กลับมาตามสัญญาตะลุยเมืองเกาหลีกลางกรุง เดินเข้ามาในดงร้านอาหารทั้งที ไม่กินก็กะไรอยู่ จัดไปครับ น้องสาวคนสวยเดินเลือกร้านอยู่นาน มีมากมายหลายร้าน ซึ่งเธอก็รู้จักทุกร้าน และแอบบอกเราอีกว่า แทบทั้งหมดเป็นเจ้าของเดียวกัน โอ้ มันช่างคล้ายกับเรื่อง เจ้าของแว่นบิวตี้ฟูล กับเจ้าของแว่นท๊อปเจริญ คือคนๆเดียวกัน แกล้งมาเปิดแข่งกันอย่างไงอย่างงั้น
เลือกไปเลือกมาได้ร้านชื่อ จังวอน แปลว่าอะไรไม่รู้ เข้าไปถึงเป็นร้านติดแอร์ปิ้งย่าง มีแขกอยู่มากกว่าครึ่ง ทั้งเกาหลีและฝรั่ง เราเลือกนั่งโต๊ะในสุด เวลาทำเปิ่นๆจะได้ไม่มีใครเห็น
ดูเมนู ไอ่ชิบหาย แพงว่ะ อะไรไม่รู้เป็นชุดๆ สั่งไม่เป็น เรียกชื่อไม่ถูกสักอย่าง บอกน้องเอาเหล้ามากินละกัน ยังมาถามอีกว่าเอาเหล้าบ๊วย หรือโซจู โอ้ยย ไม่รู้เว้ย อะไรก็เอามา เมาๆจะได้กล้า สุดท้ายได้เหล้าบ๊วย รสชาติหวานๆ จิบดูคิดว่ากินเท่าไหร่คงไม่เมา
อาหารที่สั่งไปคือ ชุดเนื้อย่างอะไรสักอย่าง และก็เนื้อกระทะอะไรสักอย่างอีกเหมือนกัน พร้อมทั้งข้าวยำ ว่าแล้วเขาก็ยกขบวนเครื่องเคียงมาวางจนเต็มโต๊ะไปหมด ถามดูว่าอาหารนี่ได้ครบแล้วใช่มั้ย เขาบอกยังไม่มาสักอย่าง ที่วางอยู่นี่คือ ของเคียงชุดเนื้อย่าง มีสิบกว่าถ้วย หมดแล้วขอเติมได้ไม่อั้น อ่ะ ดูหน้าตามันหน่อย
ระหว่างการกิน ตั้งแต่เขายกมา เราไม่ต้องทำอะไร คีบกินอย่างเดียวเลย เขาจะมีพนักงานประจำโต๊ะ คอยปิ้งย่าง พลิกเนื้อ เติมน้ำ น้ำจิ้มให้เสร็จ เราคิดในใจแม่งสุดยอดบริการว่ะ พอเช็คบิลถึงรู้ว่า เขาบวก Service Charge เพิ่มอีก 10% โถ ไอ่บ้านนอกเอ๊ยย ที่บ้านนอกไม่มีแบบนี้ล่ะสิ มิน่าเขาบริการดีจัง
กินทั้งหมดนั่นละ เหล้าก็หมดเพราะขวดเล็กมาก เช็คบิลมาเกือบสองพันบาท เอาบิลมาดู แพงค่าเหล้าแฮะขวดละตั้งแปดร้อย ถ้าตัดออกไปก็เหลือพันหนึ่งร้อยสำหรับอาหารทั้งหมด ก็ถือว่าโอเคนะ ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ สนุกดี อาหารจะบอกยังไงดี มันเลี่ยนๆ ไม่เผ็ด ไม่แซ่บ มันดองๆ เค็มๆไปหมด มันทำให้ลังเลใจว่ายังอยากไปเที่ยวเกาหลีอยู่อีกมั้ย กลัวไปแล้วผอม กินอะไรไม่ลง รู้สึกจะถูกเคมีกับอาหารญี่ปุ่นมากกว่า
แต่ก็ไม่แน่นะ เพราะเราเพิ่งจะลองกินไปไม่กี่อย่าง ของอร่อยถูกปากมันต้องมีแน่ เราจะรอวันนั้นมาถึง สู้ต่อไปเจ้าเกาหลีน้อย ใครอยากไปลองรสชาติเกาหลีแท้ๆ ตามแผนที่ไปเลย