โหนสลิง ผจญภัยบนยอดไม้ 40 สถานี ชมป่าฝนอายุกว่า 1,000 ปี สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ Jungle Flight Zipline กิจกรรมที่จองรวมค่าบริการ มีรถรับ-ส่ง จากที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่ อาหารไทย แบบบุปดฟ่ต์ 1 มื้อ ผลไม้ เครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้ำดื่ม รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุให้กับลูกค้าที่มาทำกิจกรรมเพื่อความปลอดภัย ซิปไลน์ เชียงใหม่
บริการรถรับ-ส่ง มี 4 รอบต่อวัน
1) 08:00 – 08:30 AM
2) 09:30 – 10:00 AM
3) 11:00 – 11:30 PM
4) 12:30 – 13:00 PM
ติดต่อจองกันเลยที่ : โทร. 098-121-4210 แอดไลน์ @majoytrip
Jungle Flight Zipline
ผมเชื่อว่าชีวิตประจำวันของใครหลายคนจะต้องเป็นชีวิตวนลูปที่น่าเบื่อ เช้าตื่นมาก็ไปทำงาน เที่ยงกินข้าวใช้เวลาพักยังไม่ถึงชั่วโมง ก็ต้องรีบกลับมาออฟฟิศเพื่อทำงานต่อ เย็นมาเลิกงานหากไม่ไปดื่มสังสรรค์ต่อ ก็กินข้าวกลับบ้านนอนหลับเพื่อรอเช้าวันใหม่ให้วนมาถึงอีกครั้ง หากเป็นอย่างนี้ไปทุกวันๆ ผมคิดว่าไม่เกิน 1 ปี ชีวิตของคุณๆ ทั้งหลายจะต้องกลายเป็น ตาแก่ หรือ ยายแก่ ที่หมดไฟในการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพื่อแก้ไขเหตุการณ์หมดไฟ ใจไม่สู้ก่อนวัยอันควรผมว่าเราควรที่จะเดินออกมานอกกรอบที่เคยเป็นอยู่ แล้วหาอะไรที่มันสนุก ตื่นเต้น แอดเวนเจอร์เร้าใจ ให้ Adrenaline ได้ไหลออกมาปลุกเร้าวิญญาณที่กำลังหลับไหลอยู่ในส่วนลึกของร่างกายกันดีกว่าครับ วันนี้ผมเลยขอพาท่านผู้อ่านออกมาจากในเมืองแล้ว มุ่งหน้าออกไปสู่ป่าฝนผืนใหญ่ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ Jungle Flight กันครับ
Jungle Flight คือสถานที่กิจกรรมเล่น Zipline ชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่งที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวกัน (Zipline คือการเอาอุปกรณ์ที่ติดล้อเลื่อนแขวนไปบนเส้นสลิงที่แข็งแรงแล้วปล่อยให้เราไหลไปจากต้นไม้หนึ่งไปสู่อีกต้นไม้หนึ่ง) ด้วยเหตุผลที่ว่าที่ Jungle Flight แห่งนี้เป็น Zipline ที่จะพาเราทะยานไปเรื่อยๆ จากต้นไม้สู่ต้นไม้อย่างสนุกสนาน และน่าตื่นเต้น ภายในพื้นที่ขนาด 6 ตารางกิโลเมตรของป่าฝนอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ (ป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ในเชียงใหม่ มีทั้งหมด 2 คือที่ Jungle Flight และ Flight of the Gibbon) พร้อมด้วยฐานกิจกรรมต่างๆ กว่า 33 สถานีสำหรับ Package A และ 24 สถานีสำหรับ Package B อีกทั้งยังมีบริการรับ-ส่งฟรีภายในเมือง สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Package มาเล่นอีกด้วย
เมื่อเดินทางมาถึง Jungle Flight เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาต้องรับแขกที่เดินทางมาถึงพร้อมทั้งยื่นเอกสารให้เราเซ็นชื่อเพื่อให้เราได้รับสิทธิการคุ้มครองจากประกันภัยหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเรา
จากนั้นเจ้าหมายที่ ก็จะทำการขนอุปกรณ์มาเพื่อแนะนำและสวมใส่ให้กับเรา ซึ่งเท่าที่ดูแล้วดูปลอดภัยทีเดียวครับตัวล็อคปลดยากพอสมควรดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าระหว่างที่ห้อยสลิงไปแล้วเกิดมือไปโดนมันจะหลุด ที่สำคัญอีกเรื่องนึงนะ ชุดนี้จะรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 120 กิโลกรัม
จากนั้นก็ได้เวลาของการใส่ชุดแล้วล่ะ ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่ (ต่อจากนี้จะขอเรียกแทนว่า ไกด์ นะครับ) เป็นคนใส่ชุด และ ดูแลเรื่องระบบล็อคให้เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาของการออกผจญภัยกันแล้วล่ะ เริ่มต้นการออกเดินทางด้วยการเดินเท้ามุ่งไปยังสถานีแรก เมื่อไปถึงแล้วไกด์ก็จะเริ่มอธิบายวิธีการเล่นให้ปลอดภัย อะไรที่ทำได้ และ อะไรที่ห้ามทำ ตรงนี้ต้องตั้งใจฟังกันดีๆนะครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง
จากนั้นก็ได้เวลาของการห้อย โหน กันแล้ว ในสถานีแรกๆ จะมีระยะทางที่ไม่ไกลมาและความสูงไม่มากเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำการปรับตัวกัน โดยจะมีไกด์คนหนึ่งคอยช่วยเราในการปล่อยตัว และ อีกคนคอยช่วยรับที่ปลายทางครับ เมื่อรับตัวเราแล้วไกด์ก็จะทำการเอาตัวล็อคไปล็อคกับสลิงที่ขึงไว้กับต้นไม้ก่อนที่จะทำการปลดตัวล้อเลื่อนที่อยู่บนสลิง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เราตกต้นไม้ไปครับ
ระหว่างทางนอกจาก Zipline แล้วก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย เช่น เดินลงบันไดวน (Spiral Staircase), โรยตัวจากที่สูง (Abseil), เดินบนสะพานแขวน (Canopy + Swing Walk) เป็นต้น ซึ่งในทุกกิจกรรมก็จะมีความตืนเต้นแฝงอยู่ในตัว ไม่มากก็น้อยขึ้นอยู่กับคนครับว่าจะรู้สึกขนาดไหน
จากนั้นเมื่อทำกิจกรรมไปได้ซักประมาณครึ่งทางก็ได้เวลาของารพักครึ่งแล้วล่ะ ตรงจุดนี้เมื่อเราห้อยสลิงข้ามมาก็จะมีน้ำดื่มและของว่างไว้คอยแจกอยู่ครับ
เมื่อพักดื่มน้ำทานของว่างกันจะเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาของการเดินทางต่อแล้วล่ะครับ ซึ่งจุดหมายต่อไปของเรานั้นถือว่าเป็นจุด Climax ในช่วงแรกของที่นี่เลยก็ว่าได้ครับ กับ Zipline ระยะทาง 300 เมตรพร้อมชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่สวยงามของป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์
จากนั้นกิจกรรมก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ทั้ง โหนสลิง, เดินป่า, ข้ามสะพานแขวน มาถึงจุดนี้นักท่องเที่ยวหลายคนก็เริ่มมีสีหน้าแบบยิ้มแย้มมีความสุขกันเป็นอย่างดีครับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยังทำหน้าแบบเสียวๆ ตื่นเต้นกันอยู่เลย โดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหน้าอีกไม่ไกลนั้นมีความตื่นเต้นเร้าใจแบบหาใดเปรียบรอเค้าอยู่
และแล้วเราก็มาถึงจุดสุดท้ายที่ถือได้ว่าเป็น Climax ที่น่าตื่นเต้นแบบสุดยอดไม่แพ้การห้อย Zipline 300 เมตร เลย นั่นคือ Abseil หรือ จุดโรยตัวจากที่สูงลงสู่พื้นดินจากความสูง 40 เมตร ฟังดูแล้วมันอาจจะไม่สูงเท่าไรซึ่งจริงๆ มันก็ไม่สูงเท่าไรหรอกแต่ว่าพออยู่ข้างบนแล้ว ผมพูดเลยว่า “มัน สูง มว๊ากกกกกกกกก” แต่อย่างว่าครับ มาถึงจุดสุดท้ายแล้ว งานนี้เลยต้องสวมหัวใจสิงห์ ลุย
เมื่อลงถึงพื้นดินเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเติมพลังงานทดแทนส่วนที่หายไปแล้วล่ะครับ ในทุก Package ที่ได้ซื้อไปนั้นจะรวมอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ให้ทานกันแบบเต็มอิ่มหลังจากทำกิจกรรมกันมาแบบสุดเหวี่ยง ดังนั้นจัดเต็มได้เลยครับ
อ๊อออ…. เกือบลืมบอกไปนอกจากมีรถรับ-ส่งฟรีในตัวเมือง, อาหารเที่ยงแบบจัดเต็มแล้ว ทุกท่านก็จะยังได้เสื้อยืดสวยๆ ไปใส่กันคนละหนึ่งตัวอีกด้วยแหละ เรียกได้ว่าคุ้มค่ากันเลยทีเดียวงานนี้