Wanghou Mala Hotpot ราชินีหม้อไฟ

บรรยากาศฝนตก เย็นสบายแบบนี้ไม่มีอะไรจะฟินไปมากกว่าการกินหม่าล่าหม้อไฟอีกแล้วววววว

.

หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่าหม่าล่าคืออะไร คำว่าหม่าล่า (麻辣 má​là​) มาจากการรวมกันของคำศัพท์สองคำนั่นก็ คือคำว่า 麻 (má หม่า) แปลว่าชา กับคำว่า 辣 (​là ล่า) ที่แปลว่าเผ็ด ซึ่งมีความหมายสื่อถึงรสชาติที่มีทั้งเผ็ดและชา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาหารจีนเสฉวน ในประเทศไทยนิยมกันมากในภาคเหนือโดยเริ่มจากจังหวัดเชียงราย ก่อนจะค่อยๆ ฮิตมายังจังหวัดเชียงใหม่ แต่เมนูที่เราพบเห็นกันส่วนมากคือหม่าล่าแบบปิ้งย่างนั่นเอง

Highlights

  • วัตถุดิบที่ถูกคัดเลือกและนำเข้าจากประเทศจีน โดยเฉพาะตัวเครื่องเทศ

  • รสชาติที่เผ็ดชา ความเข้มข้นของน้ำซุป

  • เนื้อสัตว์คุณภาพเยี่ยม

  • ของว่างที่แปลกใหม่ โดยทุกชนิดจะมีหม่าล่าเป็นส่วนผสม

พิกัด : 49/1 ถ.เจริญสุข ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
Link : www.facebook.com/wanghouhotpot/
เบอร์โทร : 087- 879 – 2328
เวลาเปิด – ปิด : 17.30 – 0.00 น. เปิดบริการทุกวัน

เม็ดเล็กๆ ตากแห้งแบบนี้เป็นเครื่องเทศอย่างหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เรียกว่า “ฮวาเจียว (花椒 – huā jiāo)”  รูปร่างหน้าตาคล้ายเม็ดพริกไทยดำ ในภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า Sichuan pepper (พริกไทยเสฉวน) ซึ่งหม่าล่าเป็นแค่เพียงการเรียกอาการที่เกิดจากการรับประทานฮวาเจียวเข้าไปแล้วรู้สึกเผ็ดๆ ชาๆ ในปากนั่นเอง

.

นอกจากความรู้สึกเหล่านี้แล้ว ตัวหม่าล่าหรือฮวาเจียวนั้นยังมีสรรพคุณทางยาอย่างมากมาย เช่น แก้หวัด แก้วิงเวียนศีรษะ สามารถดับกลิ่นคาวในเนื้อสัตว์ได้ บ้างก็นำมาต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ ขับลมในลำไส้ แถมยังช่วยขับระดูในสตรีได้ เป็นต้น

Cr : หว่างโฮว – 皇后麻辣锅 – Wanghou Mala Hotpot

เครื่องเทศหลากหลายชนิดที่รังสรรค์ให้รสชาติอาหารโดดเด่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก โดยสามารถใช้ปรุงร่วมกับอาหารได้แทบทุกประเภท ไม่ว่าจะ ต้ม ผัด ทอด หรือปิ้งย่าง…

และแล้วก็ได้เวลาเม้าท์มอย… กับคุณพี่เจ้าของร้าน “หว่างโฮ่วหม้อไฟหม่าล่า” ชื่อร้านเขาก็มีที่มานะคะคุณ “皇后麻辣锅” ซึ่งแปลว่า “ ราชินีหม้อไฟ ” ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือเป็นสูตรต้นตำรับและใช้เครื่องเทศที่ส่งตรงมาจากจีน จุดเด่นของร้านที่ไม่เหมือนกับที่อื่นคือน้ำซุปที่ร้านจะปรุงขึ้นมาเอง

เมื่อมาถึงร้านแล้วในร้านมีโต๊ะนั่งกว้างขว้างสะดวกสบาย บนโต๊ะจะมีกล่องใส่ซองของทานเล่น ซึ่งพี่เจ้าของร้านบอกลูกค้าจะเข้าใจผิดว่าเป็นพริกหม่าล่าแต่จริงๆ ไม่ใช่ เราก็เลยแกะมาทาน รสชาติจะออกเผ็ดๆ จะมีหมึก เต้าหู้ ปลากรอบ มีหลายอย่างมาก เป็นซองๆ ให้กินรองท้องไปก่อน


เอาล่ะเรามาเริ่มสั่งกันดีกว่า โดยทางร้านจะมีเมนูให้เราเลือก มีแบบเป็นเซตและแยกเป็นจาน ราคาเริ่มต้น 19 บาท แล้วแต่เราชอบเลย เผอิญชอบทุกอย่างของเลยเต็มโต๊ะแบบนี้ โฮะๆ เอ้ะลืมบอกไปว่าทุกๆ วันที่ 1 และ 16 ของเดือน ทางร้านมีโปรโมชั่นเอาใจคอบุฟเฟ่ต์เพียงท่านละ 149฿ ไม่รวมเครื่องดื่ม ทานได้ 1 ชั่วโมง 45 นาที เรียกได้ว่าถ้าถูกหวยหรือถูกหวยกิน… ก็สามารถแวะเข้ามาลองชิมหม่าล่าหม้อไฟที่ร้านกันได้

อาหารมาเสิร์ฟแล้วเลือกไม่ถูกจะจุ่มอะไรก่อนดีเยอะแยะไปหมดเอาเนื้อจุ่มไปก่อน ตามด้วยหมูสามชั้น และค่อยๆ ตามลงไปทุกอย่างที่มีบนโต๊ะ  เนื้อโคขุนนุ่มๆ เข้ากับน้ำซุปหม่าล่าเผ็ดๆ ร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมอยากให้ได้เห็นตอนน้ำเดือดแล้วซดน้ำซุปร้อนๆ อือหือ ฟินนน~

.

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูพิเศษซึ่งไม่ได้มีมาบ่อยๆ นั่นคือเนื้อจระเข้ เนื้อกวางและเนื้อนกกระจอกเทศ เรียกได้ว่าหาทานยากใครที่อยากลองชิม แวะมาที่ร้านกันได้

มีน้ำจิ้มให้เลือก 2 อย่างคือน้ำจิ้มเผ็ด(ผสมหม่าล่า)และน้ำจิ้มสุกี้ซึ่งทางร้านปรุงเองทั้งหมด รับประกันความอร่อย

มาต่อกันด้วยเส้น เส้นเนี่ยมันไม่ใช่เส้นหมี่เหลืองนะคะ บอกไว้ก่อนมันคือเส้นโซเมนซึ่งหาซื้อยาก บอกเลยว่าอร่อยมาก ก.ไก่ล้านตัว เห็นในจานน้อยๆ อย่างนี้อย่าดูถูกเชียวนะคะบอกไว้ก่อน 555 พอจุ่มลงไปปุ้บ เส้นมันจะพองตัวในหม้อ กินแทบไม่หมดเพราะว่ามันไก้ อะอย่าเพิ่งงง ไก้ภาษาเหนือแปลว่าอืดเจ้า

เนื้อนุ่มๆ จุ่มลงไปในหม้อ แกว่งตะเกียบช้าๆ สัก 4 – 5 ที แล้วเอาเข้าปาก รับรองร้อนแน่ เพราะลืมเป่าก่อน ล้อเล่นนะ 5555


.

แต่ช้าก่อนหลังจากกินกันหมดเกลี้ยงและปากบึนกันไปแล้วขอบอกเลยว่าน้ำซุปหม่าล่าที่นี่เขาอร่อย เผ็ด ร้อน เข้มข้นถึงใจจริงๆ ฮอตพอๆ กับดิฉันเลยค่ะ(อรรถรส)

ดูได้จากสีน้ำซุปและพริกในหม้อ แถมยัง สามารถบอกว่าต้องการระดับความเผ็ดไหนได้อีกด้วย

กินเนื้อสัตว์แล้วก็ต้องกินผักด้วย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เคล็ดลับมีอยู่ว่า…ผักที่ทานกับซุปหม้อไฟอร่อยที่สุดนั้นคือกวางตุ้งกับหัวไชเท้า ว่าแล้วก็ชิมแต่ก็ลืมถ่ายรูปมาฝาก

เพราะหิวจนหน้ามืดไปหมด 5555 แต่อร่อยจริงๆค่ะ หัวไชเท้าหวานมาก เข้ากับน้ำซุปหม่าล่าที่รสชาติมันเผ็ดมันชา อยากให้มาลองด้วยตัวเอง

นอกจากจะมาทานที่ร้านกันได้แล้ว ทางร้านยังมีบริการจัดส่งถึงที่ และสามารถซื้อกลับไปทานที่บ้านกันได้ด้วย เรียกว่าเอาใจลูกค้าสุดๆ

.

พี่เจ้าของร้านแอบกระซิบมาว่าจะมีเมนูใหม่มาให้ได้ลิ้มลองกัน เป็นหม้อไฟที่มีหน้าตาหน้าทาน สีสันสดใส มีกุ้ง หมึกตัวโตๆ พร้อมเสริฟ์ให้นักชิมทั้งหลายแวะเข้ามาลิ้มลอง

บอกเลยว่า 10 10 10 รับประกันความเผ็ด ! เท่านั้นยังไม่พอทางร้านยังมีบัตรสะสมคะแนน เมื่อรับประทานอาหารครบ 200 บาท รับไปเลยแสตมป์ 1 ดวง เมื่อสะสมแสตมป์ครบตามกติกาสามารถแลกรับของรางวัลได้ฟรีอีกด้วยนะ…

โอ้ยยย ไม่ไปไม่ได้แล้วนะคะแบบนี้ 😀

Relate Posts :