สว่าง ทองดี รูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันตามความชอบและความไม่ชอบ บางคนเลือกมีรูปแบบชีวิตแตกต่างกับคนส่วนมาก แต่ไม่ว่าจะใช้สุขนำหรือทุกข์นำ ก็ล้วนแต่เป็นการดำเนินไปของชีวิต
การมีชีวิตที่แตกต่างจากคนส่วนมากนั้น ไม่ใช่เป็นความบกพร่อง แต่บางทีรูปแบบชีวิตที่แตกต่างของเรานั้น คนส่วนมากกลับมองว่าบกพร่อง หากเราไม่สนใจในทุกๆ คำพูด น่าจะเป็นการยืนอยู่บนระยะห่างของข้อจำกัดเหล่านั้น เพื่อให้เราได้ใช้เวลาจัดสรรพื้นที่อันควรกับตัวเรา
สว่าง ทองดี อดีตอาจารย์สายวิทยาศาสตร์
สว่าง ทองดี อดีตอาจารย์สายวิทยาศาสตร์ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาให้ความเคารพนับถือมากหน้าหลายตา นั่นคือภาพอดีตที่ใครบางคนคงยังนึกถึง แต่พี่สว่างได้ก้าวเดินออกห่างมานานเป็นสิบปีแล้ว การตัดสินใจในตอนนั้น อาจเป็นทางเลือกที่ต้องใช้เวลาครุ่นคิดนับเดือน นับปี หรืออาจไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดหัวเลยก็ได้
การครุ่นคิดอาจเป็นนิสัยของนักวิทยาศาสตร์ที่จะพิสูจน์เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา พี่สว่างได้ทำการพิสูจน์และทดลองลึกลงไปในหัวใจและจิตใต้สำนึกของตนเอง ด้วยการเดินทางที่เชื่องช้าแต่ว่างดงาม
ชีวิตหลังลาออกจากการเป็นอาจารย์ พี่สว่างก็จัดสรรเวลาให้ได้ครุ่นคิดเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องท่องเที่ยวทางไกลที่หัวใจมันเรียกร้องอยู่ร่ำไปและสิ่งที่อยากทำหนึ่งในนั้นคือการทำกาแฟดริปเคลื่อนที่กับรถจักรยานพ่วงขายกาแฟ Nomad Coffee พร้อมกับจัดสรรเวลาตระเวนหา ตลุยทัศนศึกษาชมสวนกาแฟตามดอยต่างๆ ในเชียงใหม่ และให้เวลาอีกส่วนกับการเขียนหนังสือสลับกับไปเป็นไกด์นำเที่ยว
“การเดินทางด้วยจักรยานเป็นการเปิดโอกาสให้กับประสาทสัมผัสรับรู้ทุกๆสิ่งอย่าง ที่ผ่านเข้ามาปะทะ ไม่ว่าจะร้อน หนาว ลมพัด หรือเหน็ดเหนื่อย” -สว่าง ทองดี-
บนทุกความยากลำบากของเส้นทางในสภาพอากาศที่แปรปรวนและภูมิประเทศที่ต่างกัน มันคล้ายกับเป็นความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาเยี่ยมเยียน ทักทายชีวิตเราเพียงชั่วข้ามคืนวัน โดยมีเรื่องราวและความทรงจำดีๆ เป็นของฝาก เมื่อเราปรับตัวสร้างสมดุลให้กับตัวเราเอง เมื่อนั้นทุกๆ ความยากลำบากและอุปสรรคที่เข้ามา มันก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา ดั่งที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า
“Life is like riding a bicycle. To keep your balance you must keep moving”
ปั่นหลายสถานและปั่นขนานโลก
คือเรื่องเล่า เรื่องราวระหว่างทางที่นำมารวบรวมเป็นรูปเล่มให้คนที่มีหัวใจนักเดินทาง ได้ผ่านเข้าไปสัมผัสผ่านตัวอักษรพร้อมภาพถ่ายสวยๆ จากกล้องก๊อกแก๊กตัวเก่าซอมซ่อ ของชายพเนจรคนนี้
“ความรักของคนหนุ่มสาว หรือต่อทุกสรรพสิ่งรอบตัว ล้วนเป็นความรักที่งดงาม”-สว่าง ทองดี-
พี่สว่างเลือกที่จะใช้ชีวิตไร้คู่เหมือนนกเดียวดาย ระหว่างที่กางปีกโผบินไปยังที่ต่างๆ เพียงลำพังนั้น หลายคนอาจมองว่ามันช่างเป็นความเหงาอันแสนสาหัสแต่คนที่มีชีวิตคู่หรือได้ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ก็สามารถสัมผัสความเหงาได้ไม่ต่างกันกับการมีชีวิตลำพัง …เพราะความเหงานั้นอยู่รอบตัวเราเช่นเดียวกันกับความสุข เราจะอยู่กับความเหงาอย่างสุขใจได้อย่างไรนั้น คงต้องถามใจตัวเราเอง
“เป็นคนขี้เบื่อ ไม่ชอบอยู่ติดบ้าน ดูแลข้าวของไม่ได้ ออกมานอกบ้านเราก็นอนเต๊นท์ เต๊นท์นี่ล่ะคือบ้าน” -สว่าง ทองดี-
ไร้ราก-หลัก-ฐานของความมั่นคงทางทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่การไร้สิ่งเหล่านี้อาจถูกทดแทนเติมเต็มไปด้วยความสุขวันละเล็กวันละน้อย จนพอกพูนขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัยจากน้ำเสียงมุ่งมั่นจริงจังปนความสุขและแววตาที่มีประกายแวววาวเหมือนเด็กน้อยที่มองโลกจากพี่สว่าง
เรื่องน่าสนใจ
- การเดินทางของ ชูใจ กาแฟชูใจ
- ข้าว ผ้า ยา บ้าน และขนมปังธัญพืชแห่งบ้านดิน สู่ผืนดิน
- เจาะชีวิต เนพ พรถุม หนุ่มพรเทพ จากอดีตเด็กพังค์ สู่ศิลปิน ช่างภาพ นักปั่น ไปจนถึงครูดอย
- วิ่งเทรล เข้าป่า หัวใจพา สองขาไปกับ ยิม ชนัดดา