Lan Na Wild ที่พักกลางป่าใหญ่ใกล้ แม่กำปอง

งานๆๆ ชีวิตนี้มีแต่งาน เลิกงานก็กลับไปสลบที่ห้อง ตื่นมาก็ทำงานอีกกก ทำงานหนักขนาดนี้คือคนหรือโรบอทกันเนี่ยยยย บ่น ต้องหาเวลาไปพักกายพักใจบ้างแล้วล่ะ

เมื่อหัวใจมันเรียกร้องพร้อมร่างกายที่อ่อนล้าเลยพาตัวเองไปชาร์จแบตที่ Lan Na Wild ที่พักเปิดใหม่ใกล้แม่กำปอง เห้ยยยย มันมีแบบนี้ด้วยรึ ดี๊ดีย์อ่ะ เหมือนบ้านต้นไม้เลยยยไปๆๆ นอนฟินกับบรรยากาศปลายฝนต้นหนาวในเต็นท์สีขาวหลังใหญ่กลางป่า แล้วนั่งเล่นชมวิวดอย 180 องศา แถมยังมองเห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ตกดินแบบไร้ตึกสูงบดบังด้วยนะแกๆๆๆ หิวเหรอ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวพาไปชิมอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากหมู่บ้านป๊อกที่อยู่ใกล้ๆ ว่างๆ ก็เดินไปเที่ยวในหมู่บ้าน ขยันหน่อยก็เดินไปน้ำตก พักกันไปเลย 2 วัน 1 คืน จะฟินขนาดไหน เก็บกระเป๋าแล้วตามเรามาเลยยยย

.Highlights

  • ที่พักเป็นเต็นท์สีขาวที่ใช้วัสดุชั้นดีในการสร้าง สะดวกสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง เงียบๆ ได้ตลอดวัน เต็นท์มี 6 หลัง สำหรับ 2 คน 2 หลัง สำหรับ 4 คน 2 หลังและเต็นท์แบบออนเซ็นสำหรับ 4 คนอีก 2 หลัง (เต็นท์แบบออนเซ็นจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2560)
  • ห้องอาหารมี 2 ชั้น สามารถมองเห็นวิวภูเขากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ช่วงเย็นๆ สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้ที่นี่ซึ่งแต่ละวันภาพที่เห็นจะไม่เหมือนกันเลย บางวันอาจเจอทะเลหมอก ผู้ที่ไม่ได้มานอนพักที่รีสอร์ทก็สามารถแวะมานั่งกินอาหาร ชมวิวสวยๆ ได้
  • อาหารของที่นี่มีทั้งอาหารไทยและอาหารพื้นเมือง เช่น ผัดยอดฟักแม้ว ยำเมี่ยงใบชา น้ำพริกอ่อง เป็นต้น โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากสวนของชาวบ้านหมู่บ้านป๊อกนั่นเอง รับรองว่าสด สะอาด ปลอดภัย ไฮไลต์ที่ใครก็ต้องสั่งคือ ชุดจิ้มจุ่ม นั่งกินท่ามกลางอากาศเย็นสบายบนดอย มันฟินมากกกกก
  • โซนของร้านกาแฟและชา ชาเป็นชาอัสสัม เร็วๆ นี้จะมีชาจากหมู่บ้านแม่กำปองด้วย มีกาแฟชงจากเครื่อง press hand นอกจากนี้ทางร้านยังมี Craft Beer หลากหลายชนิด เรียกได้ว่าหาดื่มได้ยาก มาให้คอเบียร์ได้ลองกันอีกด้วย
  • นอกจากจะได้พักผ่อนในพื้นที่ป่าเขียวขจีกว่า 10 ไร่แล้ว เรายังสามารถตื่นมาใส่บาตรและเดินเที่ยวในหมู่บ้านป๊อกได้อีกด้วย หมู่บ้านป๊อกเป็นชุมชมเล็กๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทุกบ้านจะปลูกต้นไม้และมีพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้ขายและกินเอง นอกจากนี้ยังมีน้ำตกให้เที่ยวอีกด้วย ขอบอกว่าน้ำตกสวยงามไม่เหมือนที่อื่นแถมน้ำยังใสไหลเย็นจนอยากโดดลงไปเล่นตอนนั้นเลย
  • พิกัด : Lan Na Wild ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านป๊อก ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ขับมาตามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำพูน เลี้ยวซ้ายไป อ.สันกำแพง ตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน ถ.วงแหวนรอบกลาง ผ่านน้ำพุร้อนสันกำแพง แล้วขึ้นเขาไปจนผ่านโครงการหลวงตีนตก พอเจอสามแยก เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกไปร้านกาแฟไจแอนท์ สังเกตทางซ้ายมือก่อนถึงที่จอดรถ จะพบกับป้ายหมู่บ้านป๊อกและทางไปหมู่บ้าน ขับเข้าไปประมาณ 200 เมตร จะพบกับ Lan Na Wild (แผนที่อยู่ภาพสุดท้าย)
  • เวลาเปิด-ปิด : โซนร้านอาหารเปิด 09.00-21.00 น.
  • Facebook : www.facebook.com/lannawild/
  • โทร : 089-143-9225

เราไปถึงรีสอร์ทช่วงเย็น พอเปิดประตูลงจากรถ สัมผัสแรกคืออากาศเย็นสบายมาก มีลมพัดเบาๆ พอเดินเข้าไปถึงตัวร้านอาหารของรีสอร์ท วิวที่ทำให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นคือวิวนี้เลยยย ภูเขาสลับซับซ้อนมีหมอกลอยอยู่ตรงหน้า

“ตรงจุดนี้สามารถชมวิวได้ทั้งวัน ทุกเย็นจะมีพระอาทิตย์ตกดิน วิวแต่ละวันไม่ซ้ำกันเลย ถ้าโชคดี ตอนเช้าๆ จะเจอทะเลหมอกด้วย” เจ้าของรีสอร์ทเล่าให้เราฟัง

ปะๆๆ ก่อนจะมากินข้าวชมวิว ขอไปดูที่พักกันก่อน เห็นเต็นท์หลังใหญ่ปุ๊บนึกถึงสมัยตัวเองยังเป็นเด็กที่ชอบบ้านต้นไม้เอามากๆ เต็นท์ยกสูงจากพื้น มีป่าล้อมรอบเหมือนบ้านต้นไม้ที่เราเคยจินตนาการเอาไว้เลยยย

ที่แห่งนี้ชื่อว่า Lan Na Wild ทุกการออกแบบ ดีไซน์ วัสดุ การเลือกโลเคชั่นทุกอย่าง มีเรื่องราว ที่มา เจ้าของเขาใส่ใจในรายละเอียดมากๆ เพราะอยากให้คนที่มาพักได้รับความสะดวกสบายและประสบการณ์ดีๆ กลับไปนั่นเอง อย่างเต็นท์หลังใหญ่ที่เราพักกัน ผู้ออกแบบจากแบรนด์ BAMBUNIQUE เลยนะ ส่วนวัสดุที่ใช้ก็แข็งแรงทนทานและได้รับการดีไซน์มาแล้ว

ขอวาร์ปไปตอนเช้าแป๊บหนึ่ง คือเราอยากให้ทุกคนได้เห็นนน บรรยากาศทำให้เราไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ที่นี่ทั้งวัน

เราตื่นมาพร้อมเสียงนกร้อง ตอนกลางคืนก็นอนฟังเสียงแมลงจนเพลิน ตื่นมาแบบไม่ต้องรีบไปเที่ยวที่ไหนต่อเพราะเราไม่ไป 5555 เราตั้งใจที่จะมาพักผ่อนที่นี่จริงๆ พอชีวิตมันไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก ก็มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ขีดๆ เขียนๆ อ่านหนังสือ จิบชาไปเรื่อยๆ ที่นี่อากาศเย็นสบายและเงียบสงบ

ส่วนภายในเต็นท์มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เตียงนอนมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว รับรองว่าหลับสบายตลอดคืน โซนสำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง ที่เก็บของก็ถูกซ่อนไว้อย่างดีหลังเตียง ไม่ดูเกะกะ มีห้องน้ำในเต็นท์ด้วยยย เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นแบบแก๊ส รับรองว่าได้อาบน้ำอุ่นสมใจไม่มีหนาว

ป่ะๆ วาร์ปกลับไปที่โซนห้องอาหารกันก่อน

โซนห้องอาหารทำจากหลองข้าวเก่า ตกแต่งสไตล์ล้านนา มีสองชั้น จะนั่งชั้นไหนก็เห็นวิวภูเขาได้เหมือนกัน อาหารของที่นี่มีทั้งอาหารไทยและอาหารพื้นเมือง ถึงจะไม่ได้มานอนพักที่นี่ก็แวะมากินข้าวชมวิวกันได้นะ นอกจากนี้เขายังมีโซนร้านกาแฟและคราฟเบียร์ด้วย

บรรยากาศตอนเย็น

บนฟ้ามีเมฆลอย บนดอยมีหมูจุ่มมม หนึ่งในไฮไลท์เด็ดของที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ใครๆ ก็สั่ง นั่งกินหมูจุ่มท่ามกลางอากาศเย็นๆ ก็ทำให้อุ่นกาย อิ่มท้องไปตามๆ กัน

น้ำจิ้มมีสองแบบคือน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มมะกรูด สูตรของทางร้านเอง

ถึงท้องจะอิ่มแต่จากคำบอกเล่าว่าเซ็ตอาหารเหนือ บางเมนูหากินยากนะ เลยจัดมาอีกชุดใหญ่ ที่บอกว่าหากินยากเพราะเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกกันเฉพาะพื้นที่อย่างยำเมี่ยงใบชา ใบเมี่ยงก็มาจากสวนของชาวบ้าน บ้านป๊อกนี่เอง นอกจากนั้นก็มีฝักแม้วผัดไข่ แกงฮังเล น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่องและอีกหลายเมนูให้เลือก

ขณะที่เราอิ่มอร่อยกับอาหารเหนือโต๊ะข้างๆ ก็สั่งเซ็ตอาหารไทยมากินกัน ขอแว็บไปดูนิดหนึ่งว่ามีเมนูอะไรบ้าง อื้อหือออ ต้มยำไข่ตุ๋น ปลาทูต้มเค็ม ไก่นึ่งสูตรเฉพาะของทางร้าน น่ากินมากกก

ถัดจากไก่นึ่งก็เป็นเห็ดหอมน้ำมันหอย เมนูสุขภาพทานง่าย


เมนูเพื่อสุขภาพอย่างสลัดจานยักษ์ก็ฮอตฮิตไม่แพ้กัน สาวๆ ชอบ ข้างๆ คือข้าวผัดกุ้ง

ใครสนใจเบียร์คงเบียร์คราฟ ทางร้านก็มีกับแกล้มให้เลือก หมึกกะตอยทอดกรอบๆ กับไก่ทอดหอมๆ กินๆ จิบๆ กันไปเรื่อยๆ

บรรยากาศยามค่ำคืน เงียบสงบเป็นส่วนตัวมากๆ

หลังจากอิ่มท้องแล้วเรายังไม่กลับที่พัก ของเดินย่อยอาหารแป๊บหนึ่ง

พอกลับมาที่เต็นท์แล้วอาบน้ำ นอนเล่นบนเตียงอุ่นๆ ซักพัก เราก็เผลอหลับไปพร้อมกับเสียงแมลง ตื่นเช้ามาฟังเสียงนก หยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาอ่าน จิบชาอุ่นๆ ให้ร่างกายสดชื่น สูดอากาศให้เต็มปอด แล้วนอนต่อ 555 ไม่ใช่ละ อาบน้ำแต่งตัวได้แล้ววว

นี่พี่เรา บอกกับเราว่า อยากเปลี่ยนสถานที่ทำงานใหม่ๆ ดูบ้าง เลยชวนมาด้วยกัน ที่นี่ถึงจะอยู่กลางป่าและ WiFi แรงเน้อ จะทำงาน ส่งเมล์ก็ไม่สะดุด

สิ่งที่ขาดไม่ได้ ถ่ายรูปเช็คอินกันก่อนนน

Processed with VSCO with a6 preset

ทุกคนนน ออกมาๆ มาถ่ายรูปกันนน

เดินเล่นตอนเช้าๆ อากาศเย็นสบาย

มีพระจากหมู่บ้านป๊อกมาบิณฑบาตรทุกวัน อยากรู้ว่าพระใกล้มาถึงรึยังให้สังเกตเจ้าสุนัขสี่ขาจะวิ่งนำหน้ามาก่อน

จากนั้นไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารกัน

วิวตอนเช้า ถึงจะไม่เห็นทะเลหมอกแต่ก็ฟินมากกก ><

เมนูอาหารสำหรับเช้านี้ ไข่กระทะกับข้าวต้มหมูหอมๆ


มาๆๆ มาโซนร้านกาแฟกันบ้าง กาแฟที่นำมาชงที่นี่เป็นของดอยช้าง เร็วๆ นี้จะมีกาแฟจากแม่กำปองด้วย รสชาติกาแฟจะมีความเข้มข้นและมีครีม่าลอยอยู่ข้างบน ทิ้งไว้เป็นชั่วโมงก็ไม่หายไป กาแฟแก้วนี้เรียกว่า Espresso con Panna

“Espresso Macchiato คำว่า Mac ในภาษาอังกฤษคือการทำสัญลักษณ์ แต่ก่อนเวลากินกาแฟ บางคนจะใส่นม บางคนไม่ใส่นม เวลาเทนมลงไปใน Espresso นมจะจมลงอยู่ข้างล่าง คนเลยไม่รู้ว่าแก้วไหนใส่นม แก้วไหนไม่ใส่นม เลยมีการทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่าแก้วนี้ใส่นมโดยการเอานมหยอดลงไปด้านบน” ผู้เชี่ยวชาญด้านการชงกาแฟเล่าให้เราฟัง ขณะที่ชงกาแฟไปด้วย

เมนู Signature ของทางร้าน “Mazagran” ที่ชงผ่านเครื่อง hand press

ที่นี่ใช้เครื่อง hand press จากต่างประเทศ เป็นการส่งกาแฟแบบไม่ใช่ไฟฟ้า ใช้การสร้างแรงดันจากอากาศ โดยใช้น้ำร้อน รสชาติกาแฟที่ได้ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง

อาหารเที่ยงของเราวันนี้เซ็ตขนมจีนน้ำเงี้ยว

ส้มตำรสชาติกลมกล่อมกับปีกไก่ทอดกรอบบบบ


“ผัก สมุนไพรที่นำมาทำอาหารให้แขก ก็เก็บมาจากในหมู่บ้านนี่แหละ อยากไปดูไหมคะ สวนของชาวบ้านอยู่ใกล้แค่นี้เอง”

“ไปค่ะไป”

ออกเดินทางไปที่หมู่บ้านป๊อกกลางและป๊อกในกันเลยยยยเพราะเป็นแหล่งปลูกพืชผักของชาวบ้าน ที่ทางรีสอร์ทได้นำมาทำอาหารให้เรากิน เรียกได้ว่าผักปลอดสารพิษ สด สะอาด ปลอดภัย เด็ดกินสดๆ ได้เลย

ในหมู่บ้านมีน้ำตกด้วยนะ น้ำใสและเย็นมากก เรียกได้ว่าเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวบ้านที่นี่เลยแหละ

ยอดฟักแม้วหลังบ้านชาวบ้านแหล่งวัสดุของผัดยอดฝักแม้วที่เรากินกันเมื่อวานและเมล็ดกาแฟที่ปลูกอยู่ตามบ้าน

หมู่บ้านแหล่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบมาก ชาวบ้านอยู่กันแบบเรียบง่าย คนไม่พลุกพล่าน แวะมาเดินเล่นกันได้นะ 🙂

ก่อนบอกลา Lan Na Wild และบ้านป๊อกไป อยากบอกว่าที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งในความทรงจำดีๆ ไปอีกนานแสนนาน หากมีโอกาสเราจะกลับมาชาร์จแบตที่นี่อีกแน่นอน เอาล่ะ กายพร้อม ใจพร้อม กลับไปทำงานกันต่อออ ลุยยยยย

แผนที่ของรีสอร์ท

 

Relate Posts :