“Payaka Cafe” เพียงได้ยินชื่อก็อดสงสัยไม่ได้ว่าร้านนี้คือร้านอะไร ทำไมถึงใช้ชื่อนี้มีความหมายหรือไม่? ยิ่งพอได้เห็นภาพบรรยากาศของบ้านไม้สองชั้นดูอบอุ่นมีไม้เลื้อยปกคลุมให้ร่มเงา ถูกออกแบบตกแต่งให้สวยงามแปลกตา ด้านบนเปิดเป็นห้องพัก ด้านล่างเป็นคาเฟ่ เบเกอร์รี่ กาแฟ เป็นแบบโฮมเมด เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติก็ทำให้ยิ่งอยากรู้มากกว่าเดิม ว่าแล้วก็ไปสัมผัสกับบรรยากาศคาเฟ่สุดเท่กลางเมืองเชียงใหม่กันดีกว่า
– “Payaka Cafe'” คาเฟ่ชื่อแปลกตามภาษาแอฟริกา แปลว่า “ไร้ศาสนา” “การไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความอิสระทางความนึกคิด โปร่งเบาสบาย ”
– คาเฟ่เป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นบนเปิดเป็นห้องพัก ชั้นล่างเป็นคาเฟ่ มีเบเกอร์รี่ขาย การนำวัตถุดิบจากเมืองNara ประเทศญี่ปุ่นมาใช้เป็นส่วนผสม
– มีเสื้อผ้าให้เลือซื้อ ซึ่งเสื้อผ้าทำจากธรรมชาติทั้งหมด ทำจากใยธรรมชาติ มี Hemp , ลินิน , คอตตอน ชื่อแบรนด์ Asana
- พิกัด : เลขที่ 98 ราชเชียงแสน ซอย1 ( ซอยถัดจากเชียงใหม่นิวส์ 1ซอย เข้าซอยประมาณ50เมตร อยู่ซ้ายมือ ) ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่
- วันเวลาเปิด-ปิด : พุธ- อาทิตย์ 10:00 – 19:00 (หยุดทุกวันจันทร์ – อังคาร)
- โทร : 082 612 1325
- Facebook:Payaka Café
รูปแบบไลฟ์สไตล์รวมถึงแนวทางความคิด ความเชื่อในการดำเนินชีวิตของแต่ละคนในสังคมนั้น ล้วนมีความแตกต่างกัน เป็นธรรมดา ในชีวิตประจำวัน เรา “อาจจะ” หรือ “กำลัง” เดินสวนทางกับผู้คนบางกลุ่ม บางคน ที่เรามองพวกเขาเหล่านั้นว่ามีความแตกต่างจากที่เราเป็น ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์ บุคคลิก พฤติกรรมการกระทำ ซึ่งล้วนดูต่างจากเราหรือที่สังคมส่วนใหญ่เป็นการใช้ชีวิตตามแนวทางและความเชื่อของแต่ละคนนั้น หากจะว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลก็ถูกหรือเรียกว่าเป็นรสนิยมก็ไม่ผิด บางคนจึงเรียก กลุ่มคนเหล่านั้นว่าเป็นพวกปักเจกชน พวกนอกกรอบ บางคนก็นิยามคนเหล่านั้นว่าเป็นพวกฮิปปี้
“Payaka” ความหมายตามภาษาแอฟริกัน ซึ่งแปลว่า “ไร้ศาสนา” คนอาจจะสงสัยหรือขยายความได้ต่างๆ นานา เช่น ไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความอิสระทางความนึกคิด โปร่งเบาสบาย หากความหมายที่กล่าวมานี้ ไม่ได้หมายความถึงความมีทิฐิ ยึดมั่นในอัตตา เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง หรือเป็นลัทธิมอมเมาใดๆ แต่ในความหมายนั้น เปรี่ยบเสมือนการเลือกใช้ชีวิตเพื่อเรียนรู้ และเคารพยำเกรงในธรรมชาติ
บ้านไม้สองชั้น บางส่วนมุงด้วยหญ้าคา ชั้น2แบ่งเป็นห้องพัก ซึ่งไม่ได้มีความสะดวกสบายอะไรมากมายไปกว่าความสบายใจของผู้เข้าพัก กลุ่มคนที่มาพัก ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น บริเวณชั้นล่างแบ่งเป็นคาเฟ่ โดยคุณเป๊ปโป้ ภรรยาคู่ชีวิตคุณปอ (ผีบ้า พระคงฤาษี) เป็นนักดนตรีคู่หูกับคุณโทรุ ช่วยกันดูแล จัดการ ปรับปรุงส่วนต่างๆภายในบ้าน นอกจากนี้บริเวณข้างๆ ก็ยังมีStudio Tattoo
คุณเป๊ปโป้ ที่มีความชอบและความสามารถในการทำเบเกอรรี่ โดยการนำวัตถุดิบจากเมืองNara ประเทศญี่ปุ่นมาใช้เป็นส่วนผสม จนกลายเป็นเมนูประจำร้านคือ Hoji cha coffee ice latte และ Hoji cha caramel soft pudding จนกลายเป็นที่ติดอกติดใจของกลุ่มคนหนุ่มสาว ไม่เฉพาะแต่คนญี่ปุ่นที่มาพัก รวมถึงกลุ่มคนไทย และกลุ่มคนที่ติดตามมาจากงานซัมบลาลา เชียงดาว ก็แวะเวียนกันมาเป็นลูกค้าประจำ โดยมีน้องสมาธิ วัย1ขวบ10เดือน วัยน่ารักน่าชัง ลูกสาวคุณเป๊ปโป้และคุณปอ คอยต้อนรับ
- คุณ Toru Oguri หรือชื่อเฉพาะในกลุ่มคนดนตรีคือ Payaka Toru วัยย่าง50 ชาวญี่ปุ่น เขาเป็นนักดนตรี นักเดินทาง และเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง Payaka ครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นร่วม13ปี
และก่อนที่จะเดินทางมาเชียงใหม่และพบบ้านไม้หลังนี้ โดยส่วนตัว คุณโทรุเองก็มีความชื่นชอบและหลงไหลเสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่อยู่แล้ว และทุกครั้งที่มาเที่ยวเชียงใหม่เขาก็จะมาพักที่บ้านหลังนี้ ซึ่งแต่เดิมก็เปิดเป็นเกสท์เฮาส์ ก่อนที่เจ้าของคนเดิมจะเลิกกิจการ คุณโทรุจึงตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนๆที่เชียงใหม่ ช่วยกัน ตกแต่ง ต่อเติม ปรับปรุงที่นี่ จนเป็น Payaka เชียงใหม่ ถึงวันนี้ร่วม5ปีแล้ว
1. แนวคิดเริ่มต้นก่อนมาทำ Payaka?
เริ่มจากคุณโทรุ เขาทำที่ญี่ปุ่นอยู่ก่อนแล้ว ชื่อ Payaka เหมือนกัน ก่อนมาเปิดที่เมืองไทย ร่วม5ปีแล้ว มีหุ้นส่วนคนไทย ก่อนหน้าที่เป๊ปโป้จะมาทำ ก็มีคนไทยคนหนึ่งทำมาก่อนแล้ว ตัวคุณโทรุก็ไปๆมาๆญี่ปุ่นกับเชียงใหม่ เดี่ยวกลางเดือนนี้ก็มา หนูมาทำต่อในปีที่4 ทำได้สองปีกว่าแล้ว ในส่วนของคาเฟ่นี่เพิ่งมีทีหลัง Payaka ที่ญี่ปุ่นจะเปิดเป็นที่พักอย่างเดียว ส่วนเสื้อผ้าก็จะเป็นแบบขายออนไลน์
2. เสื้อผ้าจะในร้านจะเป็นธรรมชาติล้วน?
ใช่ค่ะ เป็นธรรมชาติทั้งหมด ทำจากใยธรรมชาติ มี Hemp , ลินิน , คอตตอน ชื่อแบรนด์ Asana ที่คุณโทรุเขาทำอยู่
3. ความหมายของคำว่าPayaka มันเกี่ยวกับปรัชญาหรือลัทธิอะไรหรือเปล่า?
ลูกค้าคนไทยบางคนที่มา ก็มานั่งคุยนั่งถามกันว่า Payaka คืออะไร จะว่าเป็นความเชื่อหรือปรัชญา มันก็คล้ายๆกัน แต่ไม่ถึงกับเป็นลัทธิ มันเป็นความเชื่อที่ว่า Free Thinking มีความเป็นอิสระในความคิดสร้างสรรค์และดำเนินชีวิต ถ้าลองหาดูจะแปลได้ว่าเป็นพวกไม่มีศาสนา จริงๆมันก็ตีความได้ต่างๆนานา แต่มันเป้นเรื่องของ ความอิสระทางความคิดแบบ Positive ไม่ถึงกับ Ego
4. ในส่วนของห้องพัก
เดิมที่นี่เป็นห้องพักชื่อ “เรือนไม้หอม” โดยส่วนตัวคุณโทรุเขาชอบเชียงใหม่ ชอบเดินทางมาเที่ยว เขาจะไปๆมาๆญี่ปุ่น-เชียงใหม่ และมาพักที่เรือนไม้หอมตลอดเลย พอเรือนไม้หอมกำลังจะเลิกทำ คุณโทรุรู้สึกเสียดาย เลยมาทำต่อ ช่วนเพื่อนคนไทยมาทำด้วยกัน ช่วยกันตกแต่งใหม่เกือบทั้งหมด
5. กลุ่มลูกค้าที่นิยมมาพัก?
กลุ่มที่มาพักหลักๆจะเป็นคนญี่ปุ่น ในส่วนของที่พักเราเป็นบ้านไม้แบบสมัยก่อนคือไม่มีแอร์ ห้องน้ำรวม มันไม่สะดวกสบายเลย แต่เขากลับยิ่งชอบ เหมือนแบบว่าที่บ้านเขาอะไรมันก็สะดวกสบายไปหมด
6. เขารู้จักที่นี่ได้ยังไง?
เหมือนหลายคนเขาก็เคยพักที่ Payaka ในญี่ปุ่น แล้วก็บอกต่อกันมาว่ามาเชียงใหม่ก็มี Payaka
7. พูดถึงงานชัมบาลา ?
แม่หนูเป็นคนจัด Organized คนไทยงานชัมบาลา ทำตั้งแต่ปีแรกเลย ลูกค้าส่วนมากที่ไปงานชัมบาลา หลักจากงานเขาก็จะมาที่นี่ มาร่วมจัดงานครบรอบ Payaka
8. กิจกรรมหลักๆที่จัดขึ้นที่นี่ ?
ก็จะมีงานครบรอบ Payaka และในโอกาสอื่นๆ มีการเล่นดนตรีแจมกัน จากหลายๆคน ซึ่งแนวดนตรีของแต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์และลักษณะเฉพาะ มีเครื่องดนตรีแปลกๆ มาร่วมแจม หลายแนว โดยเฉพาะแนวอะคลูสติค ส่วนแฟนหนู พี่ปอ (ผีบ้า พระคงฤาษี) ก็จะเล่นกีตาร์แบบเรคเก้ล้านนา และคุณโทรุจะเล่นคาริมบ้า (Kalimba เครื่อดนตรีแอฟริกัน) แจมกับคนอื่นๆ
โดมไม้ ดาว6แฉก คือสัญลักษณ์ของ Hemp และเป็นเวทีการแสดงดนตรี
9.ในส่วนของคาเฟ่?
หนูเพิ่งเริ่มทำได้ประมาณ4 เดือน ทำเองทั้งหมด ทั้งเค๊ก เบเกอรรี่ และเครื่องดื่ม
10. ลูกค้าที่มานิยมสั่งอะไร?
ก็จะเป็นชาร้อนที่สั่งบ่อย และเมนูประจำร้านเช่น Hoji cha coffee ice latte และ Hoji cha caramel soft pudding อย่างกาแฟก็เป็นแค่กาแฟดริป ไม่มีเครื่องทำกาแฟ จะเน้นแบบโฮมเมด Hoji cha เนี่ย เป็นของเพื่อนคุณชิเอะ เขาปลูกที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น แล้วเพื่อนของคุณชิอะ เขาก็เอาชามาฝากขายที่ร้าน Hoji cha เป็นชาที่เด็กอ่อนก็ดื่มได้ เพราะไม่มีคาเฟอีน หนูก็เลยเอามาทำชานมให้ลูกกิน ไปๆมาๆเริ่มชอบ ก็เลยขอเอามาทำขนมได้ไหม ทางนั้นก็ยินดีเลย
11. ลูกค้ามีกลุ่มไหนบ้าง?
มีทั้งกลุ่มคนญี่ปุ่นที่มาท่องเที่ยวและที่อาศัยในเชียงใหม่ กลุ่มคนยุโรป และกลุ่มคนไทยหลายวัยคละๆกัน ส่วนใหญ่มาถ่ายรูป (หัวเราะ)
12. มีแนวความคิดการจัดร้านยังไง?
หนูอยากให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน อย่างเรื่องทำเบเกอรรี่ หนูเองก็ยังไม่ใช่ Professional เลยต้องเอาวัตถุดิบที่ดีมาใช้ อย่าวานิลาก็ใช้วานิลาแท้เลย ไม่ได้แต่งกลิ่น เวลาทำก็จะคอยจดบันทึกไว้ตลอด ตอนนี้เริ่มเข้าที่แล้ว
