เพราะถ้าไม่มีเรื่อง ก็คงไม่ได้เล่า หรือถ้าจะเล่า เราก็ต้องมีเรื่อง
อนึ่ง มีเรื่องในที่นี้ไม่ใช่การไปหาเรื่องชกต่อยกับชาวบ้านนะครับ อย่าได้เข้าใจผิดคิดแบบนั้นเชียว เพราะอันที่จริงการมีเรื่องของผม ก็คือการมีเรื่องราวดีๆที่อยากเหล้า เอ๊ย อยากเล่า มาบอกกล่าว มาเหลา มาเล่าให้ฟัง
นอกจากการจะมาเล่าของผมแล้ว สถานที่ที่ผมจะเล่านี้ ยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายนับไม่ถ้วน ชนิดฟังวันเดียวก็ไม่จบ และ ก็ต้องอาศัยเวลาที่ต้องบอกว่านานพอสมควร กว่าจะฟังเรื่องเล่าทั้งหลายแหล่ให้จบ เพราะไม่อย่างงั้น เราจะไม่รู้จัก “ร้านเล่า”
ถึงตรงนี้รู้สึกว่าตัวเองชักจะเมากับคำว่า “เล่า” มาเยอะหลายบรรทัดแล้ว เอาเป็นว่าเราไปฟังเรื่องเล่าของ “ร้านเล่า” กันเลยดีกว่านะครับ ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีที่มาที่ไปเป็นยังไง
“ร้านเล่า” ที่ไม่ใช่ “ร้านเหล้า” คือร้านหนังสือเล็กๆร้านนึงในถนนนิมมานฯ ที่ก่อตั้งมานานกว่า 14 ปี แรกๆเดิมทีอยู่ตรงข้ามร้าน Eat Me ในถนนนิมมานฯนั้นแหละ จากนั้นต่อมาเลยย้ายหนีมาที่กาดเชิงดอย และสุดท้ายก็ย้ายกลับมาที่ถนนนิมมานฯ เหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนที่มาเป็นตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย หรือว่าตรงข้ามเยื้องๆกันกับ ถนนนิมมานฯ ซอย 3 นั้นแหละ
แล้วที่นี้มีอะไรดีแตกต่างต่างร้านหนังสือตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป?
อันดับแรกเป็นแหล่งพบปะพูดคุย ของหมู่นักอ่านและนักเขียนทั้งรุ่นใหญ่และเล็ก รวมไปถึงแวดวงนักวิชาการ คนทำงานองค์กรพัฒนาเอกชน คนทำงานศิลปะ หรือแม้แต่นักบวชในเชียงใหม่ เพราะที่นี้จะมีการจัดกิจกรรมสำหรับหนอนหนังสือกันอยู่เสมอ
สอง หนังสือที่เน้นจะเน้นหนักไปทางวรรณกรรม สารคดี เรื่องสั้น อีกทั้งยังมีหนังสือแนวประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา จิตวิทยาเอาไว้อ่านแก้เลี่ยน ฉะนั้นใครชอบสายนี้ไม่น่าพลาดที่จะแวะมา
สาม เนื่องด้วยร้านมันเล็กขนาดพอเหมาะ การบริการกับลูกค้ารับรองได้เลยว่าเต็มที่กว่าร้านใหญ่ๆตามห้าง และหากสมัครสมาชิกกับร้านในราคา 150 บาท (ปีต่อไปเสียปีล่ะ 100 บาท) ส่วนลดต่อเล่ม 10 เปอร์เซ็นทุกสำนักพิมพ์ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบกว่าร้านใหญ่ๆ อย่างนึง เพราะร้านอื่น มันลดแต่เฉพาะสำนักพิมพ์ตัวเอง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอย่างอื่น 5 แถมค่าสมัครบัตรยังไม่สนับสนุนให้คนไทยอ่านหนังสืออีก (ปกติก็อ่านกันน้อยอยู่แล้ว)
สี่ บรรยากาศน่ารัก อบอุ่น เป็นกันเอง มีกาแฟให้จิบเบาๆ (ชั้นบนของร้านมีเกสต์เฮ้าส์ให้พัก) ซึ่งต่างจากร้านหนังสือตามห้างที่เสียงดัง จนบ้างครั้งไม่เหมาะกับการเป็นร้านหนังสือ ไหนจะเสียงนู้น นี่ นั้น เพราะอย่าลืมว่าการอ่านหนังสือแต่ล่ะครั้งเราต้องการสมาธิและความสงบ
ห้า หมดแล้วครับ! ฮ่าๆๆ
ส่วนเรื่องสต็อกหนังสือก็มีการอัพเดตเล่มใหม่ๆ มาตลอดเหมือนร้านทั่วๆไป เล่มไหนเก่า สำนักพิมพ์เรียกเก็บคืนก็ส่งไปไม่ต่างจากร้านข้างนอก ซึ่งไอ้การเรียกเก็บคืนสำนักพิมพ์ ก็คือการเคลียร์หนังสือเก่า หรือหนังสือที่ไม่ได้ขายของสำนักพิมพ์นั้นๆ เพื่อเปิดให้เล่มใหม่ๆได้มาอวดตัวบนแผงกัน ส่วนใครใคร่อยากจะสั่งจองเล่มที่ไม่มีในร้าน หรือเล่มเก่าที่เก็บไป อันนี้ก็สอบถามสั่งจองกันได้
ทั้งนี้การเรียกเก็บคืนก็ยังเป็นการกระจายสินค้าบางที่ที่ขายไม่ได้ ไปยังบ้างที่ที่ต้องการสินค้านั้นอีกด้วย ฉะนั้นใครไปถามซื้อเล่มไหนแล้วไม่เจอ พนักงานบอกว่าเขาเก็บคืนก็อย่าไปโวยวายนะครับ เพราะของแบบนี้สั่งกันได้ แม้จะเก็บคืนไปแล้วก็ตาม
และสุดท้ายถ้าถามว่า “ร้านเล่า” เหมาะกับหนอนหนังสือประเภทไหน ก็ต้องตอบไปว่า เหมาะกับพวกคอวรรณกรรม เรื่องสั้น สารคดี หรือนวนิยาย ในบรรยากาศร้านแบบสบายๆ เกลียดความวุ่นวาย อยากได้ความสงบ อบอุ่น น่ารัก อยากรู้จักหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องหนังสือกับเพื่อนในแวดวงด้วยกัน นั้นน่าจะเป็นคำนิยามที่เหมาะสมกับมันที่สุด ณ ตอนนี้
- Info : ถนนนิมมานเหมินทร์ (ตรงข้ามเยื้องๆกันกับ ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 3) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
- เปิด 12.00 – 23.00 น. ทุกวัน เบอร์โทรศัพท์ 053-214888
เพราะที่นี้คือ “ร้านเล่า” ที่ทุกอย่างมีเรื่องให้เล่าตลอดเวลา
- The Booksmith ร้านหนังสือเชียงใหม่ขนาดกะทัดรัดสำหรับหนอนหนังสือทุกวัย
- เสน่ห์กลิ่นน้ำหมึกจากร้านหนังสือเก่า เชียงใหม่
- Humans of Chiang Mai ลุงปรีชา ขายหนังสือพิมพ์ ที่ถนนคนเดินท่าแพ