มีร้านค้ามากมายในเชียงใหม่ แต่ร้านใดคือร้านที่ดีที่สุดในความคิดของคุณ…สำหรับเราแล้ว ร้านที่ดีที่สุดไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่แพงที่สุด สวยที่สุด หรือมีลูกค้าและความนิยมมากที่สุด แต่ดีที่สุด คือตั้งใจและเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำได้อย่างถ่องแท้มากที่สุด นำเสนอได้ลึกซึ้งที่สุด และให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่คนเชียงใหม่และคนที่มาเยือน
โรงแรมราชมรรคา
พิกัด ถนนราชมรรคา เขตเมืองเก่า
โทรศัพท์ 053-904111
Rachamankha.com
มีที่พักมากมายหลากหลายสไตล์ในเชียงใหม่ แต่ที่พักแบบไหนที่จะเรียกได้ว่า ‘ได้พักที่เชียงใหม่’ อย่างแท้จริง ซึ่งหากพูดถึงโรงแรมที่จับอารมณ์ความเป็นเชียงใหม่และถ่ายทอดออกมาอย่างลงตัวคงไม่พ้น โรงแรมราชมรรคา โรงแรมบรรยากาศส่วนตัวและเงียบสงบในเขตเมืองเก่า แม้จะตั้งอยู่ท่ามกลางเขตชุมชนที่แวดล้อมไปด้วยผู้คนก็ตาม
คุณรุจ-รุจ จ่างตระกูล หนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงแรมราชมรรคา ซึ่งเป็นสถาปนิก เล่าให้ฟังว่าโรงแรมแห่งนี้เปิดเมื่อปี พ.ศ. 2004 มาจนถึงตอนนี้ก็ได้ประมาณ 11 ปีแล้ว เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ว่างเปล่า มีต้นไม้ประมาณ 19 ต้น จนถึงตอนนี้ต้นไม้ทุกต้นก็ยังเก็บรักษาไว้ดังเดิม ในส่วนของการออกแบบเป็นฝีมือของอาจารย์องอาจ สาตรพันธ์ ซึ่งบรรดาเฟอร์นิเจอร์โบราณทั้งหลายอายุเกือบร้อยปีคือของเก่าที่เป็นของส่วนตัวของเจ้าของโรงแรมสะสมไว้ โดยรูปแบบของโรงแรมเป็นบูติกโฮเทลที่ส่วนหนึ่งเป็นที่พักส่วนตัว สไตล์การตกแต่งของโรงแรมจึงสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลทางศิลปะที่เจ้าของโรงแรมชื่นชอบอย่างชัดเจน ดังนั้นสิ่งที่ทำให้คนประทับใจเวลามาเยือนไม่ใช่ความหรูหรายิ่งใหญ่สไตล์โรงแรม 5 ดาว แต่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นเชียงใหม่ในบรรยากาศส่วนตัวแบบบูติกโฮเทลมากกว่า
“เวลามีคนมาถามว่ามาตรฐานของโรงแรมได้กี่ดาว ผมมักจะตอบว่า 0 ดาว เพราะโรงแรมสไตล์บูติก ส่วนมากจะเน้น 4 ดาวอยู่แล้ว เราไม่สามารถทำให้เป็น 5 ดาวได้ เพราะไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรมใหญ่ๆ ในอเมริกาที่มีไนท์คลับ บาร์ ร้านทำผม อะไรแบบนี้ โรงแรมสไตล์บูติกส่วนใหญ่จึงไม่ใหญ่โต แต่เน้นความรู้สึกที่เหมือนบ้านมากกว่า ซึ่งนั่นคือความต้องการของเราที่อยากให้แขกที่มาพักรู้สึกราวกับว่าเขากำลังพักที่บ้านอีกหลังของเขาในเชียงใหม่ โดยบ้านหลังนี้สวยงาม สบาย พื้นที่กว้างขวาง และเป็นส่วนตัว เรามีพื้นที่กว่า 5 ไร่ แต่มีห้องพักเพียง 24 ห้อง พื้นที่บริเวณโดยรอบเป็นสวนร่มรื่น การมีพื้นที่กว้างขวางทำให้เราสามารถจัดสรรทำอะไรได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะหามุมทำงาน อ่านหนังสือ หรือนั่งเล่น ไม่มีใครรบกวนพื้นที่ส่วนตัวของคุณได้อย่างแน่นอน” คุณพอล วอล์กเกอร์ General Manager ของโรงแรมราชมรรคา บอกกับเรา
ห้องพักที่นี่มี 24 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่ Courtyard Superior จำนวน 18 ห้อง Grand Deluxe 4 ห้อง และห้อง Claasic Suite อีก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะให้บรรยากาศที่ต่างกันไป อย่าง ห้องสวีทห้องหนึ่งตกแต่งสไตล์โคโลเนียล ส่วนอีกห้องเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบล้านนากับโคโลเนียล ซึ่งภายในห้องสวีทแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือห้องนอน ห้องรับแขก และห้องนอนเด็ก ห้องน้ำใช้หินอ่อนขัด ให้ความรู้สึกหรูหราเป็นพิเศษ โดยห้องสวีททั้ง 2 ห้องคือห้องพักส่วนตัวของเจ้าของโรงแรม ทำให้คงบรรยากาศความเป็นส่วนตัวเต็มที่
“ผมมองว่าเวลาเราอยู่บ้าน เราย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว คนที่เดินทางไกลจากบ้าน ไม่ว่าจะพักที่ไหนก็ตาม เขายิ่งต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ รวมทั้งความสะดวกสบายที่เหมือนกับบ้านตัวเอง สิ่งสำคัญสำหรับการบริการที่นี่คือเราพยายามไม่รบกวนแขกจนเป็น Over Service อย่างเวลาที่เราไปช้อปปิ้งเซนเตอร์แล้วมีพนักงานในร้าน 3-4 คน เดินตามต้อยๆ ตลอดเวลา คิดดูสิว่าจะน่ารำคาญแค่ไหนถ้าหากเราอยู่บ้านแล้วมีคนคอยตามติดทุกฝีก้าว เราพยายามให้แขกมีพื้นที่ส่วนตัว แต่เวลาที่เขาต้องการอะไร เราต้องอยู่ใกล้ชิดพอที่จะให้ความช่วยเหลือหรือให้บริการอย่างทันท่วงที เป็นการสร้างสมดุลระหว่างการให้บริการที่ดีพร้อมกับการให้พื้นที่ส่วนตัวของแขกที่มาเยือน ซึ่งเรามองว่านั่นคือความต้องการของทุกคนที่มาพัก แขกที่นี่มีโอกาสผ่อนคลาย มีความเป็นส่วนตัว สามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรู้สึกอายหรือรู้สึกว่ามีคนตาม มีคนแอบมอง”
นอกจากการตอบโจทย์เรื่องของความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศสงบ แต่ไม่ขาดตกบกพร่องในเรื่องของการบริการแล้ว สิ่งที่ทำให้โรงแรมราชมรรคาโดดเด่นและเป็นที่ชื่นชมคือการรักษาอารมณ์ความรู้สึกของความเป็นเมืองเชียงใหม่ได้อย่างกลมกล่อม ทั้งบรรยากาศ สถาปัตยกรรม ที่ทำให้คนมาพักรู้สึกว่า ‘พักที่เชียงใหม่’ สมกับที่ได้รับการการันตีคุณค่าด้วยรางวัล Thailand Boutique Hotels 2009
“ปัญหาหนึ่งของบรรดาที่พักในเชียงใหม่คือไม่ว่าจะในเมือง นอกเมือง หรือในเขตเมืองเก่าและเขตคูเมืองก็ตาม ภาพ Skyline ของเชียงใหม่กลายเป็นเมืองดาดๆ ที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะตึกทุกตึกเป็นตึกปูนสี่เหลี่ยมเหมือนกันหมด ไม่มีเสน่ห์ ไม่มีคาแรกเตอร์ ถ้าคุณถ่ายรูปมาแล้วถามคนอื่นว่านี่เมืองอะไร เชื่อไหมว่าไม่มีใครตอบได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี มีทั้งเรื่องของวัฒนธรรม ศิลปะ ทักษะ ความสามารถของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบ สิ่งทอ แกะสลัก เครื่องเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วทุกอย่างสะท้อนเรื่องราวของความเป็นเชียงใหม่ในแง่มุมต่างๆ ทำไมเราถึงไม่นำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในงานดีไซน์ให้เกิดเอกลักษณ์ ให้สะท้อนถึงตัวตนเชียงใหม่ เรากลับเลือกใช้อะไรก็ไม่รู้ที่ไม่เข้ากับเชียงใหม่เอาเสียเลย อย่างตึกสูงที่อากาศไม่ถ่ายเท ทำให้อากาศที่ร้อนอยู่แล้วยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงพยายามตีโจทย์ว่าหากคนมาพักเชียงใหม่ต้องการอะไร อาคารที่สวย มีเสน่ห์ ใช้วัสดุที่เหมาะสมกับเขตร้อน เย็นสบาย มีเรื่องราวและบ่งบอกความเป็นเชียงใหม่อย่างชัดเจน ผมอยากให้คนมองตรงนี้กลับไปดัดแปลงไอเดีย เพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นเชียงใหม่เข้าไป ไม่ใช่ทำให้เป็นกระแส แต่ทำให้เชียงใหม่เจริญรุ่งเรืองขึ้น”
สำหรับมุมที่หลายคนยกย่องให้เป็นมุมที่ดีที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ คือบริเวณห้องโถงกลางของโรงแรมซึ่งเป็นตึกโบราณ เปิดโล่งรับลมทุกด้าน มองออกไปด้านหน้าเป็นสนามหญ้าและสวนร่มรื่น จะมานั่งอ่านหนังสือหรือทำงานส่วนตัวเงียบๆ ก็ได้ ใครจะแค่มานั่งชิลล์ๆ ก็สามารถเพลินตากับภาพที่เห็นตรงหน้า
“ผมมองว่าเอกลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจในเชียงใหม่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โรงแรม ที่พักต่างๆ เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ แต่โรงแรมราชมรรคาก็ยังคงแตกต่างจากที่อื่นๆ ในสายตาของนักท่องเที่ยว อาจเป็นเพราะเราได้แบ่งปันความคิด มุมมอง และต้องการพัฒนาเชียงใหม่ด้วยการตกแต่ง การใช้พื้นที่ของโรงแรมให้มีเสน่ห์ มีคาแรกเตอร์ มีบุคลิกที่มองเห็นได้ชัดเจนว่านี่คือเชียงใหม่”
ที่พักที่สะท้อนให้เห็นว่า ‘พักที่เชียงใหม่’ เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นการบอกเล่าให้ผู้มาเยือนได้รู้สึกผ่านรายละเอียดที่มองเห็นได้ด้วยตาและสัมผัสได้ด้วยหัวใจ นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกโรงแรมราชมรรคาเป็นโรงแรมที่ดีที่สุด
ท่านใดมีร้านที่ดีที่สุดในใจ แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที
