิหารหลวงหลังใหญ่ที่แฝงด้วยลวดลายวิจิตรสวยงาม

เข้าไปกราบพระต้องแต่งตัวให้สุภาพสำรวมครับ

พระประธานในวิหารในวัดพระธาตุหริภุญชัย

พระธาตุหริภุญชัยสวยงามมากครับ


ตรงนี้จะเป็นที่ไหว้พระธาตุ

ตรงนี้จะเป็นหอระฆัง

ข้ามมาอีกฝั่งจะเป็นหอไตรหรือหอธรรมครับ

มุมที่มองจากซุ้มประตูเข้าจากด้านใน

ด้านหน้ามีกาดขายสินค้า OTOP

วิวแม่น้ำกวงที่อยู่ตรงข้ามวัด


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

Relate Posts :