“ดวงใจ” กระหายน้ำ
กับธรรมชาตินั้น ที่สร้างชีวิต และชีวิตก็ดำรงอยู่ได้โดยมีธรรมชาติคอยดูแลเอาใจใส่ ดั่งพ่อที่คอยตักเตือน และแม่ที่คอยปลอบโยนด้วยความห่วงใย เพื่อทำให้ชีวิต ได้เติบโตและงอกงามได้ ตามที่ใจต้องการ
ทำไมโลกใบนี้ถึงเป็นดวงดาวที่แสนวิเศษ ทำไมธรรมชาติที่แสนสวยงามถึงคงอยู่เพื่อคอยมอบชีวิตให้ผู้อยู่อาศัยตัวน้อยๆบนดาวเคราะห์ดวงนี้ และมันถูกหล่อเลี้ยงด้วยสายน้ำ
วัฎจักรเหล่านี้ยังหมุนไปดั่งเช่น “โลก” ที่หมุนรอบตัวเอง
แต่แล้วทำไม
หัวจิตหัวใจคนเรา
ถึงถูกปล่อยทิ้งไว้
ให้มันแห้งเหือดไป
ตามกระแสของเวลา
——————————————————————————————————
เหมือนกับมนุษย์กำลังหลงลืม หรือแม้กระทั่ง อาจถูกบดบังจากสภาวะความตึงเครียดบางอย่างที่ตัวขึ้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน ปัจจัยอะไรก็ตามแต่ บางสิ่งที่เป็นเครื่องเติมเต็มจิตใจ กำลังถูกบดบังอย่างเศร้าหมอง
มันทำให้องค์ประกอบของความสุขนั้นขาดหายไปอย่างน่าใจหาย เปรียบกับฝืนป่าอันกว้างใหญ่ ที่กำลังป่วยไข้ จากพิษของความเจริญ ที่ถาโถมเข้ามาจึงนำมาซึ่งผืนป่าที่เหลือน้อยลง
เพราะพวกเราที่หลงลืมไป ว่าความกระหายในอำนาจ และตัณหา ที่ก่อตัวขึ้นมาภายในจิตใจ จึงทำให้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ที่เรามักมอบมันให้แก่สิ่งรอบข้าง รวมไปถึงตนเอง นั้นเลือนหายไป ดั่งดวงใจที่เหือดแห้ง
คุณรู้ใช้มั้ย?
ว่าต้นไม้ต้องการน้ำ
สิ่งมีชีวิตต้องการน้ำ
และดวงใจคุณเองก็ต้องการเช่นกัน
สมองนั้นอาจกระหายในอำนาจ กระหายตัณหา และดวงใจน้อยๆก็กระหายเช่นกัน แต่ว่าความกระหายของมันก็เพียงแค่กระหายหยดน้ำที่จะมาช่วยให้มันชุ่มชื่นอีกครั้ง และพองโตขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างสรรค์สีสันให้แก่โลกใบนี้อีกครั้ง และนำพาความชุ่มชื่นเหล่านี้ ไปสู่ดวงใจอีกนับไม่ถ้วนที่กำลังเหือดแห้งเช่นกัน ที่เปรียบดั่งสายฝนที่เย็นฉ่ำ ที่มักจะล่องลอยไป เพื่อให้ชีวิตผืนดิน ได้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง
ยังมีเรื่องราวในมุมมองอีกมากมายจาก “กล่องข้อความเที่ยงคืน” ใน https://reviewchiangmai.com/author/teerapat/