ถนนคนเดินวันเสาร์ วัวลาย เดินเปื่อย ปล่อยใจ เสพวิถีเจ้าถิ่นวัวลาย

ถนนคนเดินวันเสาร์ วัวลาย — แม้จะเป็นช่วงที่ฝนพรำ แต่พวกเรานั้น ยังไปเดินวัวลาย!  ( ถนนคนเดินวัวลาย) เป็นตลาดถนนคนเดินวันเสาร์ตอนเย็น โดยถนนเส้นนี้มีระยะทางเดินที่ลากยาวกว่าหนึ่งกิโลเมตร ตั้งแต่ด้านหน้าของตลาด ที่ติดกับประตูเชียงใหม่ ฝั่งถนนช่างหล่อ ยาวไปยันบรรจบกับถนนทิพย์เนตร 

Saturday Walking Street Wua Lai

จุดเด่นของถนนคนเดินวัวลาย จะเน้นไปที่เครื่องไม้และเครื่องประดับเงิน อีกทั้งอาหารพื้นเมืองและสตรีทฟู้ดยิบย่อยมากมาย ที่มีพร้อมให้ผู้คนที่มาเดิน ได้พักรับประทานกันอย่างไม่ขาดเหลือตลอดทั้งเส้นทาง ทำให้ถนนคนเดินเส้นนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งถนนคนเดินช่วงเย็น ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติพากันมาเดินเป็นจำนวนมาก ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่สายเดินตลาดตอนเย็นต้องแวะมา!!!

โดยวิธีที่จะเดินทางมายังถนนคนเดินวัวลายนั้น สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทางด้วยกัน ทั้งจากทางฝั่งถนนทิพย์เนตร หรือทางประตูเชียงใหม่ ฝั่งถนนช่างหล่อ โดยแอดเองขับมอเตอร์ไซต์มาหาที่จอดตรงบริเวณรอบๆ ประตูเชียงใหม่ จากนั้นก็เดินเลาะมาข้ามไฟแดงตรงถนนช่างหล่อ ฝั่งคูเมืองด้านนอก ก็จะสามารถเดินเข้ามาด้านหน้าของถนนคนเดินได้ (สำหรับใครที่เอารถยนต์มา แนะนำว่าไปเข้าทางฝั่งถนนทิพย์เนตรน่าจะสะดวกกว่า)  โดยตัวถนนคนเดินวัวลายเอง จะเริ่มเปิดตั้งแต่ช่วง 17:00 น. ถึง 22:00 น. 

แม้ในวันที่แอดไปเดิน จะมีฝนตกหนักมากในช่วงเย็น (แอบคิดในใจว่าจะมาเดินไม่ได้ซะแล้ว)  แต่เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวตลาดไม่นาน แอดก็พบว่าพายุฝนนั้นทำอะไรพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดแห่งนี้ไม่ได้เลย! ร้านค้าแผงลอยมากมายยังคงเปิด โดยที่ผู้คนเองก็ยังพากันมาเดินอย่างหนาแน่นเหมือนปกติ 

ภายในตัวถนนคนเดินเอง มีงานกราฟฟิตี้ติดอยู่บนกำแพง ให้ผู้คนที่เดินผ่านเข้ามาได้แวะถ่ายรูปกันด้วย

ตั้งแต่เดินเข้ามาในถนนคนเดินวัวลาย สิ่งที่ลอยเข้ามาเตะจมูกแอดอย่างแรก ก็คือกลิ่นหอมของข้าวเหนี่ยวมะม่วง บอกเลยว่าข้าวเหนี่ยวมะม่วงที่นี่จะมีรสชาติเข้มข้น หอมกะทิ หวานเนื้อมะม่วงฉ่ำๆ คนไหนมาเดินวัวลาย โดยที่ยังไมไ่ด้หาอะไรลงท้อง ลองมาแวะซื้อแวะกินข้าวเหนียวมะม่วงกันก่อนได้

“เครื่องประดับของใช้เครื่องเงิน”

ระหว่างที่เดินอยู่ อีกจุดเด่นของถนนวัวลายที่เราสังเกตุได้ก็คือ “เครื่องประดับของใช้เครื่องเงิน” เพราะตลอดข้างทางของถนนคนเดินวัวลาย จะเต็มไปด้วยร้านแผงลอยของพ่อค้าแม่ค้า ที่นำเอาเครื่องประดับ อุปกรณ์เครื่องเงินต่างๆ อาทิ สร้อยคอ กำไลข้อมือ เครื่องเงินทำลาย มาให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้เลือกดู เลือกซื้อกัน เรียกว่าเป็น สินค้าท้องถิ่นของชาวบ้าน ที่สร้างมูลค่าให้ถนนคนเดินเส้นนี้ได้มหาศาลเลยทีเดียว 

“งานเครื่องไม้” เองก็ไม่น้อยหน้าเครื่องเงินนะบอกเลย ที่ตลาดเองก็มีร้านไม้หลากหลายร้าน ที่ขายสินค้างานไม้สลัก ทำขึ้นจากฝีมือของผู้คนในชุมชน ทั้งไม้แกะสลักรูปช้าง โคมไฟจักรสาน กีต้าร์ไม้ และอีกหลายอย่าง ให้เราได้เลือกหยิบเลือกจับกลับไปเป็นของฝากให้คนที่บ้านกัน 


“วัวลายCenter”

เดินดูสินค้ากันเพลินๆ จนมาแวะหยุดพักหาที่กินข้าวกันที่ “วัวลาย Center” พื้นที่โซนขายอาหารภายในถนนคนเดินวัวลาย 

“ ร้าน Ken Hashimaki ”

เดินเข้ามาโซนของกิน เราก็ต้องมองหาของกินกันก่อนเลย โดยแอดแนะนำเป็น “ ร้าน Ken Hashimaki ” ร้านพิซซ่าม้วนญี่ปุ่น ที่นี่เขาขายพิซซ่าญี่ปุ่นในรูปแบบของโรลม้วน โดยจุดเด่นของพิซซ่าที่นี่ก็คือ แป้งนุ่มๆของพิซซ่าญี่ปุ่น พันกับไส้พิซซ่าที่มีให้เราเลือกทั้ง เบคอน ปูอัด ยำสาหร่าย ท็อปด้านบนด้วยไข่ดาว บอกเลยว่าใครเดินผ่านมา ไม่แวะไม่ได้!  

“แมงป่องทอดเสียบไม้

ใครที่ไม่อยากกินอะไรธรรมดา ที่นี่ถนนคนเดินวัวลายยังมีร้านขาย  “แมงป่องทอดเสียบไม้” บอกเลยว่าแม้ที่ร้านจะนำเสนอตัวแมงป่องได้สวย น่าลิ้มลอง แต่แอดเองยังใจไม่ถึงพอที่จะลองชิม (เขาว่ากันว่ารสชาติไม่ได้แย่เลย สายกินแมลงทอด ต้องมักแน่)  ใครมาถนนคนเดินวัวลาย แล้วได้มาลองกินแมงป่องเสียบไม้อันนี้ ช่วยแวะมารีวิวให้แอดฟังด้วยเน้อ 

นอกจากโซนกินข้าวแล้ว ถนนวัวลายเอง ยังมีโซนเครื่องเล่น ที่เปิดให้คนที่มาเดินในถนน ได้แวะเข้ามาเล่นมาม่วนกัน โดยโซนสำหรับเล่นกิจกรรมนี้ จะมีทั้ง เกมปาลูกโป่ง ยิงปืนตุ๊กตา และอีกมากมาย เรียกว่ามาเป็นฟีลงานวัดกันเลย 

เดินกิน เดินเล่น กันจนหน้ำใจ แอดพามาแวะไหว้พระ ขอพรกันที่ “วัดศรีสุพรรณ” โดยวัดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่มีอุโบสถเงินหลังแรกของโลก บอกเลยว่าไปไหว้สักการะขอพรกัน ไม่แน่อาจจะได้โชคได้ลาภกลับบ้านติดตัวกันไปก็ได้เน้อ

ภายในและภายนอกตัวอุโบสถนั้นถูกตกแต่งด้วยเครื่องเงินจากฝีมือของช่างแกะสลักในชุนชมอย่างประณีตและงดงาม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดจากฝีมือของชุมชนวัวลายอย่างแท้จริง 

แวะไหว้พระกันเสร็จ ก็มาแวะฟังพี่ๆจากชมรมร่วมใจใฝ่งานศิลป์ ขับกล่อมบรรเลงดนตรีไทยให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้รับฟังกัน ใครที่แวะมาเดินถนน ก็สามารถมารับฟังและช่วยสนับสนุน ให้กำลังใจพวกพี่ๆเขากันได้เน้อ

นอกจากจะมีดนตรีไทยแล้ว ที่ถนนคนเดินวัวลายเอง ก็จะมีเหล่าจิตกรรุ่นเก๋า มาคอยนั่งวาดรูปเหมือนให้คนแก่ผู้คนที่สนใจ บอกเลยว่าใครเดินผ่านไปผ่านมา ลองแวะนั่งให้เขาวาดรูปเหมือนกันได้ ใช้เวลาวาดไม่นาน แถมภาพที่ได้ก็สวยและวาดได้เหมือนมากๆอีกด้วย  


ในเรื่องของสินค้าแฮนด์เมดเอง ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินไปมาไม่น้อย โดยหลายๆ ร้านภายในถนนคนเดินวัวลาย ก็จะมีสินค้าแฮนด์เมดที่ทำออกมาเป็นในแบบเอกลักษณ์ในฉบับของแต่ละร้าน   

“ร้านช้างแกะสลัก”

โดยที่แอดเห็นเด่นๆเลย จะเป็น “ร้านช้างแกะสลัก” ร้านนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมสนใจของคนเดินตลาดมาก เพราะตัวช้างไม้แกะสลักของทางร้าน ได้ถูกทำออกมาได้อย่างสวยงาม มีการเติมสีสันลวดลาย ทางร้านเองยังมีบริการสลักชื่อให้ฟรีอีกด้วย คนไหนที่สนใจเอาช้างไม้แกะสลักกับบ้านไปเป็นของฝากน่ารักๆ อย่าลืมแวะไปที่นี่ได้เลย

นอกจากงานไม้งานประดิษฐ์แล้ว ทางเรื่องงานผ้าเองก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่สนใจผ้าพื้นเมืองหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสีสัน ทั้ง ผ้าคลุมลายล้านนา ผ้าถุงล้านนา ถูกนำมาตั้งโชว์ไว้ให้ผู้คนได้เดินเข้ามาเลือกหยิบเลือกดูกัน 

ไหนใครเคยกินหมี่พันบ้าง แอดเดินต่อมาได้อีกไม่ไกลนัก ก็ต้องแวะหยุดกันอีกแล้ว เนื่องจากมาสะดุดตากับร้านหมี่พันร้านนี้ เขาบอกว่าเป็นหมี่พันเมืองลับแล เลยแวะมาชิมกันสักหน่อย บอกเลยว่ารสชาติจัดจ้าน เขี้ยวเส้นยำกันมันส์เลย ถือว่าเป็นร้านที่นำเสนออาหารท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เป็นอย่างดี 

“ ร้านข้าวจี่และข้าวปุกงา ”

อีกหนึ่งร้านพื้นบ้านที่แนะนำ ก็คือ “ ร้านข้าวจี่และข้าวปุกงา ” โดยนี่เป็นอีกหนึ่งร้านดังของถนนวัวลายเหมือนกัน ตอนที่แอดไปซื้อนี่ บอกเลยว่ามีลูกค้าชาวต่างชาติมายืนต่อรอกินกันเต็มเลย เพราะข้าวจี่ของที่นี่นึ่งได้ไม่แข็ง อีกทั้งข้าวปุกงาเองก็อร่อย กรอบและหอมตัวงา ใครอยากมาชิม ต้องรีบเดินมาหน่อย

“ ร้านวาฟเฟิลเจียงใหม่ ”

นอกจากจะมีร้านขนมพื้นบ้านแล้ว ที่ถนนวัวลายเองก็ยังมีร้านขนมอีกเยอะแยะมากมาย ให้ผู้คนที่มาเดินตลาดแวะซื้อ แวะกินกัน อย่างเช่น “ ร้านวาฟเฟิลเจียงใหม่ ” ร้านขนมวาฟเฟิลหลากไส้ที่ยกมาทั้งไส้ลูกเกด ข้าวโพด เม็ดมะม่วงหินพานต์ พร้อมนูเทลล่าเข้มข้น บอกเลยว่ากินแล้ว อยากสั่งเพิ่มอีกแน่นอน    

ตอนกำลังจะเดินกลับ ไม่รู้ว่าแอดหูแว่วไปเองหรือป่าว เพราะแอดเผอิญได้ยินเสียงกบร้อง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเสียงกบที่แอดได้ยิน มันมาจากเครื่องเล่นไม้แกะสลักรูปสัตว์ ที่ความพิเศษของมันคือสามารถเลียนเสียงที่คล้ายกับสัตว์ได้ แอดยืนมองคุณตาเล่นอยู่นานเลย ขอบอกว่าที่ร้านไม่ได้มีแค่กบนะบอกก่อน ลองไปหาเลือกดูกันได้ 

หลังจากกว่าหนึ่งกิโลเมตรที่เดินกันมาตลอดทั้งเส้นทาง แอดบอกเลยว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของถนนคนเดินวัวลายแห่งนี้ ก็คือกลิ่นอายของความเป็นล้านนา และสินค้าท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงที่มาและเอกลักษณ์ของความเป็นเชียงใหม่ในสไตล์ของวัวลาย ดังนั้นหากใครที่สนใจมาเดินดูสินค้าพื้นบ้านล้านนา พร้อมกินอาหารอร่อยๆ แนะนำเลยว่าควรมาเลย มาเดินเปื่อย ปล่อยใจ เสพวิถีชีวิตของผู้คน ที่ถนนคนเดินวัวลาย!   

Relate Posts :