ภาวะบ้านเมืองตอนนี้เกือบจะเรียกได้ว่า Pandemic หรือเกิดการระบาดของโรคร้ายหรืออย่างน้อยๆก็เป็นขั้นเริ่มต้นของการระบาดแล้ว ส่งผลให้ผู้คนต้องกักตัวเองอยู่กับบ้านโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลแต่อย่างใด แน่นอนว่าภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนมากมายหลายอาชีพ
หลายองค์กร หลายโรงงานต้องมีการปิดตัว มีการ Lay-off เลิกจ้างหรือปรับลดค่าแรงกันขนานใหญ่ เป้าหมายคือต้องเอาตัวรอดให้ได้ในภาวะวิกฤติ ส่งผลให้หลายคนต้องตกงาน ขาดรายได้มาหล่อเลี้ยงครอบคัว แต่มาลองคิดๆดูไม่ใช่ทุกคนจะได้รับผลร้ายไปหมด เหตุการณ์นี้ก็อาจส่งผลดีกับอีกหลายอาชีพได้ ผมลองมาลิสต์ดูเอาเท่าที่พอจะคิดได้และใกล้ตัวผม ใครมีอีกก็เพิ่มเติมได้ในคอมเม้นเลย
- Food Delivery
อันนี้ชัดเจนเพราะคนไม่กล้าออกจากบ้านแต่ถึงยังไงคนเราก็ต้องกิน และในช่วงที่ผ่านมาพบว่าธุรกิจนี้เติบโตขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็น สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปและสถานการณ์ Pandemic ในปัจจุบัน ส่วนตัวผมคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ดีอย่างนึง คือเริ่มต้นได้ง่าย แค่มีมอเตอร์ไซค์ มีใบขับขี่และมีมือถือหนึ่งเครื่องก็เริ่มต้นอาชีพนี้ได้แล้ว ได้ยินมาว่าถ้าขยันหน่อยเดือนนึงอาจทำรายได้ 20,000-30,000 บาทเลยทีเดียว
2. Logistic, Delivery
ไม่ใช่แค่ขนส่งอาหารเท่านั้น แต่คนเราต้องการขนส่งสินค้า สิ่งของก็ต้องส่งด้วยเช่นกัน เมื่อไม่อยากออกบ้านไปส่งเองก็ต้องมีคนมารับ-ส่งให้ อย่างเอาง่ายๆว่าตอนนี้บ้านผมสั่งซื้อของก็สั่งจาก Tops Online, ผมสั่งซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆจาก Shopee, Lazada การออกไปเดินห้างช๊อปปิ้งเหมือนเมื่อก่อนน้อยลงมาก
3. Internet Provider
ใช่แล้วครับ ผู้ให้บริการ internet นี่แหละครับ ในบ้านเราก็มีไม่กี่เจ้าใหญ่ บางพื้นที่ก็อาจมีผู้ให้บริการท้องถิ่นอีกนิดหน่อย ถามว่าทำไมถึงสำคัญ ลองคิดดูว่าคนเราตอนนี้ให้อยู่บ้านเฉยๆจะทำอะไร คำตอบคือ เล่นเน็ตสิครับ แล้วจะเล่นเน็ตของอะไร ก็เล่นของเจ้าที่ดีที่สุด ไวที่สุด stable ที่สุด (อันนี้จะเชื่อมโยงกับข้อต่อไป) สุดท้ายทุกคนก็จะไปเลือกเจ้าที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด ในฐานะนักลงทุน ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสในการลงทุนกับบริษัทผู้ให้บริการ internet เหล่านี้ครับ หลายแห่งราคาตกลงอย่างมากแล้วในเวลานี้
4. Home Network Engineering, WiFi Specialist
ผมไม่รู้ว่าอาชีพนี้มีหรือยังแต่คิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่กำลังจะมาถึง ผมเห็นจุดอ่อนของผู้ให้บริการ internet คือทุกเจ้ามักจะแถมการติดตั้ง WiFi ให้ลูกค้าด้วย แต่ปัญหาคือ WiFi เหล่านั้นคือของแถมเขาจึงไม่ได้ใช้ของดีมาติดให้ หลายครั้ง internet บ้านไม่ได้ล่มแต่เพราะ router มันรับไม่ไหว ระบบ network ในบ้านไม่ทั่วถึงเพราะไม่ได้รับการออกแบบติดตั้งอย่างดี ต่อไปทุกบ้านจะลงทุนกับเรื่องนี้มากขึ้น อาชีพเกี่ยวกับการติดตั้งระบบ Home Networking จะมีความต้องการมากขึ้น
5. Content Provider, Content Platform
เมื่อช่องทางสื่อสารเอย ความเร็วเน็ตเอยมันดีแล้ว สิ่งที่คนต้องการต่อมาก็คือการเสพเนื้อหา (Content) ซึ่งก็จะมาจากทั้งผู้ผลิตคอนเท้นเองเช่น Netflix หรือมาจากตัวกลางให้คนอื่นเช่น Facebook, Youtube คนจะเสพเนื้อหาเหล่านี้เยอะมากขึ้นเพราะต้องอยู่แต่กับบ้านและไม่มีอะไรทำ Channel เหล่านี้จะมาแย่งเวลาชีวิตไปจากผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสของเราก็คือการผลิต content เข้าไปใน channel เหล่านี้เพื่อ generate รายได้แบบ passive income หรือจาก sponsor ทั้งนี้ รายได้ก็จะขึ้นอยู่กับการได้รับความนิยมบน channel หรือ page ของเรานั่นเอง
จากนี้ไป ข้อ 6-10 เป็นข้อที่ค่อนข้างจะห่างไกลจากตัวผมในตอนนี้ แต่ผมคิดว่าน่าจะมีผลกระทบอย่างแน่นอน
กริดไฟฟ้าหรือ (อังกฤษ: grid electrical)เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันสำหรับการจ่าย ไฟฟ้าจากผู้ผลิตต่างๆไปยังผู้บริโภค มันประกอบไปด้วยสถานีผลิตพลังงานไฟฟ้า, สายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่นำส่งพลังงานจากแหล่งที่ห่างไกลให้กับศูนย์ที่ต้องการใช้และสายกระจายแรงต่ำที่เชื่อมต่อลูกค้าแต่ละราย
6. ผู้ให้บริการไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน – Grid Electrical
ไฟฟ้าจะจำเป็นแบบขาดไม่ได้อีกต่อไปสำหรับชีวิตมนุษย์ยุคหน้า สังเกตดูรอบตัวเราล้วนต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งสิ้น ทั้งแบบใช้กับที่ (ที่บ้าน หอพัก สำนักงาน) และแบบพกพาตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ เราแทบจะขาดไฟฟ้าไม่ได้เลยแม้สักนาทีเดียว สังเกตว่าสมัยนี้ถ้าเกิดไฟฟ้าดับแม้เพียงไม่นานผู้คนจะเดือดร้อนมากๆ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้านี่จะไปได้ดี ถ้าลงทุนในโรงไฟฟ้าได้ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว หรือแม้แต่ลงทุนในการผลิตไฟฟ้าด้วย Solar Cell ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
7. คนขายหน้ากากอนามัย หน้ากากป้องกันก๊าซพิษ
เป็นที่แน่นอนว่าสภาพอากาศของโลกเลวร้ายมากขึ้นทุกวันจากมลพิษที่เพิ่มขึ้นประกอบกับจำนวนป่าไม้ที่ลดลง ตัวอย่างง่ายๆเช่นตอนที่เขียนบทความนี้ (มีค. 2020) อากาศของเมืองเชียงใหม่อยู่ในขั้นเลวร้าย (Hazardous) คือเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง ในอนาคตผู้คนจะต้องการหน้ากากที่ advance ขึ้นกว่าเดิมคือ ใส่สบายขึ้นแต่ป้องกันได้มากขึ้นคือกันได้ทั้งฝุ่นและกันเชื้อโรคได้ด้วย แต่หน้ากากก็คงจะขายได้ไม่ดีนักในภาวะสงบสุขไม่มี panic ใดๆ ดังนั้น ต้องคิดให้ดีหากคิดจะกักตุนเพื่อทำกำไร
8. ยารักษาโรค, วัคซีนต่างๆ
เพราะพฤติกรรมของคนสมัยนี้กินเยอะ บริโภคเยอะ แต่เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ออกกำลังกายน้อย ทำให้เจ็บป่วยง่ายกว่าสมัยก่อน และด้วยความง่ายของการรักษาโรคสมัยใหม่ก็คือการกินยาเพื่อรักษา ดังนั้น ผู้คนจะกินยากันเหมือนเป็นเรื่องปกติ แม้แต่หากไม่เจ็บป่วยอะไรก็ยังจะกินอาหารเสริมซึ่งก็คล้ายยาชนิดหนึ่ง คือเราจะกินยากันเหมือนเป็นการกินอาหาร ส่วนวัคซีนนั้นก็จะขายดีเพราะคนจะ Panic เมื่อเกิดโรคระบาดก็จะวิตกและหาทางป้องกันตัวเองโดยการฉีดวัคซีนต่างๆกันมากขึ้นทั้งในเด็กเล็กและวัยผู้ใหญ่
9. ธุรกิจโรงพยาบาล
ผู้คนจะใช้จ่ายเงินทองกับการรักษาตัวมากขึ้นเพราะอยากจะยืดอายุขัยของตนและคนที่รักไปให้นานที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อกระแส Pandemic ระบาดแบบนี้ความต้องการโรงพยาบาลยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมาก เพราะจำนวนเตียงหรือคนไข้ที่รองรับได้นั้นมีจำกัด แต่ปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงมากในระยะเวลาอันสั้น โรงพยาบาลจึงรองรับผู้ป่วยได้จำกัด ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่จะทำราคาได้ดีสำหรับธุรกิจนี้
10. อาชีพหมอ พยาบาล
อาชีพนี้เกี่ยวข้องกับข้อที่ผ่านมาโดยตรง คงจะไร้ประโยชน์มากหากโรงพยาบาลเป็นเพียงแค่สถานที่หรือเป็นเพียงแค่ตึกอาคาร แต่ปราศจากบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมอ พยาบาลและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ อาชีพผู้ชำนาญการด้านการแพทย์เหล่านี้จะเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงมากในอนาคตตราบเท่าที่มนุษย์ยังคิดค้นเครื่องจักรหรือ AI มาทำหน้าที่แทนแพทย์ที่เป็นคนไม่ได้
ความจริงแล้วยังมีอาชีพกวนๆที่ผมคิดว่าน่าจะไปได้ดีในช่วง Pandemic แบบนี้เช่น คนขายสุรา ขายเบียร์ เครื่องดื่มมึนเมาต่างๆ เพราะคนจำนวนมากเมื่อตกอยู่ในภาวะเครียดกังวลมักจะดื่มเพราะผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดหรือเพื่อพูดคุยระบายกับเพื่อนฝูง หรือแม้แต่อาชีพขายต้นไม้หรือขายสัตว์เลี้ยงก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะคนอยู่บ้านมักจะเหงา (โดยเฉพาะใครที่อยู่คนเดียวซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ) ก็อาจจะอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือปลูกต้นไม้เพื่อเป็นกิจกรรมงานอดิเรกก็เป็นได้