info. เสาหิน อ.สารภี จ.เชียงใหม่(เวียงกุมกาม)
รู้มาคร่าวๆว่า เวียงกุมกามเป็นเมืองเก่าแก่ทดลองสร้างขึ้น ก่อนที่จะมาเป็นเมืองเชียงใหม่ แต่แล้วก็มีอันต้องล่มสลายลงเพราะ เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จนทำให้เวียงกุมกามถูกฝังจมลงอยู่ใต้ตะกอนดิน และเพิ่งมาขุดค้นพบเมื่อไม่ถึง 20 กว่าปีมานี้เอง
เวลาผ่านไปเกือบเดือน คราวนี้แหละได้เวลาเหมาะเจาะ เพราะเผอิญไปทำธุระแถวนั้นอยู่พอดี ผมพยายามค้นหาแผนที่เส้นทางให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะคราวที่แล้วไม่รู้ขี่รถวนเข้าไปซอยไหนทะลุซอยไหน มันสับสนไปหมด ยังกับเดินเข้าเขาวงกต แล้วหาทางออกไม่เจอ
“ไปตามป้ายที่บอก” ผมพยายามท่องไว้ในใจ ดูซิคราวนี้จะหลงอีกมั้ย
ผมขับไปตามป้ายเรื่อยๆ ซ้ายที ขวาทีซิกแซกไปตามป้ายเวียงกุมกาม มีขับเลยบ้างเป็นบางจังหวะ แต่ยังดีที่ไหวตัวทันเลี้ยวกลับมาเข้าเส้นทางเดิมอย่างเป็นรูปเป็นรอย
ขับไปถึงเจอรถม้า แสดงว่าใช่ เพราะเคยได้ยินว่าที่นี้มีรถม้าให้บริการนั่งเที่ยวชม แถมป้ายไวนิลยังบอกอีกว่ายินดีต้อนรับสู่เวียงกุมกาม พอไปถึงผมรีบจอดรถเดินสำรวจกันทันที ก่อนสายตาไปปะทะกับชื่อวัดในนาม “วัดช้างค้ำ”
พอรู้ชื่อวัดแล้ว ก็รีบมองหาสอดส่ายสายตาว่า โบราณสถานที่เราเห็นจากรูปในอินเตอร์เน็ตมันอยู่ตรงไหน ปรากฏว่าหาไม่เจอครับ
“อ้าวมาผิดที่รึเปล่าว่ะ” ผมบ่นอยู่ในใจคนเดียว
ไม่นะ ไม่น่าจะใช่ ก็ป้ายบอกกันอยู่ทนโท่ จะผิดกันได้ไง ผมพยายามปลอบใจตัวเองว่าไม่หลงทางหรอก
ณ เวลานั้นความสงสัยยังไม่คลี่คลาย ผมเลยอาศัยเดินสำรวจกันเลย เดินดูรอบๆให้รู้ว่าที่นี้มันที่ไหนกัน
เจอป้ายบอกว่าที่นี้คือจุดค้นพบเวียงกุมกาม ปี พ.ศ. 2527 พูดง่ายๆก็ต้องบอกว่าคือจุดสตาร์ทในการขุดค้นพบเวียงกุมกาม ก่อนจะเลยเถิดขุดไปเจอสถานที่สำคัญอีกหลายๆแห่งในบริเวณแถวนั้น แถมวัดช้างค้ำยังเป็นศูนย์กลางของการนำเที่ยวชมโบราณสถานต่างๆ ในเขตเวียงกุมกามอีกด้วย
.
ส่วนประวัติของวัดช้างค้ำ พญามังรายได้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 1833 ประกอบด้วยฐานเจดีย์ฐานกว้าง 12 เมตร สูง 18 เมตร มีซุ้มคูหาสี่ทิศ มีการใช้พระพุทธรูปซ้อนเป็น 2 ชั้น วิหารและเจดีย์ทรงมณฑปบนฐานลานประทักษิณเตี้ย บริเวณฐานวิหารพบพระพิมพ์ดินเผาแบบหริภุญไชยฝังไว้โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์อีก 1 องค์ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมณฑปยอดระฆัง ในบริเวณวัดกานโถมยังมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ได้อัญเชิญเมล็ดจากเมืองลังกามาไว้ด้วย
ผมเดินไปหยอดเงินทำบุญตรงพระพุทธรูปปางต่างๆ หยอดเสร็จพนมมือ แล้วเดินกลับ แต่แทนที่ผมจะเดินไปหาถ่ายรูปหยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงบทสวดจากกล่องที่หยอดลงไป โอ้ว นั่นมันเสียงพระสวดแบบอัตโนมัติ โลกนี้จะอัจฉริยะ ล้ำยุคไปไหน ผมเจอครั้งแรกแทบหงายหลังทันที แบบว่ามันตั้งตัวไม่ทันกันจริงๆ
ถ่ายรูปเสร็จ มองสำรวจไปรอบๆ นักท่องเที่ยวที่มาก็บางตาพอสมควรครับ ก่อนกลับยังไม่หายสงสัยในเส้นทางและเวียงกุมกาม แล้วเดินแวะไปถามไกด์แถวนั้น ได้ความว่า จริงๆ แล้วเวียงกุมกามมันไม่ใช่เฉพาะตรงจุดนี้ตามที่ผมเข้าใจ แต่มันรวมหมายถึงทั้งโซนรอบๆบริเวณนี้ โดยมีวัดหลายๆที่เป็นพันธมิตรร่วม แต่สำหรับวัดช้างค้ำจะเป็นจุดสำคัญที่ค้นพบครั้งแรกเท่านั้น ส่วนที่อื่นก็จะมีโบราณสถานสำคัญๆ สวยงามแตกต่างกันออกไป
ไหนๆก็ถามพี่ไกด์สุดหล่อแล้ว เลยถามต่อว่าใครเป็นคนดูแลแถวนี้ แกบอกด้วยสำเนียงน่าน้อยใจปนกังวลประมาณว่า ก็มีเทศบาลและชาวบ้านในหมู่บ้านเนี่ยแหละที่ดูแลกันเอากับการบริหารจัดการท่องเที่ยว ใจจริงแกบอกอยากให้หน่วยงานอื่นๆมาสนับสนุน อย่างน้อยๆ ชาวบ้านแถวนี้ก็จะได้มีรายได้จากธุรกิจการท่องเที่ยว ลืมตาอ้าปากกันบ้าง
ก่อนจากลาผมขอบคุณที่พี่แกช่วยไขข้อสงสัยให้คลี่คลาย พร้อมกับย้ำว่า คราวหน้าขอเวลาเต็มๆวันไล่เก็บกวาดเที่ยวเวียงกุมกามให้มันครบสมบูรณ์แบบ ไม่ขาดตกบกพร่อง มาคราวนี้ถือว่ามาตรงเริ่มต้นของมันก่อนล่ะกัน
ระหว่างจะบิดมอเตอร์ไซค์ไป นึกคำพูดอย่างนิ่งพี่แกได้ว่า ป้าายบอกทางแถวนี้ มันจะไม่ได้บอกล่วงหน้า 50 เมตร 100 เมตรนะ แต่มันจะบอกให้เลี้ยวทันทีก่อนจะเลยป้ายไป
ว่าแต่ว่าเมื่อกี้ผมมาจากทางไหนว่ะ?
ดู วัดช้างค้ำ ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า