ความหิว มีอิทธิพลมาจากจมูก เพราะได้กลิ่นของอาหาร
ความหิว มีอิทธิพลมาจากดวงตา เพราะได้เห็นของกินที่ชวนน้ำลายไหล
ดังนั้นเมื่อเกิดความหิว เราต้องโทษการสั่งงานของสมองล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับกระเพาะเลยสักนิด แต่ที่แน่ ๆ มีตัวการเป็น“อาหาร” มากระตุ้น ซึ่งถ้าใครได้เข้ามาเจอกับอาหารที่หน้าตาดี กลิ่นดี รสชาติเยี่ยม ต่อให้เป็นนักกินลิ้นเทวดาแค่ไหนก็ต้องมีจอด
ซึ่งมีร้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเหลือเกินเรื่องหน้าตาและกลิ่นของอาหารที่หอมไปสามบ้านแปดบ้าน แถมรสชาติก็ได้รับการการันตีจากนักชิมชื่อดังหลาย ๆ คน แบบนี้ต่อให้เป็นสาว ๆ ที่กำลังรักษาหุ่นมาก็เถอะ ได้กินแล้วอาจมีร้อง “ช่วยเติมข้าวให้หนูหน่อยได้ไหมคะ ?” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มายั่วกิเลสตัวเองกันหน่อย
หัวปลาหม้อไฟ – ถูกต้องตามตำรับต้มยำที่อร่อย ได้รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด แซ่บครบรส ยิ่งได้กินกับหัวปลาเก๋าที่ต้องใช้ฟันแทะเนื้อติดกระดูก กัดหนังเด้ง ๆ พร้อมกับเนื้อหวานหนึบหนับเข้าไปในปาก ตามด้วยการดูดวุ้นที่แทรกซึมอยู่ตามซอกครีบ ทั้งเจลาติน ทั้งน้ำต้มยำ ทั้งความอร่อย ตีกันไปทั่วลิ้นแยกไม่ออก กินไป เหงื่อซึมไป แต่หยุดไม่ได้
ปูเนื้อนึ่งซีอิ๊ว – สุดยอดวัตถุดิบที่ไม่เป็นสองรองใครเรื่องปู เพราะส่งตรงปูเนื้อหรือปูดำเป็น ๆ ดิ้นได้มาจากทะเลสุราษฎร์ฯ นึ่งใส่จานมาให้ทั้งตัว ทุบกระดองให้แตกพอกินง่าย งานนี้ต้องยอมมือเปรอะสักหน่อย จับก้ามปูมาแทะเนื้อหวาน ๆ เคี้ยวได้เต็มปากเต็มคำ หรือจะตักน้ำซอสราดข้าวสวยร้อน ๆ กินคู่กับต้นหอมและคึ่นช่ายก็อร่อยแล้ว
กุ้งแชบ๊วยผัดพริกเกลือ – จานเด็ดที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ และเราก็เต็มใจสนอง เสิร์ฟมาด้วยกุ้งแชบ๊วยไซส์ยักษ์ที่นำไปสะดุ้งในน้ำมันร้อนจัด ก่อนจะนำไปผัดผ่านไฟกับเครื่องพริกเกลือ และต้นหอมซอย เนื้อกุ้งแน่น ๆ เด้ง ๆ ชุ่มฉ่ำไปด้วยรสชาติเผ็ดร้อนของพริก และความเค็มของเกลือ ตักทั้งกุ้ง ทั้งซอส ทั้งต้นหอมราดข้าว กินได้คำโต ๆ เผลอแป๊ปเดียว ข้าวเกือบหมดจาน
ปลาหมึกผัดพริกไทยดำ – แค่ยกออกมาวางให้เห็นก็หิวแล้ว ทั้งกลิ่นทั้งหน้าตาที่ชวนลิ้มลอง รสชาติไม่เผ็ด แต่มีความร้อนและความหอมพริกไทยมาก เนื้อปลาหมึกหนึบหนับ กินพร้อมกับหอมหัวใหญ่และพริกชี้ฟ้า จานนี้ถ้าเนื้อปลาหมึกไม่สดจริงมีหันหน้าหนี แต่ทางร้านสั่งมาจากทางใต้เอง ไม่ซื้อผ่านคนกลาง รับรองความสดได้
หอยแครงลวก – จานธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะเรื่องยากคือหอยต้องสดจริง แถมต้องลวกเป็นด้วย ไม่ใช่ใส่ ๆ แช่ ๆ หอยในน้ำร้อนไปยังไงก็ได้ ความสะอาดก็เป็นเรื่องสำคัญ เคี้ยวไปแล้วเจอทรายนี่ไม่ใช่เรื่องตลก แต่หอยที่นี่สะอาดมาก ไม่มีโคลนหรือทรายไม่พอ แต่ยังมีกลิ่นหอยสด ที่ไม่ใช่กลิ่นเหม็นนะ เป็นกลิ่นทะเลเลย นอกจากนี้ยังเลือกระดับความสุกได้ บอกไปเถอะ เฮียทำให้ได้หมด สุกมาก สุกน้อย สุกฉ่ำ ๆ เลือดแดง ๆ กินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ตำสด ๆ เน้นเลยนะ ! ตำสด ๆ จากครกหินเมื่อมีออร์เดอร์ ไม่ใช้เครื่องปั่น ไม่ทำทิ้งไว้ โอ๊ย ! เจริญอาหาร
ผัดผักแขนงน้ำมันหอย – ถ้าใครจะบอกว่านี่คือเมนูสิ้นคิด ถือว่าผิดมาก เพราะทำมาได้อร่อยชนิดไฟลุก (แอบไปดูตอนทำมา) ผักสดและกรอบเหมือนเพิ่งเด็ดจากต้น ไม่ผัดจนช้ำ น้ำมันหอยก็ปรุงได้เข้มข้น ถูกใจคนรักเมนูผักแน่นอน
แนะนำกันไปเบา ๆ แค่ 6 เมนู ใครที่พ่ายแพ้ต่อความต้องการ เกิดความอยากกินซะให้ได้ “จิว เยาวราช” คือร้านที่เราพูดถึง สำหรับถนนเยาวราชที่กรุงเทพนั้น เพราะความอร่อยของบรรดาร้านเหลาข้างทาง จึงได้เปลี่ยนถนนสายหนึ่งให้กลายเป็นสวรรค์ของนักกิน สำหรับที่เชียงใหม่นี้ เฮียจิวก็ทำได้ไม่เสียยี่ห้อเยาวราช เพราะแกยกความอร่อยระดับภัตตาคารมาไว้ริมทางได้อย่างภาคภูมิเช่นกัน
นอกจากเมนูที่ที่แนะนำไว้ ก็ยังมีเมนูขึ้นชื่อ เช่น ปูผัดผงกะหรี่ เป๋าฮื้อแผ่นเจี๋ยนน้ำมันหอย ปลาเต๋าเต้ยนึ่งบ๊วย ขาห่านอบหมี่ กระเพาะหมูผัดพริกไทยดำ กระเพาะปลาผัดแห้ง นกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ ฯลฯ อีกมากมายที่น่าลิ้มลอง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจีนแต๊จิ๋ว ที่เน้นอาหารทะเล มีความโดดเด่นด้านการใช้เทคนิคการปรุงเพื่อคงความสดใหม่ของอาหาร ที่สำคัญคือใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ มีคุณภาพ โดยร้านนี้จะสั่งวัตถุดิบโดยตรงจากแหล่งผลิต ไม่ได้ไปหาซื้อจากตลาดหรือห้างสรรพสินค้าขายส่งทั่วไป อย่างปู กินเนื้อแล้วต้องรู้ว่าเป็นปู มีรสชาติของปูตามธรรมชาติ คือความหวาน ไม่ใช้ปูแช่แข็งหรือปูตายที่เนื้อจะชืดจนไร้รส หรือแม้แต่หอยแครงและกุ้ง ทุกอย่างต้องมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบนั้น ๆ
เฮียจิว และคุณบอล ลูกชายคนโต ส่วนด้านหลังสุดคือคุณบาส ลูกชายคนเล็กที่มาช่วยงานที่ร้านเช่นกัน ซึ่งเมื่อมาถึง จะเห็นครัวตั้งอยู่หน้าร้านเลย เฮียจิวแกบอกว่าเมื่อก่อนเคยเอาครัวไปไว้หลังร้านแล้วลูกค้าน้อยลง เพราะลูกค้าหลายคนอยากเห็นแกทำอาหาร อีกอย่างเป็นการแสดงความจริงใจกับลูกค้าด้วย ให้ลูกค้าได้เห็นกันจะ ๆ ทั้งความสะอาด และความซื่อสัตย์ในการใช้วัตถุดิบที่ดี
สำหรับลูกค้าที่นี่นั้น ส่วนใหญ่มักจะมากันเป็นครอบครัว เหมือนหิว ๆ ถึงเวลากินข้าวแล้วก็มาหาที่ทาน ไม่อย่างนั้นก็มาทานข้าวเนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ แต่จะไม่ได้มาเพื่อนั่งสังสรรค์หรือดื่มแอลกอฮอล์กันนาน ๆ อย่างดีทานกันไม่เกินชั่วโมงก็แยกย้าย อีกอย่างร้านนี้ทำอาหารกันเร็วมาก เลือกเมนู สั่งอาหาร นั่งสักพักก็มาเสิร์ฟแล้ว ไม่ต้องหิ้วท้องรอ เพราะที่นี่เค้าช่วยกันทั้งครอบครัว อาซ้อต้อนรับลูกค้า ลูกสะใภ้ช่วยเตรียมวัตถุดิบ เฮียจิวกับลูกชายคนโตมีหน้าที่ปรุง ผัด ต้ม ทอด นึ่ง ซึ่งลูกชายคนโตนี่แหละ คือผู้ที่จะรับไม้ต่อ สืบทอดวิชาทำอาหารจากเฮียจิว เฮียจิวบอกว่าลูกทำได้เหมือนพ่อทุกอย่างแล้ว แต่อาจจะช้ากว่าหน่อยเท่านั้น “ที่นี่ไม่เคยจ้างคนนอกหรือจ้างกุ๊กมาทำอาหาร เพราะมันมีปัญหา คุณภาพจะไม่ได้ ฝีมือจะไม่คงที่ นอกจากเค้าจะทำไม่ได้เหมือนเราทำแล้ว พอเค้าลาออก จ้างคนใหม่ รสชาติก็จะเปลี่ยน เป็นปัญหาที่หลาย ๆ ร้านเจอ ลูกค้าก็จะบ่นว่าทำไมร้านนี้รสชาติไม่เหมือนเดิม ทุกจานผมกับลูกชายถึงต้องทำเอง”
ร้านจิว เยาวราชเปิดทำการมานานถึง 21 – 22 ปีแล้ว จากเริ่มแรกที่มีร้าน 1 คูหา ต้องขยายเป็น 3 คูหา (เป็นห้องแอร์ 2 คูหา) และแม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ ริมถนน แต่เฮียจิวก็รับประกันเรื่องคุณภาพ ร้านนี้ถึงขายปูตัวละพันกว่าบาทได้ 5 – 6 ตัวในแต่ละวัน บางวันขายได้มากถึง 8 ตัวภายในคืนเดียวด้วยซ้ำไป บรรดาอาเฮีย อาเสี่ย และเถ้าแก่ รวมถึงนักการเมืองเองก็ตบเท้าเข้ามาอุดหนุนกันเป็นประจำ แถมน้อยมากที่ลูกค้าจะทานเหลือ “ไม่ใช่ว่าร้านเล็ก แล้วใช้ของที่ไม่มีคุณภาพ แต่ร้านยิ่งเล็ก ยิ่งต้องเอาคุณภาพเข้าแข่ง ไม่ต้องเป็นร้านใหญ่ ก็ใช้วัตถุดิบที่ดีได้” เฮียจิวยืนยันถึงอุดมการณ์ของตน
เมื่อใครได้เห็นอาหารร้านจิว เยาวราช จิตใต้สำนึกของทุกคนคงแทบจะกรีดร้องด้วยภาษาจีนว่า 该吃饭了 (กาย ชือ ฟ่าน เลอ) “ถึงเวลากินข้าวแล้วสิ ถึงกินทานข้าวแล้วสิ” กินไปอุทานไปว่า 这么好吃 (เจ้อเมอ ห่าว ชือ) “อะไรจะอร่อยขนาดนี้”ตักชิม ตักกินไม่หยุด กินข้าวจานเดียวไม่พอ ต้องขอเพิ่มแน่นอน !
ร้านจิว เยาวราช
พิกัด : ถนนเชียงใหม่ – สันกำแพง (สายเก่า) เลยสี่แยกปอยหลวงไปเล็กน้อย
เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 21.00 น. (ปิดวันจันทร์)
เบอร์โทร : 053-116113, 081-5302290 (ครัวปิด 20.45 น.)
Facebook : จิวเยาวราช เชียงใหม่