สวัสดีจ้าวว เดินทางมาใกล้ถึงสิ้นปี ใครที่ยังไม่ได้เดินทางออกไปตามล่าหาความสุข ถือว่ายังไม่สาย วันนี้เราจึงอยากแนะนำน้ำตก Unseen ลับๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ในหมู่หมู่บ้านแม่กลางหลวง ที่มีวิถีชีวิตของชนเผ่าปกาเกอะญอดั้งเดิมและความน่ารักของผู้คน ที่จะทำให้เรายิ้มตลอด ใครที่อยากหนีความวุ่นวายไปเข้าป่าดอยอินทนนท์ รีบแพ็คกระเป๋าแล้วตามกันมาเที่ยวตามรีวิวเชียงใหม่ พาไป เที่ยว Stylecation ชวนเที่ยวในแบบที่เราชอบ “วันนี้ก็จะแนวลุยๆ บุกป่า ฝ่าดง เรียนรู้วัฒนธรรมเมืองเหนือแบบเรียบง่าย แต่มีความพิเศษซ่อนอยู่” มีเวลาแค่ 1 วันก็หนีความวุ่นวายได้
จ่ายความจริงใจเป็นค่าผ่านทางเข้าไปหาธรรมชาติ
การจะเดินทางไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว สามารถ Walk in ได้เลย ไม่ต้องจอง มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไกด์กลุ่มละ 200 บาท ไม่เกิน 10 คน ระยะทางจากการเดินประมาณ 3 กิโลเมตรจากทางเข้า ทางเรียบง่ายแต่ความลื่นจากการที่ฝนตกทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินเข้าไป ดังนั้นจะต้องอาศัยจากใจที่รักธรรมชาติ ถึงจะเข้าไปถึงได้
ระหว่างก่อนจะไปถึงน้ำตกผาดอกเสี้ยว ก็จะมีลำธารเล็กๆ ให้เราได้ชื่นชมธรรมชาติตลอดทาง นอกจากจะต้องระวังว่าจะลื่นแล้ว ก็ต้องระวังสะดุดรากไม้อีก
หลังจากที่เราได้เดินทางมาสักระยะใหญ่ก็ได้ถึงแล้วน้ำตกที่เราตามหาน้ำตกผาดอกเสี้ยว ถ้าเป็นคนเหนือจะต้องร้องอุทานว่า “งามแต้งามว้า งามขนาด งามปะล้ำปะเหลือ” น้ำตกใสไหลเย็น ที่ตกลงมากระทบกับหินเกิดเป็นละอองฟุ้ง ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย
นานๆ ที่จะได้ออกมาเที่ยวแบนนี้ คนไม่เยอะ ไม่ต้องเบียด ยืนรอคิวถ่ายรูปนาน ถ่ายรูปสวยทุกมุม ไฮไลท์ ตรงนี้จะเป็นจุดที่สวยที่สุดของน้ำตกผาดอกเสี้ยว คือจะมีสะพานไม้ไผ่ทอดข้ามสายธาร
สะพานไม้ข้ามน้ำตกฉากในหนังที่ยังคงจำไม่ลืม
ย้อนกลับไปสมัยเด็กถ้าใครยังจำกันได้กับหนังเรื่องรักจัง ที่ฉายในปี พ.ศ. 2549 ที่สอดแทรกวัฒนธรรมภาคเหนือในหนังเรื่องนี้อย่างมากมาย ทั้งการแต่งกาย ภาษา และวัฒนธรรมอื่นๆ มีฉากถ่ายที่น้ำตกผาดอกเสี้ยวเนี่ยแหละ ปัจุบันสะพานไม้ที่พระเอกกับนางเอกมานั่งคุยกันนี้ก็ยังมีอยู่แบบเดิมเลย คลาสสิคสุดๆ จึงเป็นที่มาที่หลายคนเรียกว่าน้ำตกรักจัง
ก้าวเดินออกจากป่าสู่วิถีชุมชนปกาเกอะญอ บ้านแม่กลางหลวง
ขากลับเราเลือกที่จะไม่กลับทางเดิมที่เดินมา เลือกเดินไปข้างหน้าเพื่อเรียนรู้สิ่งดีๆ ที่กำลังรออยู่ หลังออกจากป่าก็จะเจอทุ่งนากว้าง ที่เรียงเป็นนาขั้นบันได เรียงกันไปสุดลูกหูลูกตา ทุ่งข้าวสีเขียวเพิ่มความสดชื่นให้มีกำลังใจในการเดินต่อ มาที่นี่ครั้งเดียวก็เหมือนได้เที่ยวสองที่
การเดินทางมาที่นี่ ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตของชนเผ่าปกาเกอะญอ ที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งวิถีชีวิต การแต่งตัว ภาษา คุณป้าคนนี้เดินผ่านในขณะที่เรากำลังเดินผ่านพอดี แม้ไม่ได้มีการพูดคุย แต่รอยยิ้มที่ส่งต่อให้กันมาก็ทำให้สุขในใจ ใครที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าปกาเกอะญอ ที่หมู่บ้านแม่กลางหลวงเขามีโฮมสเตย์หลายหลังให้พักด้วย เผื่อใครอยากจะมาพัก
สิ้นสุดปลายทางที่ร้านกาแฟแม่กลางหลวง คุณป้าเขาชงกาแฟให้สดๆ เติมได้ไม่อั้น หลังจากเดินมาเหนื่อยการดื่มแก่แฟทำให้รู้สึก Refreash อีกครั้ง ค่าบริการแฟอยู่ที่เราจะให้เลย เราเลยเปลี่ยนการซื้อเมล็ดกาแฟกลับแทน
พี่แมวคนใจดีแห่งหมู่บ้านแม่กลางหลวง
คนที่ทำให้เราผ่าฟันความลำบากนี้ไปได้ ต้องขอขอบคุณ “พี่แมว” พี่ไกด์นำทางของเรา ที่คอยให้ความรู้แนะนำในการเดินทาง
สุดท้ายของทริปนี้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตในหนึ่งวันได้คุ้มเกินกว่าที่เราคิดว่า ได้เที่ยว ได้ซึมซับวัฒนธรรมภาคเหนือดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ เที่ยว Stylecation แบบรีวิวเชียงใหม่ก็เป็นแบบนี้ ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนออกเดินทางตามล่าหาความสุขกันบ่อยๆ อีกแน่นอน
อยากออกไปตามล่าหาควาสุข เพิ่มความสุขให้เพิ่มแบบคูณทวีด้วยโปรโมชันดีๆ จาก www.stylecationthailand.com มีทั้งโปรโมชันโรงแรม การเดินทาง อย่าลืมตามไปส่องก่อนออกเดินทางด้วยนะ