วงดนตรีปริศนา กับบทเพลงท่ามกลางสายฝน
คุณเคยได้ยินบทเพลงไม่ที่คุ้นหูบ้างไหม?
นั่นเป็นบทเพลงที่กระทบแก้วหู
เป็นครั้งแรกรึป่าว?
มันเป็นอะไรที่หลงไหลมากเลยนะถ้าเกิดว่าคุณดันหลงรักบทเพลงที่เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ซึ่ง เปรียบดั่ง Love at first sight เมื่อคุณเริ่มตกหลุมรักใครซักคนตั้งแต่แรกพบ
สิ้นปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปช่วยงานรุ่นพี่ถ่ายวีดีโอในกิจกรรมของ “หลงป่า” ร้านกาแฟกลางธรรมชาติ ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แต่อัดแน่นไปด้วยเหล่านักดนตรีมากหน้าหลายตา ในสุดสัปดาห์ของแต่ละอาทิตย์ ซึ่งตกเฉลี่ยแล้ว วันนึงจะตกที่สองวง
แต่เท่าที่สืบทราบมาแล้ว ในปัจจุบันทางร้านได้เปลี่ยนไปอยู่ในเมืองแทน โดยใช้ชื่อว่า แก้ว คาเฟ่ แอนด์ บาร์. ส่วนที่ตั้งของหลงป่าเดิม ได้กลายเป็นร้านกาแฟ จะได้ไม่ลืม Ja Dai Mai Leum แทน
ในระหว่างการทำงานและพบปะพี่ๆในแต่ละครั้ง จะอัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน และเป็นกันเองอยู่เสมอ พี่ๆนักดนตรี บรรดาคนในร้าน มักเป็นสีสันในบรรยากาศที่แสนน่ารัก และแสนอบอุ่น
การดำเนินงานยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนานจนกระทั่ง ผมก็มาสะดุดกับการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง เสียงไวโอลิน และกีตาร์ ที่แสนละมุนหูของวง Duoนี้
มันทำให้บ่ายวันอาทิตย์ของผมในครั้งนั้น รู้สึกมีความหมาย และเพลิดเพลินไปกับการทำงานมากกว่าครั้งไหนๆ
ไม่ทันไร ความอบอ้าวที่สะสมอยู่ในผืนดินก็เริ่มระเหยออกมา พร้อมหยดฝนที่ร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า ก่อเกิดเป็นความอมอุ่น ที่แทรกซึมเข้าไปในจิตใจ แล้วเพลงต่อไป ก็ได้เริ่มบรรเลง
ขณะที่ฝนโปรยลงมา เสียงกีตาร์ก็ได้เริ่มบรรเลง intro ขึ้น พร้อมกับเสียงไวโอลินที่คอยโอบอุ้มบทเพลงดั่งเสื้อกันฝนที่ช่วยโอบอุ้มร่างกาย เพื่อไม่ให้ใจเปียกปอน
เป็นเวลากว่าสี่นาที ที่ผมนั้นตกอยู่ในภวังค์กับ และลุ่มหลงไปกับบทเพลงที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่ที่พวกเขาได้เริ่มบรรเลง intro
จากคำอธิบายของมือกีตาร์ ที่ได้บอกว่า “ไอศกรีม” บทเพลงที่พวกเขาแต่งขึ้นมาจากเรื่องราว ที่พวกเขาได้ประสบพบเจอมา
นั้นเป็นข้อมูลเพียงอย่างเดียวที่ผมได้ล่วงรู้ และทำความรู้จักกับมัน แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปทักทาย ความวุ่นวายก็ได้ก่อตัวขึ้น
สายฝนก็โปรยลงมา นั้นมากกว่าที่ระบบอุปกรณ์ไฟฟ้าจะรับมือไหว ความร่วมมือร่วมใจจึงก่อกำเนิดขึ้น ทุกคนต่างช่วยกันเก็บข้าวของเครื่องใช้ ที่อาจเป็นอันตราย และอาจเกิดความเสียหายได้
จนของทุกอย่างถูกขนย้ายและเก็บรักษาในที่ ที่เหมาะสมและยากเกินกว่าที่สายฝนจะร่วงหล่นมาทำร้ายพวกมันได้
แต่แล้วมันก็สายเกินไป นักดนตรีทั้งสองได้ตัวหายไปพร้อมกับสายฝน ก่อนที่ผมจะทันได้ถามชื่อวงดนตรีของพวกเขา เพื่อติดตามผลงานในครั้งต่อไป เหลือทิ้งเอาไว้แต่ชื่อเพลงที่เขาได้เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาท่ามกลางสายฝนที่กรบเสียงบรรยายของเขา “ไอศกรีม”
มันทำให้ความอัดอั้นที่สะสมมาเป็นเวลากว่าสี่นาทีก็เริ่มเอ่อล้นออกมา พร้อมไล่ตามหาชื่อวงดนตรีจากพี่ๆที่ยังอยู่แถวนั้น แต่กลับไม่ได้คำตอบอะไร ทิ้งไว้แต่คำถามใจ
เมื่อเวลาผ่านไป “ไอศกรีม” ยังบรรเลงอยู่ในหัว ซ้ำไปซ้ำมา ในขณะที่โลกอินเทอร์เน็ตบนแพลตฟอร์มต่างๆ ก็ไม่สามารถช่วยให้ผมตามหาคำตอบที่ค้างคาใจนั้นได้
มันทำให้ผมถึงกับจำเป็นที่จะต้องขอไฟล์บันทึกจากพี่ที่ผมร่วมงานด้วย มาตัดเอาเพลงนี้เพื่อที่จะได้เสพติดมันอีกครั้ง ถึงขั้นเอามันลงในโลกออนไลน์ เพื่อที่จะไว้ รับมันตลอดไป
ถึงแม้ผมจะหาคำตอบที่ยังคงสงสัยไม่ได้ แต่แปะไว้ไม่น่าเสียหาย เพื่อมีใคร ล่วงรู้ใน วงดนตรีปริศนา กับบทเพลงท่ามกลางสายฝน
“แล้วมันก็ทำให้ใจ นั้นมันละลายไปเหมือนกับไอศกรีม”
ยังมีเรื่องราวในมุมมองอีกมากมายจาก “กล่องข้อความเที่ยงคืน” ใน https://reviewchiangmai.com/author/teerapat/